ราคาทองคำโลกพุ่งขึ้นแรง วันที่ดีที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2023

ราคาทองคำโลกพุ่งขึ้นแรง วันที่ดีที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2023

ราคาทองคำโลกพุ่งขึ้นแรง คาดเป็นวันที่ดีที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2023 ขณะตลาดยังกลัวสงครามภาษี แม้ล่าสุดทรัมป์ยอมถอยการขึ้นภาษีสูงต่อหลายประเทศ ระงับไว้ 90 วัน

รอยเตอร์ รายงานตลาดทองคำโลกวันพุธ(9 เม.ย.68) หรือเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาไทยว่า ราคาทองคำพุ่งขึ้นมากกว่า 2% ในวันพุธ และมีแนวโน้มจะเป็นวันที่ดีที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 โดยได้รับแรงหนุนจากการไหลเข้าของสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐ และจีนที่ทวีความรุนแรงขึ้น ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ เพิ่มภาษีนำเข้าจากจีน

ราคาทองคำในตลาดสปอตพุ่งขึ้น 2.6% สู่ระดับ 3,059.76 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 14:23 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกสหรัฐ (18.23 GMT) โดยปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากระดับสูงสุดที่เกือบ 3,100 ดอลลาร์ ซึ่งเคยแตะระดับสูงสุดก่อนหน้านี้ในช่วงเช้า หลังจากทรัมป์ประกาศระงับการเรียกเก็บภาษีสำหรับทุกประเทศ ยกเว้นจีน

ราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐ (Gold Futures) พุ่งขึ้น 3% สู่ระดับ 3,079.40 ดอลลาร์

“ท้ายที่สุดแล้ว ทองคำยังคงถูกมองว่าเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากความไม่มั่นคงที่นี่ เราอยู่ในสถานการณ์ที่ภาษีศุลกากรกำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่ และมีการคาดว่าเงินเฟ้อจะสูงขึ้น ซึ่งเห็นได้จากผลตอบแทนพันธบ้ตรที่สูงขึ้น” บาร์ต เมเล็ก หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของโบรกเกอร์ TD Securities กล่าว

ทรัมป์ กล่าวว่า เขาอนุมัติให้หยุดการเรียกเก็บภาษีศุลกากรใหม่เป็นเวลา 90 วันสำหรับหลายประเทศ แม้ว่าเขาจะเพิ่มภาษีศุลกากรสำหรับการนำเข้าจากจีนก็ตาม โดยปรับขึ้นอัตราภาษีศุลกากรสำหรับเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกเป็น 125% และมีผลทันที

นักลงทุนเกรงว่าภาษีศุลกากรจะทำให้เกิดเงินเฟ้อ และขัดขวางการเติบโตทางเศรษฐกิจ จึงหลีกหนีจากหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์อุตสาหกรรม และหันไปหาทองคำเป็นที่หลบภัยแทน

ทองคำซึ่งใช้เป็นการลงทุนที่ปลอดภัยในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนทางการเมือง และทางการเงิน ได้พุ่งสูงขึ้นมากกว่า 400 ดอลลาร์ในปีนี้ และทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,167.57 ดอลลาร์ในวันที่ 3 เมษายน เนื่องมาจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่แข็งแกร่ง และการซื้อของธนาคารกลาง

ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) มีมติเอกฉันท์เมื่อเดือนที่แล้วคงดอกเบี้ยไว้ พร้อมเตือนว่าเศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่สูงขึ้นควบคู่ไปกับการเติบโตที่ช้าลง โดยบางคนตั้งข้อสังเกตว่า "การเลือกเอาบางอย่างที่ยากลำบาก" อาจรออยู่ข้างหน้า ทั้งนี้ตามรายงานการประชุมเฟดที่เผยแพร่ในวันพุธระบุไว้

ทองคำแท่งที่ไม่มีผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยมีแนวโน้มที่ราคาจะสูงขึ้นในสภาพแวดล้อมที่อัตราดอกเบี้ยต่ำ

ขณะนี้ นักลงทุนกำลังจับตาดูดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐซึ่งจะประกาศในวันพฤหัสบดี เพื่อความชัดเจนมากขึ้น

ในส่วนอื่นๆ ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้น 3.1% สู่ระดับ 30.8 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แพลทินัมลดลง 1.2% สู่ระดับ 931.87 ดอลลาร์ และแพลเลเดียมเพิ่มขึ้น 1.9% สู่ระดับ 923.75 ดอลลาร์

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์