ราคาทอง ร่วงกว่า 1% หลังการจ้างงานสหรัฐฯ แข็งแกร่ง ยืดลดดอกเบี้ย

ราคาทอง ร่วงกว่า 1% หลังการจ้างงานสหรัฐฯ แข็งแกร่ง ยืดลดดอกเบี้ย

ราคาทอง ราคาทองคำโลก ร่วงลงมากกว่า 1%ในวันศุกร์ หลังข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ บดบังแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด

รอยเตอร์ รายงาน  ราคาทองคำโลก ภาวะ ตลาดทองคำโลก วันศุกร์(6 มิ.ย.) หรือเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทยว่า ราคาทอง ร่วงลงมากกว่า 1% ในวันศุกร์ หลังจากรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ออกมาดีแข็งแกร่งเกินคาด ทำให้ความหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในเร็วๆ นี้ลดน้อยลง ขณะที่ราคาโลหะเงินพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2012

ราคาทองคำสปอต (Spot Gold) ร่วงลง 1.1% เหลือ 3,316.13 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 14.28 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกสหรัฐ (18.28 GMT) แต่เพิ่มขึ้น 0.8% ล่าสุดในรอบสัปดาห์นี้

ราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐฯ (Gold Futures) ปิดตลาดลดลง 0.8% อยู่ที่ 3,346.60 ดอลลาร์

รายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 139,000 ตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม เมื่อเทียบกับที่นักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดยสำนักข่าวรอยเตอร์ คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 130,000 ตำแหน่ง อัตราการว่างงาน อยู่ที่ 4.2% สอดคล้องกับประมาณการ

เอ็ดเวิร์ด เมียร์ นักวิเคราะห์ของ Marex กล่าวว่า ข้อมูลสอดคล้องกับประมาณการ ซึ่งถือเป็นปัจจัยลบต่อทองคำ เนื่องจากข้อมูลบ่งชี้ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้อีกสักระยะหนึ่ง 

นักลงทุนมองว่า ผู้กำหนดนโยบายของเฟดว่าจะรอจนถึงเดือนกันยายนจึงจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยมีแนวโน้มว่าจะมีการปรับลดอีกครั้งในเดือนธันวาคม โดยอิงจากการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ซึ่งยังแสดงให้เห็นว่าผู้ซื้อขายถอยห่างจากการเดิมพันที่อาจให้ผลตอบแทนหากธนาคารกลางของสหรัฐปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่สามภายในสิ้นปี

สงครามการค้ายังหนุนตลาดทองคำ

ทองคำ ถือเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ แต่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะลดความน่าสนใจของทองคำแท่ง เนื่องจากทองคำไม่มีผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย

ในด้านนโยบายการค้า มีความชัดเจนเพียงเล็กน้อยหลังจากการสนทนาระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐและผู้นำจีน สี จิ้นผิง เมื่อวันพฤหัสบดี

“การเจรจานี้ยากมาก และจะไม่สามารถยุติลงได้เพียงแค่ทางโทรศัพท์ หากพาดหัวข่าวเกี่ยวกับภาษีศุลกากรกลายเป็นเชิงลบ นั่นก็ถือเป็นสัญญาณบวกสำหรับทองคำ”  เมียร์ กล่าวเสริม

ด้าน ราคาโลหะเงิน ลดลง 0.5% เหลือ 35.96 ดอลลาร์ หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 13 ปีก่อนหน้านี้

ราคาแร่เงิน ที่เพิ่มขึ้น “ดูเหมือนว่าจะมาจากกระแสเก็งกำไร เนื่องจากราคาถูกเกินไปเมื่อเทียบกับทองคำ การทะลุระดับ 35 ดอลลาร์ต่อออนซ์ทำให้การเคลื่อนไหวรุนแรงขึ้น”  จิโอวานนี สเตาโนโวนักวิเคราะห์ของธนาคาร UBS กล่าว

ราคาแพลตตินัม เพิ่มขึ้น 2.5% อยู่ที่ 1,158.20 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022 ในขณะที่แพลเลเดียมเพิ่มขึ้น 3.9% อยู่ที่ 1,045.45 ดอลลาร์ โลหะทั้งสองชนิดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็นรายสัปดาห์