กูรูแนะจับตาทองคำพุ่งไม่หยุด ภาษีทรัมป์ป่วน ลุ้นทะลุ 55,000 บาท

กูรูแนะจับตาทองคำพุ่งไม่หยุด ภาษีทรัมป์ป่วน ลุ้นทะลุ 55,000 บาท

กำแพงภาษีสหรัฐปั่นป่วน ดัน “ราคาทอง” พุ่งแรง 27.08% ตั้งแต่ต้นปีมานี้ ทะยานไม่หยุดหลังสงกรานต์ ทำ “ออลไทม์ไฮใหม่” แตะ 3,357.58 ดอลลาร์ต่อออนซ์ “ทองไทย” ที่ 52,550 บาท

แต่แรงขายสลับออกมาระยะสั้น หลังทรัมป์เจรจาภาษีกับญี่ปุ่นคืบหน้า โดย “กูรูทองคำ” มองปรับฐานจำกัด ระยะกลางถึงยาว “ยังพุ่งไม่หยุด” สำหรับ "วายแอลจี" มองเป้าปีนี้ 3,450 -3,500 ดอลลาร์ และทองไทยแตะ 55,150 บาท “แม่ทองสุก” แนะนักลงทุนระวังแรงขาย รอย่อตัวซื้อสะสม

ราคาทองคำโลก ตั้งแต่ต้นปีจนถึง 17 เม.ย.68 ที่ผ่านมา ปรับตัวขึ้นมาแล้วถึง 710.41 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 27.08% ยังคงมีโมเมนตัมที่แข็งแกร่งหลังช่วงวันหยุดยาวสงกรานต์ ราคาทองคำปรับขึ้นมาทำออลไทม์ไฮใหม่ต่อเนื่อง

กูรูแนะจับตาทองคำพุ่งไม่หยุด ภาษีทรัมป์ป่วน ลุ้นทะลุ 55,000 บาท

ล่าสุด ราคาพุ่งแรงแตะระดับ “สูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่” (All Time High) ที่ระดับ 3,357.58 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (17 เม.ย.68 เวลา 05.20 น.) ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศปรับตัวขึ้นทำ All Time High ที่ระดับ 52,550 บาท ซึ่งระยะสั้นมีแรงขายทำกำไรสลับเข้ามาบ้าง

หลังจากที่ “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้พบปะกับ “เรียวเซ อาคาซาวะ” รัฐมนตรีฝ่ายกิจการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เพื่อเจรจามาตรการภาษีศุลกากร ซึ่งระบุว่า “การเจรจากับญี่ปุ่นมีความคืบหน้าอย่างมาก” นอกจากนี้ ตัวแทนจากหลายประเทศในเอเชียก็ได้เดินทางไปเจรจา ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ทั้ง ไทย อินเดีย ปากีสถาน อินโดนีเซีย 

สิ้นสัปดาห์ก่อน (18 เม.ย.68) “ทรัมป์” แสดงความเชื่อมั่นว่าสหรัฐ และสหภาพยุโรป (EU) จะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าได้ภายในระยะเวลาผ่อนผัน 90 วัน ภายหลังจากการหารือกับ “จอร์เจีย เมโลนี” นายกรัฐมนตรีอิตาลี ณ ทำเนียบขาว ดังนั้น แนวโน้มราคาทองคำหลังจากนี้ ยังเป็นขาขึ้นได้ต่อหรือไม่นั้น

“ฐิภา นววัฒนทรัพย์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า ระยะกลาง-ยาว ยังนับว่าราคาทองคำย่อตัวปรับฐานลงมาอย่างจำกัด เนื่องจากหากมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐ ซึ่งนำไปสู่ความเสี่ยงสงครามการค้ากับจีน จะสร้างผลกระทบกับเศรษฐกิจโลกอย่างมาก

หากราคาทองคำโลก ยังยืนเหนือแนวรับ 3,232 ดอลลาร์ต่อออนซ์ คิดเป็นทองคำแท่ง 96.5% ที่ 51,000 บาททิศทางจะยังเป็นบวกในระยะสั้น แต่หากยืนแนวรับที่ 3,285 -3,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ คิดเป็นทองคำแท่ง 51,750-52,000 บาท จะเป็นการพักเพื่อขึ้นต่อไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ All Time High บริเวณ 3,357-3,377 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ ทองคำแท่ง 52,550- 53,200 บาท

อย่างไรก็ตาม หากหลุดแนวรับ 3,232 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือทองคำแท่ง 51,000 บาท การพักฐานจะลึกขึ้น มองว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว รอเข้าซื้อสะสมแนวรับระยะยาวที่ 2,956-2,989 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ ทองคำแท่ง 46,550-47,000 บาท

โดยหลังจากปรับฐานในระยะกลางเรียบร้อยแล้ว ราคาจะปรับตัวขึ้นอีกครั้ง สำหรับเป้าหมายปีนี้ประเมินไว้บริเวณ 3,450-3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ ทองคำแท่ง 54,350 - 55,150 บาท

“กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ” ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด หรือ MTS Gold เปิดเผยว่า ภาพรวมราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุด ได้ทะลุระดับ 3,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 3,357 ดอลลาร์ต่อออนซ์

โดยการปรับตัวขึ้นสะท้อนถึงสถานะของทองคำที่เปลี่ยนไปเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” ระยะยาว ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และการเมืองโลกทวีความรุนแรงขึ้น ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐ และจีนยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินโลก 

โดย “จีน” ได้แสดงท่าทีตอบโต้ “สหรัฐ” ด้วยการเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าบางรายการสูงถึง 125% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ในขณะเดียวกัน การเจรจาทางการค้าระหว่างทั้งสองประเทศยังคงไม่มีทีท่าว่าจะบรรลุข้อตกลงได้ง่ายๆ

ในส่วนของ “นโยบายการเงิน” นั้น ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงแสดงท่าทีระมัดระวังในการดำเนินนโยบาย โดยภาพรวมแล้ว ราคาทองคำยังคงได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และการเมืองโลก โดยราคามีแนวโน้มที่จะขยับตัวขึ้นได้ต่อหากสงครามการค้ายังคงไม่จบลง

คาดราคาทองคำตลาดโลกหากยังคงรักษาฐานราคาได้เหนือ 3,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้มีโอกาสราคาทองคำจะไปได้ต่อ ในเชิงเทคนิค ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวทิศทาง “ขาขึ้น” (UP Trend) และทำสถิติสูงสุดต่อเนื่อง แนะนำระมัดระวังแรงเทขาย “ทำกำไร” รอย่อซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว แบ่งขายทำกำไรเป็นรอบๆ ภาพรวมเชิงเทคนิคยังคงไม่มีสัญญาณกลับตัวใดๆ โดยมีกรอบแนวรับระยะสั้นที่ 3,200-3,280 ดอลลาร์ และมีแนวต้านที่บริเวณ 3,380-3,400 ดอลลาร์

เช่นเดียวกับทองในประเทศ เงินบาทแข็งค่าไม่มาก ทองไทยยังทำออลไทม์ไฮ ราคาทองแท่งทะลุ 50,000 บาท ขึ้นมาอย่างง่ายได้มาที่ระดับ 51,600 บาท และมองกำลังพลิกโฉมหน้าขยับขึ้นต่อที่เป้าหมายในระยะสั้นที่ แนวรับอยู่ที่ 51,500-52,000 บาท และแนวต้านที่ 52,600-53,000 บาท เป้าหมายระยะกลางถึงยาวยังไปต่อที่ระดับ 54,000-55,000 บาท

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์