สรุปประชุมเฟดคงดอกเบี้ย ‘พาวเวล’ ส่งสัญญาณ 5 ประเด็นสำคัญ

สรุปประชุมเฟดคงดอกเบี้ย ‘พาวเวล’ ส่งสัญญาณ 5 ประเด็นสำคัญ

สรุปประชุมเฟด 5 ประเด็นสำคัญ หลัง FOMC มีมติเป็นเอกฉันท์ คงดอกเบี้ย 4.25-4.5% ด้าน ‘พาวเวล’ ส่งสัญญาณเตือน ภาษีนำเข้า 'ทรัมป์' ดันเงินเฟ้อพุ่ง

เมื่อคืนที่ผ่านมา การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด สิ้นสุดลงด้วยการประกาศคงอัตราดอกเบี้ยและส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต  โดย 5 ประเด็นสำคัญจากการประชุมได้แก่

1.'เฟด’ คงอัตราดอกเบี้ย

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ คงอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงไว้ที่ระดับ 4.25-4.5%

2.คาดลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้

แผนภาพ "Dot Plot" หรือการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย ยังคงชี้ให้เห็นว่ามีการคาดการณ์ว่าจะลดดอกเบี้ยลง 0.5% ในปี 2568 ซึ่งเท่ากับการปรับลด 2 ครั้งในปีนี้ ตัวเลขนี้เท่ากับที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา

สรุปประชุมเฟดคงดอกเบี้ย ‘พาวเวล’ ส่งสัญญาณ 5 ประเด็นสำคัญ

อย่างไรก็ดี ประธานเฟด “เจอโรม พาวเวล” ยังกล่าวอีกว่าการคาดการณ์อาจเปลี่ยนแปลงไปตามข้อมูลที่เข้ามา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องเงินเฟ้อ  

 

3.ปรับมุมมองความเสี่ยง

แถลงการณ์ของเฟดได้ ตัดข้อความที่ระบุว่า "ความเสี่ยงของการว่างงานที่สูงขึ้นและอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นได้เพิ่มขึ้น" ออกไป โดยเฟดระบุว่าความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ "ลดลงแต่ยังคงสูงอยู่"

4.’พาวเวล’ เตือน ภาษีนำเข้า ‘ทรัมป์’ ดันเงินเฟ้อพุ่ง

พาเวลกล่าวว่า “อย่าให้ความสำคัญกับการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางมากเกินไป ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามข้อมูลที่เข้ามา โดยเฉพาะด้าน “เงินเฟ้อ” ซึ่งเฟดคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า “

นอกจากนี้ พาเวลยังเผยว่าอัตราเงินเฟ้อราคาสินค้ามีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” กำลังเตรียมเก็บภาษีนำเข้าจากผู้บริโภคชาวสหรัฐ ซึ่งพาวเวลล์แย้งว่าผู้บริโภคเหล่านี้จะเป็นผู้แบกรับต้นทุนบางส่วน

"ท้ายที่สุดแล้ว ต้นทุนของภาษีศุลกากรจะต้องถูกจ่าย และส่วนหนึ่งจะตกอยู่กับผู้บริโภคปลายทาง"

5.ปรับประมาณการเศรษฐกิจ

เจ้าหน้าที่เฟดได้ ปรับเพิ่มประมาณการอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ขึ้นเป็น 3.1% ณ สิ้นปี 2568 จากที่เคยคาดไว้ 2.8% ในเดือนมี.ค.  ขณะเดียวกัน ก็ได้ ปรับลดประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจ ลงเหลือ 1.4% ณ สิ้นปี 2568 จาก 1.7% ที่คาดไว้ก่อนหน้านี้

อ้างอิง Bloomberg