ราคาทองคำโลกสูงขึ้น หลังข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาด

ราคาทองคำโลกปรับตัวขึ้นในวันพุธ โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ ที่ออกมาต่ำกว่าคาด นักลงทุนคาดเฟดจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยภายในเดือนกันยายน
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานภาวะตลาดทองคำโลกวันพุธ (11 มิ.ย.) หรือเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทยว่า ราคาทองคำปรับตัวขึ้นในวันพุธ โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ออกมาต่ำกว่าคาด ส่งผลให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยภายในเดือนกันยายน
ราคาทองคำในตลาดสปอต (SpotGold) ปรับขึ้น 0.1% อยู่ที่ 3,324.72 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 13.55 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐ (17.55 GMT) หลังจากพุ่งขึ้นถึง 1% ในช่วงต้นเซสชันของการซื้อขาย
ราคาทองคำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของสหรัฐฯ(Gold Futures) ปิดที่ 3,343.7 ดอลลาร์ โดยแทบไม่เปลี่ยนแปลง
- อัปเดตราคาทองคำวันนี้ (12 มิ.ย.)
บลูมเบิร์ก รายงานว่า ราคาทองคำปรับตัวขึ้น 0.6% สู่ระดับ 3,373 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 1% จากช่วงก่อนหน้าซึ่งได้รับแรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่า ความสนใจในการซื้อเพิ่มขึ้น หลังจากสหรัฐฯ สั่งให้เจ้าหน้าที่สถานทูตบางส่วนออกจากกรุงแบกแดด และอนุญาตให้ครอบครัวทหารออกจากตะวันออกกลางได้ หลังจากอิหร่านขู่ว่าจะโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ หากการเจรจาเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ล้มเหลว
ราคาทองคำสูงขึ้น 0.3% สู่ระดับ 3,364.43 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 7.59 น. ตามเวลาสิงคโปร์ ดัชนี Bloomberg Dollar Spot ทรงตัวหลังจากร่วงลง 0.4% ในวันพุธ โดยเงิน แพลตตินัม และแพลเลเดียมต่างก็ปรับตัวสูงขึ้น
รอยเตอร์ รายงานว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนพฤษภาคม หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนเมษายน นักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดย รอยเตอร์ คาดการณ์ว่าดัชนี CPI จะเพิ่มขึ้น 0.2% และเพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะตัวเลขจริงเพิ่มขึ้น 2.4%
“การที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานชะลอตัวลงอย่างน่าประหลาดใจส่งผลให้ตลาดโลหะมีค่าทั้งหมดปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรและค่าเงินดอลลาร์ลดลง เราคาดหวังว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นนั้นมาก” ไท หว่อง ผู้ค้าโลหะอิสระกล่าว
ปัจจุบัน ผู้ค้ากำลังประเมินโอกาสที่ธนาคารกลางของสหรัฐจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนอยู่ที่ 68% โดยสะท้อนจากเครื่องมือ FedWatch ของ CME
- ทรัมป์ประกาศบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับจีน
ในด้านนโยบายการค้า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าวว่า ได้บรรลุข้อตกลงกับจีนแล้ว โดยปักกิ่งจะเปิดการส่งออกแม่เหล็กและแร่หายาก ขณะที่วอชิงตันจะอนุญาตให้นักศึกษาจีนเข้าเรียนในวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยของสหรัฐได้ สหรัฐเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนที่ 55% จีนเก็บภาษีสินค้าสหรัฐในอัตรา 10%
ขณะนี้ ตลาดกำลังให้ความสนใจกับข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐ ซึ่งจะเผยแพร่ในวันพฤหัสบดี ก่อนการประชุมของเฟดในวันที่ 17-18 มิถุนายน
“ตลาดต้องการเห็นทองคำและโลหะเงินทะลุผ่านระดับสูงสุดล่าสุดที่ 3,403 ดอลลาร์และ 36.90 ดอลลาร์ตามลำดับ ซึ่งจะเป็นสัญญาณให้ราคาปรับขึ้นสูงต่อไป หากเราไม่เห็นการพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากข้อมูลที่ดีเกินคาด ก็อาจเป็นการส่งสัญญาณของการปรับฐานในระยะสั้น” หว่อง กล่าว
ราคาแพลตตินัมพุ่งขึ้น 2.9% สู่ระดับ 1,256.70 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ปี 2021 ในช่วงเช้า
ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ วิเคราะห์ว่า แม้ว่าความต้องการเก็งกำไรและแรงซื้อจากกองทุนอีทีเอฟ ETF จะเป็นตัวขับเคลื่อนการพุ่งขึ้นของราคาแพลตตินัม แต่การพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้นไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ เนื่องจากความต้องการในจีนที่อ่อนไหวต่อราคา แรงกดดันด้านลบต่อความต้องการในภาคยานยนต์ และอุปทานของแพตตินัมทั่วโลกที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น
ด้านราคาโลหะเงินลดลง 1.2% สู่ระดับ 36.11 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่แพลเลเดียมเพิ่มขึ้น 1.3% สู่ระดับ 1,074.25 ดอลลาร์







