กลต.ปิดทาง ‘จีโทเคน’ชำระเงิน สกัดเก็งกำไร หนุน ’ลงทุน-ออม’

กลต.ปิดทาง ‘จีโทเคน’ชำระเงิน สกัดเก็งกำไร หนุน ’ลงทุน-ออม’

ก.ล.ต. เปิดเฮียริ่งออกขาย “จี โทเคน” พร้อมร่างประกาศ 6 ฉบับ ขอฟังความคิดเห็นจากภาคธุรกิจและบุคคลทั่วไป พร้อมปิดประตูใช้ “เก็งกำไร” ใช้เป็นสื่อกลางชำระเงิน

KEY

POINTS

  • กลต.เปิดรับฟังความคิดเห็น (Hearing) พร้อมร่างประกาศ 6 ฉบับ ครอบคลุมประเด็นสำคัญ เอื้อออก G-Token  
  • ยัน G-tokenความเสี่ยงด้าน Credit Risk ต่ำ เพราะผู้ออกคือรัฐบาล
  • ขณะที่ กลต.มีเกณฑ์ Indicative Price กำหนดราคากลาง ป้องกันการปั่นราคา มีกลไก Market Surveillance และระบบแจ้งเตือนราคาผันผวน
  • กลต.ย้ำเป้าหมาย G-token คือการลงทุน ไม่ใช่การเก็งกำไรหรือใช้จ่ายชำระสินค้า
  • เปิดจุดเด่นของ G-Token ส่งเสริม Financial Inclusion เข้าถึงการออมและการลงทุนได้ง่ายลงทุนได้ด้วย เงินจำนวนน้อย และสามารถซื้อขายในตลาดรองได้ มี สภาพคล่อง และโอกาสได้รับ ผลตอบแทนตามที่รัฐบาลกำหนด

 

เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2568 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการออกโทเคนดิจิทัลของรัฐบาล (Government Token) หรือ G-Token โดยอนุมัติหลักการร่างประกาศกระทรวงการคลัง โดยข้างต้นระบุให้กำหนดสิทธิให้ผู้ถือได้รับคืนเงินต้น และผลตอบแทนที่กำหนด เป็นการออกตามมาตรา 10 วรรคหนึ่งแห่งพ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 เข้าข่ายเป็นโทเคนดิจิทัลตามมาตรา 3 พ.ร.ก. การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 (พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัล)

โดยการเสนอขาย G-Token กระทรวงการคลังไม่ต้องขออนุญาตต่อ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เนื่องจาก G-Token ไม่ได้เป็นตราสารการเงิน ไม่ได้เป็นหลักทรัพย์ ตามพ.ร.บ. หลักทรัพย์จึงไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับของ ก.ล.ต.

เปิด “เฮียริ่ง” จากร่างประกาศ 6 ฉบับ 

ในการนี้ทางสำนักงาน ก.ล.ต. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็น (เฮียริ่ง) พร้อมด้วยร่างประกาศ จํานวน 6 ฉบับ เพื่อขอรับฟังความคิดเห็นจากภาคธุรกิจและบุคคลทั่วไป อาทิ

  • 1. การกําหนดประเภทโทเคนดิจิทัลเพิ่มเติม
  • 2. การไม่นําบทบัญญัติว่าด้วยการเสนอขายโทเคนดิจิทัลต่อประชาชนมาใช้บังคับกับการเสนอขาย โทเคนดิจิทัลบางลักษณะ
  • 3. การกําหนดลักษณะการให้บริการที่ไม่ถือเป็นการประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล 
  • 4.การกําหนดลักษณะการให้คําแนะนําแก่ประชาชนที่ไม่ถือเป็นการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ประเภทการเป็นที่ปรึกษาสินทรัพย์ดิจิทัล
  • 5. การกําหนดลักษณะการจัดการเงินทุนที่ไม่ถือเป็นการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลประเภท การเป็นผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัล
  • 6. ที่เกี่ยวกับหลักเกณฑ์เงื่อนไขและวิธีการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล

ก.ล.ต.เปิดเฮียริ่งพร้อมกำหนดวิธีป้องเสี่ยง

นางสาวพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า สำหรับบทบาทของ ก.ล.ต. คือ มีหน้าที่สนับสนุนและส่งเสริมการออก และการลงทุนที่หลากหลายของประชาชน พร้อมกับสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการระดมทุนและลงทุนในตลาดทุน รวมทั้งส่งเสริมระบบนิเวศของผลิตภัณฑ์ และการบริการในตลาดทุนให้มีการแข่งขันที่เป็นธรรม โดยมีการกำกับดูแลอย่างเท่าเทียมและมีกลไกคุ้มครองผู้ลงทุนที่เพียงพอเหมาะสม

โดยการออก G-Token ของรัฐบาลครั้งนี้ ก.ล.ต.มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นหลักการและร่างประกาศที่เกี่ยวข้องกับ G-Token แล้วเมื่อวานนี้ (26 พ.ค.) โดยเปิดเฮียริ่ง 15 วัน นับจากนี้ โดยเป็น Regulatory Framework โดยมี 4 ด้านสำคัญ ทั้งที่เกี่ยวกับลักษณะของ G-Token การเสนอขาย การให้บริการซื้อขาย และระบบซื้อขายในตลาดรอง เพื่อให้สอดคล้องกับการออก G-Token ของรัฐบาลในระยะข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม หากถามว่า G-Token มีความเสี่ยงหรือไม่ ในมุมของ Credit Risk จากการที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ออก มองว่าน่าจะมีความเสี่ยงด้าน Credit risk ต่ำกว่าผู้ออกประเภทอื่นๆ ส่วนในด้านการรับผิดชอบต่างๆ ก็มีหลักเกณฑ์ที่เรียกว่า Indicative Price ที่มีการกำหนดราคากลางอ้างอิงของโทเคน เพื่อให้โทเคนที่จะออกในระยะข้างหน้าอยู่ในกรอบราคาที่เหมาะสม เหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงในด้านราคาต่างๆได้

ซึ่งในส่วน ก.ล.ต.มีหลักเกณฑ์ที่รองรับด้านการปั่นราคาซื้อขายในตลาดรองอยู่แล้ว ทั้งฝั่งของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล หรือฝั่งหลักทรัพย์ ที่มีการดูแลอย่างรัดกุม ภายใต้ Market Surveillance การแจ้งเตือนราคาหากผันผวนผิดปกติ พร้อมกำหนดกำหนด Indicative Price เพื่อให้ราคาซื้อขายสะท้อนราคาพื้นฐานที่แท้จริง เพื่อให้ผู้ลงทุนใช้พิจารณาก่อนตัดสินใจลงทุน 

ถามว่า G-Tokenจะถูกใช้เป็นเครื่องมือเก็งกำไรหรือไม่ มองว่าอันนี้ไม่น่าจะใช้เครื่องมือเก็งกำไร แต่จะเป็นเครื่องมือในการลงทุน ดังนั้นมองว่าการเข้ามาปั่นราคาต่างๆให้หวือหวาคงทำได้อยากเพราะเรามีมาตรการที่ป้องกันการปั่นราคา ทั้งกฎหมายและการเตือนผ่านเครื่องมือต่างๆ ทั้ง Indicative Priceต่างๆเพื่อไม่ให้ผู้ซื้อขายสามารถซื้อขายเกินกรอบราคา เหมือนการมีไม้บรรทัดที่จะวัดราคาที่เหมาะสมได้

เน้นลงทุนไม่ใช่เก็งกำไรหรือใช้ชำระสินค้า-บริการ

นอกจากนี้ จากกรณีที่หลายหน่วยงานหรือประชาชน เป็นห่วงว่า G-Token จะเป็นถูกใช้เป็นสื่อกลางในการชำระสินค้าและบริการ นั้นก.ล.ต.ยืนยันว่าหลักใหญ่ของก.ล.ต. เราไม่สนับสนุนให้นำสินทรัพย์ดิจิทัล ดิจิทัลแอสเซทหรือโทเคนต่างๆ ภายใต้พ.ร.บ.สินทรัพย์ดิจิทัลฯ มาใช้เป็นสื่อกลางชำระสินค้าและบริการ

โดยก.ล.ต.จะมี Smart contract ที่ออกไป โดยมีการกำหนดวัตถุประสงค์ไม่ใช้มีการโอนข้ามกัน ไม่ให้โอนเหรียญออกจาก Exchange เพื่อไม่ให้นำมาใช้เป็นช่องทางในการชำระสินค้าและบริการตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นห่วง

“ปัจจุบันเรามี Smart contract ที่กำหนดอยู่แล้ว โดยห้ามไม่ให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลใดๆ นำสิทรัยพ์ไปซื้อสินค้า และบริการเป็นปกติอยู่แล้ว ปัจจุบันทำไม่ได้ ห้ามโอนเงินบาท ห้ามโอนเหรียญจากนายก.ไปนายข. ทำไม่ได้เราปิดประตูอยู่แล้ว และเกณฑ์เหล่านี้เราก็ทำงานร่วมกันตลาดกับกระทรวงการคลัง ธปท. และ ก.ล.ต. เพื่อป้องกันไม่ให้นำสินทรัพย์ดิจิทัลไปใช้จ่ายชำระสินค้าบริการได้ เหล่านี้รวมถึง G-Tokenที่จะออกด้วย”

เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ให้ประชาชนเข้าถึงการออมและลงทุนอย่างทั่วถึง ก.ล.ต. จะเปิดให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลและผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ สามารถให้บริการเกี่ยวกับ G-Token ได้ ตามหลักเกณฑ์ของ ก.ล.ต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

จุดเด่นของ “จี โทเคน” เพื่อประชาชน

ทั้งนี้มองว่า G-Token เป็นการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเงินมาใช้เพื่อส่งเสริมช่องทางการออม และเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงการลงทุนของประชาชน (Financial Inclusion) ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางการขับเคลื่อนนโยบายของ ก.ล.ต. และส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ

โดยข้อดีหรือจุดเด่นของ G-Token ในมุมของผู้ลงทุนหรือประชาชนทั่วไป มองว่า ผู้ลงทุนสามารถเข้าถึงการออมการลงทุนผ่านผลิตภัณฑ์ดิจิทัล (financial inclusion) ที่ผู้ออกคือรัฐบาล ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายเปลี่ยนมือผ่านตลาดรอง เพื่อสภาพคล่อง (liquidity) ได้ ผู้ลงทุนสามารถลงทุนได้ด้วยเงินจำนวนไม่มาก

ทั้งนี้หากถามว่า G-Token ต่างจาก stablecoin อย่างไรนั้น G-Token มีวัตถุประสงค์ในการออกเพื่อส่งเสริมการออมและการลงทุนของประชาชน โดยให้ผู้ถือมีสิทธิที่จะสามารถลงทุนและได้รับผลตอบแทนตามเงื่อนไขที่กระทรวงการคลังกำหนด จึงแตกต่างจาก stablecoin ที่มีลักษณะเป็นคริปโทเคอร์เรนซี ที่มีกลไกการตรึงมูลค่าไว้และประสงค์จะใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน รวมถึงห้ามใช้เป็นสื่อกลางในการชำระเงิน ภายใต้พ.ร.บ. เงินตรา พ.ศ. 2501 ของธปท.