บิตคอยน์ร่วงแรงตามตลาดหุ้นเอเชีย ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า

บลูมเบิร์ก รายงานว่า สกุลเงินดิจิทัล ถูกขายออกอย่างรวดเร็วในช่วงสัปดาห์นี้ขณะตลาดเอเชียเปิดตลาดเช้าวันจันทร์ สะท้อนนักลงทุนปิดรับความเสี่ยงในตลาดต่างๆ

บิตคอยน์ (Bitcoin) สูญเสียมูลค่าไปประมาณ 7% จากคืนวันอาทิตย์จนถึงเช้าวันจันทร์ (7เม.ย.) ตามเวลาในสิงคโปร์ จนไปแตะจุดต่ำสุดที่ 77,077 ดอลลาร์ โทเค็น อันดับสอง Ether ร่วงลงเหลือ 1,538 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบวันซึ่งไม่เคยพบเห็นมาก่อนนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023

การร่วงลงดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ตั้งกำแพงภาษีศุลกากรครั้งใหญ่ที่ทำลายมูลค่าของหุ้นสหรัฐฯ ไปแล้วหลายล้านล้านดอลลาร์ ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สหรัฐฯ ร่วงลงแรงและเงินเยนพุ่งสูงขึ้นในวันจันทร์ ซึ่งเป็นสัญญาณของความปั่นป่วนที่ทวีความรุนแรงขึ้นในตลาดการเงิน

ข้อมูลของ Coinglass แสดงให้เห็นว่ามูลค่าเงินดิจิทัลหลักๆหายไปประมาณ 7.45 แสนล้านดอลลาร์ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นจำนวนสูงสุดในรอบเกือบ 6 สัปดาห์

ตลาดออปชั่นชี้ว่าแรงขายอาจยังคงดำเนินต่อไป “โดยที่การขายนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก” Sean McNulty หัวหน้าฝ่ายอนุพันธ์เอเชียแปซิฟิกของ FalconX บริษัทนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำกล่าว 

ระดับแนวรับหลักสำหรับ Bitcoin และ Ether อยู่ที่ 75,000 ดอลลาร์และ 1,500 ดอลลาร์ตามลำดับ เขากล่าวเสริม

สินทรัพย์ดิจิทัล แสดงให้เห็นถึงความต้านทานต่อความตื่นตระหนกในตลาดหุ้นหลังจากที่ทรัมป์เปิดเผยกำแพงภาษีศุลกากรเป็นครั้งแรก ซึ่งบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่สินทรัพย์ดิจิทัลจะหลุดพ้นจากแรงดึงดูดของหุ้นเทคโนโลยี แต่การเทขายในวันจันทร์อาจหมายถึงจุดจบของความมั่นคงของสินทรัพย์ดิจิทัล

“ปัจจัยมหภาคกำลังขับเคลื่อนตลาดในขณะนี้” คอสโม เจียง ผู้จัดการของกองทุนคริปโท Pantera Capital กล่าว “การร่วงลงเนื่องจากภาษีศุลกากรนั้นมีลักษณะเฉพาะตัวและไม่ใช่เพราะปัญหาที่รุนแรงในเศรษฐกิจของเรา เช่นเดียวกับสิ่งเทียมที่ถูกฉีดเข้าไป ก็สามารถถอนกลับออกได้เช่นกัน หลังจากที่รัฐบาลทรัมป์รู้สึกว่าได้รับการสยบยอมจากประเทศอื่นๆ”