อิทธิพลราคา‘ทองคำโลก’ ชี้นำ‘เงินบาท’เหนือปัจจัยพื้นฐาน

อิทธิพลราคา‘ทองคำโลก’  ชี้นำ‘เงินบาท’เหนือปัจจัยพื้นฐาน

“ค่าเงินบาท” ครึ่งปีแรก 2568 ผันผวนสูงตาม “ราคาทองคำ” โดยมีค่าความสัมพันธ์เฉลี่ย 5 ปี สูงสุดในกลุ่มตลาดเกิดใหม่

KEY

POINTS

  • “กรุงศรี” เผยปัจจุบันยังมีสูงกว่าเดิม หรือ เคลื่อนไหวเกินปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ
  • “กรุงไทย” ชี้ทองพุ่งนิวไฮ เงินบาทแข็งค่าขึ้น 5.2% ย้ำนักลงทุนพบความสัมพันธ์ปีนี้ เน้นจับจังหวะแนวโน้มทองคำหวังเก็งกำไรค่าเงิ

นางสาวรุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวางแผนโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงหลังๆ มานี้ จะเห็นว่า “ค่าเงินบาท กับ ราคาทองคำโลก” มีค่าความสัมพันธ์กันสูง หรือ เคลื่อนไหวตามกันมากจนเกินปัจจัยพื้นฐานของเรา เช่น พื้นฐานทางเศรษฐกิจทำให้ปีนี้ “เงินบาทผันผวนสูง”

หากอ้างข้อมูลเมื่อเดือนมี.ค.2568 จาก Bloomberg ค่าความสัมพันธ์เฉลี่ย 5 ปีของ “เงินบาทกับราคาทองคำโลก” สูงสุดในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ ส่วนในปัจจุบันค่าความสัมพันธ์นี้สูงกว่า 0.8 ซึ่งสูงกว่าเดิม

อิทธิพลราคา‘ทองคำโลก’  ชี้นำ‘เงินบาท’เหนือปัจจัยพื้นฐาน

และ เราสังเกตได้ว่าเวลาราคาทองคำ spot ตลาดโลกพุ่งขึ้น “เงินบาทแข็งค่า” ขณะที่เวลาทองโลกร่วงแรง เช่น วันที่ 12 พ.ค. 2568 ที่ผ่านมานี้ (ตรงกับวันหยุดสำหรับตลาดการเงินไทย) ซึ่งจีนกับสหรัฐตกลงลดระดับการเก็บภาษีนำเข้าต่อกันชั่วคราว ราคาทองดิ่งลงราว 100 ดอลลาร์ และเงินบาทอ่อนค่าประมาณ 40 สตางค์

ทั้งนี้อาจอนุมานแต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า เมื่อราคาทองคำลงแรง ทำให้ผู้ค้าทองในไทยนำเข้า สร้าง “แรงกดดัน” ด้านอ่อนค่าต่อเงินบาท ส่วนช่วงที่ราคาทองคำพุ่งขึ้น ผู้ค้าทองในประเทศหาจังหวะขายออก ยิ่งเร่งเงินบาทแข็งค่า อย่างในบางจังหวะเงินบาทแข็งค่าขึ้นที่ 32.60 บาทต่อดอลลาร์ ทั้งที่ไม่มีข่าวดีตามปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจไทยเลย

ดังนั้น เราประเมินว่า หากมีปัจจัยที่ส่งผลให้ทองคำปรับฐานลงแรง เช่น จีนซื้อทองคำ “ลดลง” หรือความตึงเครียดด้าน “สงครามการค้า” ผ่อนคลายลง ทิศทาง “เงินบาท” อาจอ่อนค่าได้ในระยะสั้น เนื่องจากในบางเวลาเงินบาทเหวี่ยงเกินจริงจากความผันผวนของราคาทองคำโลก

ทางด้าน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย ระบุว่า “เงินบาทแข็งค่า” ช่วง 30 วันที่ผ่านมา (เดือนพ.ค. 2568 ) พบว่า มีความสัมพันธ์ (correlation) กันปรับเพิ่มขึ้น และสูงถึง 80% ตามโฟลว์ธุรกรรม “ทองคำ” เมื่อราคาทองขึ้นจะมีแรงขายทำกำไรออกมา ทำให้เงินบาทแข็งค่า และส่วนหนึ่งยังมาจากเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงด้วยเช่นกัน

“พูน พานิชพิบูลย์” นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ในช่วงราคาทอง ทำนิวไฮ (New High) ของปีนี้ เมื่อ 6 พ.ค.2568 พบว่า “ราคาทองในประเทศ” อยู่ที่ 3,431.80 ดอลลาร์ หรือปรับเพิ่มขึ้น +24.3% และ “ราคาทองต่างประเทศ” อยู่ที่ 53,305 บาทต่อออนซ์ หรือ ปรับเพิ่มขึ้น +30.8% จะเห็นเงินบาทแข็งค่าขึ้นถึง +5.2% หรืออยู่ที่ 32.68 บาทต่อดอลลาร์

โดยเรามองว่า การที่ “ราคาทอง” มีผลต่อ “ค่าเงินบาท” โดยไม่เป็นไปตามปัจจัยพื้นฐานแล้ว ยิ่งทำให้ “ค่าเงินบาท ผันผวนสูงผิดปกติ และ ปีนี้ด้วยราคาทองคำผันผวนสูงมากยิ่งทำให้ เงินบาทผันผวนสูงตามไปด้วย

ที่สำคัญช่วงหลังๆ มานี้ บรรดานักลงทุน ต่างเห็นความสัมพันธ์นี้ จึงนำเอาแนวโน้มราคาทองคำ เข้ามาใช้ในการประเมินแนวโน้มเงินบาทด้วยดังนั้น เมื่อ “ราคาทองลง” บรรดานักลงทุนต่างรอซื้อสะสม จากสาเหตุทองคำยังมีปัจจัยหนุนอยู่มาก และจะมาพร้อมโฟลว์ “ขายเงินบาท ซื้อเงินดอลลาร์ เพื่อเอาไปซื้อทองคำ” ทำให้ ราคาทองลง เงินบาทก็อ่อนค่าลง ส่วนใหญ่ก็จะเป็นจังหวะที่ “เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น” ด้วย