ราคาทองคำโลกร่วง 3% หลังทรัมป์กลับลำเรื่องประธานเฟด ภาษีจีน

รอยเตอร์ รายงานภาวะตลาดทองคำในวันพุธ (23 เม.ย.) หรือเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทยว่า ราคาทองร่วงลงต่อจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยร่วงลงมากกว่า 3% เนื่องจากความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่าเขาไม่มีแผนที่จะไล่ประธานเฟดสหรัฐออก และส่งสัญญาณถึงโอกาสการลดภาษีสินค้าจีนลง

ราคาทองคำตลาดส่งมอบทันที (Spot Gold) ร่วงลง 3% เหลือ 3,281.6 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 13.43 น. ตามเวลา ฝั่งตะวันออกของสหรัฐ (17.43 GMT) หลังจากแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,500.05 ดอลลาร์ในเซสชันการซื้อขายก่อนหน้า ทองคำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสหรัฐ (Gold Futures) ร่วงลง 3.7% เหลือปิดที่ 3,294.10 ดอลลาร์

• ทองขึ้นเช้าพฤหัสบดีนี้

บลูมเบิร์ก รายงานราคาทองคำพุ่งขึ้น 1.4% สู่ระดับ 3,336.41 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 8.31 น. ตามเวลาในสิงคโปร์ซึ่งเร็วกว่าไทย1ชั่วโมง ด้านค่าดอลลาร์ไม่เปลี่ยนแปลงโดยดัชนี Bloomberg Dollar Spot ทรงตัว ราคาโลหะเงินขยับขึ้นเล็กน้อย ขณะที่แพลตตินัมและแพลเลเดียมแทบไม่เปลี่ยนแปลง 

“ตลาดเริ่มเคลื่อนตัวผ่านพ้นวิกฤตภาษีศุลกากรแล้ว คุณจะเห็นสินทรัพย์ปลอดภัยบางส่วนหมุนเวียนไหลกลับมาไล่ตามหุ้นบางตัว เช่น Apple หรือ Tesla” ฟิลลิป สไตรเบิล หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดของโบรกเกอร์ Blue Line Futures กล่าวกับรอยเตอร์

ความเชื่อมั่นในตลาดการเงินโดยรวมปรับตัวดีขึ้นและดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่ทรัมป์ยอมถอยจากการขู่ไล่เจอโรม พาวเวลออก หลังจากที่ได้วิพากษ์วิจารณ์ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ไม่ลดอัตราดอกเบี้ย อย่างรุนแรงมาหลายวัน

ในวันพุธด้าน สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐ กล่าวว่าเขาเชื่อว่าภาษีศุลกากรที่สูงเกินไปมากระหว่างสหรัฐและจีนจะต้องลดลงเสียก่อนจึงจะสามารถดำเนินการเจรจาการค้าต่อไปได้

• ราคาทองคำเสี่ยงปรับฐานรุนแรง

ทองคำซึ่งใช้เป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนทางการเมืองและการเงินนั้นปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 26% นับตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากการซื้อของธนาคารกลางในประเทศต่างๆ ความกลัวสงครามภาษีศุลกากร และความต้องการลงทุนที่แข็งแกร่ง

“จากมุมมองทางเทคนิคแล้ว ราคาที่พุ่งสูงขึ้นแตะระดับ 3,500 ดอลลาร์ และการผลิกกลับตัวอย่างรวดเร็วในระยะสั้นทำให้มีความเสี่ยงต่อการปรับฐานที่รุนแรงมากขึ้น” โอเล แฮนเซน หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของธนาคาร Saxo Bank กล่าวในบันทึก

ด้านราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้น 3% อยู่ที่ 33.48 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาแพลตตินัมเพิ่มขึ้นประมาณ 1.1% อยู่ที่ 969.1 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแพลเลเดียมทรงตัวที่ 935.59 ดอลลาร์