ราคาทองคำโลกดีดขึ้น หลังร่วงแรง เงินเฟ้อสหรัฐ ต่ำกว่าคาดหนุน

ราคาทองคำโลกดีดกลับขึ้นมาในวันอังคาร จากกระแสเก็งกำไร หลังราคาร่วงลงแรงในวันจันทร์ ข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐ เดือนเมษายน ที่ต่ำกว่าคาด ช่วยหนุนตลาดทองคำอีกแรง
รอยเตอร์ รายงานภาวะตลาดทองคำในวันอังคาร (13 พ.ค.68) หรือเมื่อคืนที่ผ่านมา ตามเวลาประะเทศไทยว่า ราคาทองคำตลาดสปอต (Spot Gold) ปรับขึ้น 0.54% สู่ระดับ 3,251.33 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากร่วงลงไปแตะระดับต่ำสุดที่ 3,207.30 ดอลลาร์ในวันจันทร์ ราคาทองคำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของสหรัฐ (Gold Futures) ปิดตลาดสูงขึ้น 0.6% สู่ระดับ 3,247.8 ดอลลาร์
อัปเดต: ราคาทองคำโลกเช้านี้ (14 พ.ค.68)
บลูมเบิร์ก รายงานว่า ราคาทองคำตลาดสปอต (Spot Gold) สิงคโปร์ขยับขึ้น 0.1% อยู่ที่ 3,254.75 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 07.51 น. ตามเวลาสิงคโปร์ซึ่งเร็วกว่าไทยหนึ่งชั่วโมง ค่าเงินดอลลาร์ไม่เปลี่ยแปลง โดยดัชนี Bloomberg Dollar Spot ทรงตัวหลังจากที่ร่วงลง 0.7% เมื่อวันอังคาร ส่วนโลหะเงิน แพลเลเดียม และแพลทินัมแทบไม่เปลี่ยนแปลงเช่นกัน
“เมื่อวันจันทร์ ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างมากจากข่าวที่สหรัฐ และจีนบรรลุข้อตกลงกัน” บาร์ต เมเล็ก หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของโบรกเกอร์ TD Securities กล่าวกับรอยเตอร์
“อย่างไรก็ตาม ภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน ยังคงอยู่ที่ 30% ซึ่งค่อนข้างเป็นลบต่อเศรษฐกิจ”
เมื่อวันจันทร์ สหรัฐ และจีน ประกาศระงับการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเป็นเวลา 90 วัน ภายหลังการเจรจาที่เจนีวาเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐประกาศว่าจะลดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนลงเหลือ 30% จาก 145% ในขณะที่จีนประกาศว่าจะลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐลงเหลือ 10% จาก 125%
ราคาทองคำพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์หลายครั้งในปีนี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐขึ้นภาษีนำเข้าอย่างรุนแรง การซื้อของธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ที่แข็งแกร่ง ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และเงินไหลเข้าของกองทุนทองคำเพิ่มขึ้น
เงินเฟ้อต่ำกว่าคาดหนุนตลาดทองขึ้น
สำนักงานสถิติแรงงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยในวันอังคารว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนที่แล้วจากเดือนก่อนหน้า นักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดยรอยเตอร์คาดการณ์ว่าดัชนีราคาผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้น 0.3%
จิม ไวคอฟฟ์ นักวิเคราะห์อาวุโสของ Kitco Metals เขียนไว้ในบันทึกว่า "รายงานดังกล่าวค่อนข้างเอื้อต่อตลาดโลหะมีค่า เนื่องจากรายงานเงินเฟ้อนี้ไม่ได้เป็นปัญหาที่จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย"
ตลาดการเงินคาดว่าธนาคารกลางจะกลับมาผ่อนปรนนโยบายการเงินอีกครั้งในเดือนกันยายน อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงทำให้ทองคำแท่งที่ไม่ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยน่าสนใจยิ่งขึ้น
ด้าน ราคาโลหะเงินพุ่งขึ้นเกือบ 1% สู่ระดับ 32.89 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แพลทินัมพุ่งขึ้น 1.4% สู่ระดับ 985.92 ดอลลาร์ และแพลเลเดียมพุ่งขึ้น 1% สู่ระดับ 955.15 ดอลลาร์
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์






