ราคาทองคำร่วงลงมากกว่า 1% หลังเฟดคงดอกเบี้ย จีน-สหรัฐจะเจรจา

รอยเตอร์ รายงานภาวะตลาดทองคำโลกวันพุธ(7 พ.ค.) หรือเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทยว่า ราคาทองคำร่วงลงมากกว่า 1% ในวันพุธ โดยได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น และการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่มีแนวโน้มดีขึ้น ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ คงอัตราดอกเบี้ย

ราคาทองคำตลาดสปอต (Spot Gold) ร่วงลง 1.1% สู่ระดับ 3,390.26 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ราคาทองคำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของสหรัฐฯ(Gold Futures) ลดลง 0.7% สู่ระดับ 3,399.1 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นทำให้ทองคำมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น

อัปเดต: ราคาทองเพิ่มขึ้นในเช้าวันพฤหสับดี (8 พ.ค.)

บลูมเบิร์กรายงาน ราคาทองคำตลาดสปอตกลับมาบวกขึ้น 0.5% สู่ระดับ 3,382.82 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 8:40 น. ตามเวลาสิงคโปร์ ค่าดอลลาร์ทรงตัว โดยดัชนี Bloomberg Dollar Spot ทรงตัวหลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในวันพุธ โลหะเงินทรงตัว ขณะที่แพลเลเดียมขยับสูงขึ้นเล็กน้อย

เฟดคงดอกเบี้ย

ในช่วงบ่ายวันพุธ กรรมการเฟดลงมติคงอัตราดอกเบี้ย โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงยึดมั่นกับคำกล่าวที่เคยมีในอดีตว่าไม่รีบปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่ระบุในแถลงการณ์หลังการประชุมว่าธนาคารกำลังจับตาดูความผันผวนทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด

แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า “ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น” “คณะกรรมการให้ความใส่ใจต่อความเสี่ยงต่อเป้าหมายทั้งสองภายใต้อำนาจหน้าที่คู่ขนาน และเห็นว่าความเสี่ยงจากการว่างงานที่สูงขึ้นและอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นได้เพิ่มสูงขึ้นแล้ว”

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ตลาดยังคงเห็นพ้องกันว่าจะไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยก่อนเดือนกรกฎาคม อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นมักจะกดดันให้ทองคำแท่งมีสภาพคล่องต่ำ เนื่องจากทองคำไม่มีดอกเบี้ย

จีนและสหรัฐจะเจรจาการค้า

ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ สก็อตต์ เบสเซนต์ และจามีสัน กรีเออร์ หัวหน้าคณะเจรจาการค้า จะเข้าพบกับรองนายกรัฐมนตรีเหอ หลี่เฟิง ซาร์แห่งจีนด้านเศรษฐกิจของจีนที่สวิตเซอร์แลนด์ในสุดสัปดาห์นี้ เพื่อหารือกัน ซึ่งอาจเป็นก้าวแรกในการแก้ปัญหาสงครามการค้าที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก

“จีนและสหรัฐฯ กำลังพยายามหารืออย่างเป็นทางการเกี่ยวกับภาษีศุลกากร ซึ่งจุดประกายความหวังในตลาดสินทรัพย์เสี่ยง” บาร์ต เมเล็ก หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของโบรกเกอร์ TD Securities กล่าว

ทองคำซึ่งถือเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ได้พุ่งสูงขึ้น 29.1% ในปีนี้

“แม้ว่าราคาทองคำจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในกรอบที่จำกัดในระยะใกล้ แต่เราคาดว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้งในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยอาจแตะระดับ 4,000 ดอลลาร์” ธนาคารแห่งอเมริกา (Bank of America) กล่าว

ข้อมูลอย่างเป็นทางการระบุว่าธนาคารกลางของจีนได้เพิ่มทองคำเข้าในกองทุนสำรองในเดือนเมษายนเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน

ด้านราคาโลหะเงินลดลงประมาณ 1.8% เหลือ 32.65 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แพลตตินัมลดลง 0.3% เหลือ 982.15 ดอลลาร์ และแพลเลเดียมลดลง 0.1% เหลือ 973.82 ดอลลาร์