“บสก.“ จับมือวีบียอนด์ เคลียร์ ‘เอ็นพีเอ’ 2ปี ขายทรัพย์ 1.8หมื่นล.

“บสก.“ จับมือวีบียอนด์ เคลียร์ ‘เอ็นพีเอ’  2ปี ขายทรัพย์ 1.8หมื่นล.

บสก.จับมือวีบียอนด์เคลียร์ ‘เอ็นพีเอ’ ล็อตแรก 5พันล้าน เตรียมจับมือพันธมิตรใหม่ต่อเนื่อง ตั้งเป้าระบายทรัพย์เก่า 2 ปี 1.8 หมื่นล้าน

ล่าสุด บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางธุรกิจ (MOU) กับ บริษัท วี บียอนด์ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ VBeyond

เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการสินทรัพย์รอการขาย(เอ็นพีเอ) ด้วยโมเดลธุรกิจ “หมุนเร็ว แบ่งกำไร” ที่มุ่งเน้นการสร้างประโยชน์สูงสุดในธุรกิจร่วมกัน 

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM กล่าวว่า ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นยุทธศาสตร์ของบริษัทในการมุ่งขยายฐานธุรกิจและสร้างรายได้เพิ่มขึ้น

และท่ามกลางเอ็นพีเอที่อยู่ในระบบค่อนข้างมาก การจับมือกับวีบียอนด์ครั้งนี้ จะช่วยเข้ามาระบาย “เอ็นพีเอ”ของบริษัทอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

โดยตั้งเป้าในการขายในการขายเอ็นพีเอให้วีบียอนด์เฟสแรก 5,000 ล้านบาท เพื่อนำไปรีโนเวท เพื่อขายต่อในยูนิตละไม่เกิน 3 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามหลังจากนี้บริษัทจะเดินหน้าลงนามกับบริษัทพันธมิตรต่างๆต่อเนื่อง ทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ที่จะเข้ามาระบายเอ็นพีเอที่มีมูลค่าสูง ที่คาดมีราว 3-4 ราย ที่เตรียมลงนามต่อเนื่องหลังจากนี้

ทั้งนี้มองว่า การจับมือกับพันธมิตรต่างๆจะช่วย BAM ในการบริหารสินทรัพย์ที่รอการขายได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยตั้งเป้าการจับมือครั้งนี้จะสามารถระบายเอ็นพีเอออกจากระบบของ BAM ได้ 30% หรือราว 1.6-1.8 หมื่นล้านบาท ภายใน 1.5 -2ปีข้างหน้านี้

จากปัจจุบันที่บริษัทมีทรัพย์สินรอการขายอยู่ในความดูแลกว่า 24,000 รายการ คิดเป็นมูลค่ากว่า 74,000 ล้านบาท กระจายอยู่ตามภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ

“วันนี้เรายังเดินหน้าแต่งงานกับอีกหลายพันธมิตรเพราะเรายังมีทรัพย์อีกมาย ที่มองว่าสามารถนำมาสร้างมูลค่าเพิ่มได้ โดยเฉพาะที่ดินต่างๆ หรือเอ็นพีเอที่มีราคาสูงขึ้น ที่จะเป็นก้าวถัดไปของ BAM ที่จะเห็นเราจับมือกับเจ้าสาวรายใหม่ๆ เพื่อระบายสินทรัพย์เหล่านี้ออกมามากขึ้น เช่นเดียวกับการจับมือกับธนาคารแห่งรัฐ คือธนาคารอาคารสงเคราห์ (ธอส.)และธนาคารออมสิน ที่วันนี้เราเดินหน้าคุย เพื่อหาแนวทางในการช่วยลูกค้าเราให้มีโอกาสกลับมาสู่ระบบการเงิน และได้สินเชื่อเพิ่มเติมในอนาคต หากลูกค้าผ่อนดีต่อเนื่อง 12-24เดือน เพื่อลดการปฏิเสธสินเชื่อจากแบงก์ แนวทางนี้จะช่วยลูกหนี้ในระบบให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้อีกมาก” 

สำหรับเป้าหมายของ BAM หลังจากนี้ บริษัทตั้งเป้าลดการถือเอ็นพีเอ ให้เหลือเพียง 3-4 ปี จากเดิมที่อาจต้องใช้ระยะเวลาในการขายทรัพย์ได้ในเวลา 7-8% เพื่อเปิดทางในการเพิ่มสภาพคล่องให้กับบริษัทมากขึ้น เนื่องจากมองว่า ภายใต้เศรษฐกิจปัจจุบัน ที่คาดว่าจะมีหนี้เสียจำนวนมากออกสู่ระบบการเงิน บริษัทอาจต้องมีการเตรียมพร้อมด้านกระแสเงินสดต่างๆไว้ เพื่อรองรับการซื้อหนี้ที่จะเข้ามาในอนาคตได้มากขึ้น

ด้านดร.วรเดช รุกขพันธุ์ เปิดเผยว่าทางวีบียอนด์จะคัดเลือกทรัพย์สินรอการขายจาก BAM ทั้งประเภท บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ เพื่อนำมารีโนเวทใหม่ ภายใต้โครงการ “บ้านสร้างตัว” บนการนำบ้านใหม่หรือบ้านมือ 2 มารีโนเวทพร้อมอยู่อาศัย เพื่อให้คนไทยมีทางเลือกในการเข้าถึงบ้านคุณภาพในราคาที่จับต้องได้ไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยผ่อนเริ่มต้นแค่หลักพันต่อเดือน พร้อมวงเงินสินเชื่อสูงสุด 110% ของหลักประกัน

โดยจะเริ่มปักหมุดจากพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และขยายสู่ภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ พร้อมเจาะกลุ่มเป้าหมายหลักเฟสแรกในกลุ่มข้าราชการและพนักงานที่มีเงินเดือนประจำ และในเฟสที่ 2 สำหรับกลุ่มประชาชนทั่วไป