แผ่นดินไหว ‘อาฟเตอร์ช็อก‘ ฉุด ศก. คลังจ่อคลอดมาตรการฟื้นฟู

แผ่นดินไหว ‘อาฟเตอร์ช็อก‘ ฉุด ศก. คลังจ่อคลอดมาตรการฟื้นฟู

อาฟเตอร์ช็อกเสี่ยงฉุด 'เศรษฐกิจ' จับตา กนง.เพิ่มปัจจัยแผ่นดินไหว 6 หน่วยงานแถลงด่วน เรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน

แผ่นดินไหว ‘อาฟเตอร์ช็อก‘ ฉุด ศก. คลังจ่อคลอดมาตรการฟื้นฟู 6 หน่วยงานสำคัญเปิดแถลงข่าวด่วนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นภาคเศรษฐกิจจริง และระบบทางการเงินจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 31 มี.ค.2568

ประกอบด้วยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และสภาวิศวกร ออกมาแถลงข่าวด่วนสำหรับ

นางรุ่ง ไปษยานนท์ มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการ ธปท.กล่าวว่า วันเกิดเหตุแผ่นดินไหวมีผลกระทบการให้บริการการเงินทำให้ปิดสาขาธนาคารบางแห่งชั่วคราว แต่การทำธุรกรรมการเงินทุกช่องทางเป็นปกติตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค.2568 ทั้งระบบบาทเน็ต ระบบพร้อมเพย์ โมบายแบงกิ้ง อินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง เช่นเดียวกันกับการเบิกจ่ายของภาครัฐที่ธุรกรรมเคลื่อนไหวปกติ

ทั้งนี้ ธปท.กำชับแบงก์ให้เข้าไปช่วยเหลือลูกหนี้เป็นการเร่งด่วนแล้ว ซึ่งมองว่าปัจจุบันผลกระทบต่อลูกหนี้นั้นมีไม่มากนัก ไม่เหมือนโควิดที่ผลกระทบเกิดขึ้นในวงกว้าง และกระทบยาวนาน ดังนั้นเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นผลกระทบระยะสั้น

ศาสตราจารย์ ดร.พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต.กล่าวว่า แผ่นดินไหวกระทบความเชื่อมั่นนักลงทุนระยะสั้น แต่ตลาดทุนไทยมีโครงสร้างแข็งแกร่งที่มีความทนทานยืดหยุ่น Resilience ในการรองรับผลกระทบได้ดี

รวมทั้งมองว่าแผ่นดินไหวคงไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่กระทบภาพรวมต่อตลาดทุน ตลาดหุ้นไทย แต่มีปัจจัยอื่นจากต่างประเทศมากระทบจากความกังวลของสงครามการค้าที่จะเริ่มประกาศมาตรการขึ้นกำแพงภาษีวันที่ 2 เม.ย.นี้ ทำให้ตลาดหุ้นเอเชียบางแห่งปรับตัวลง

ทั้งนี้แม้แผ่นดินไหวทำให้ ก.ล.ต.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับปัจจัยระยะสั้นมากขึ้น แต่แผนภายใต้ตลาดทุนไทยยังดำเนินการต่อเนื่อง ทั้งการหยุดเงินไหลออกจาก LTF ผ่านการออกกองทุน ThaiESGX ที่คาดจะเปิดวันที่ 1 พ.ค.นี้ ที่จะหนุนให้เม็ดเงินใหม่ และเม็ดเงินเก่าเข้าสู่ระบบได้มากขึ้น

“ท่ามกลางความเสี่ยงที่ทุกตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกเผชิญ จะเห็นเรากำลังดำเนินมาตรการต่อเนื่อง ดังนั้นอยากให้ย้อนกลับไปตอนก่อนเกิดแผ่นดินไหว ให้เห็นว่าสิ่งเหล่านี้เรากำลังทำ ดังนั้นหากแก้ปัญหาระยะสั้นได้เชื่อว่าสิ่งที่กำลังทำจะทำให้ตลาดสู้กับปัจจัยเสี่ยงจากข้างนอกได้ดี”

ตลาดรับดัชนีลงจากช็อกระยะสั้น

นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลท.กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยที่ปรับตัวลงนั้นคงไม่ใช่ปัจจัยกดดันจากแผ่นดินไหวเท่านั้น แต่มาจากปัจจัยต่างประเทศด้วย โดยเฉพาะสงครามการค้าที่กระทบตลาดหุ้นทั่วโลก โดยภายใต้ปัจจัยจากต่างประเทศที่กระทบ ตลท.คงเดาไม่ได้ว่าผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยจะทวีคูณหรือไม่

ทั้งนี้ ตลท.พร้อมใช้ Circuit Breaker หรือการหยุดการซื้อขายชั่วคราว หากดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงมากตามเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งเป็นมาตรฐานเพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินไม่เฉพาะสถานการณ์แผ่นดินไหว

โดยเกณฑ์ Circuit Breaker ถูกกำหนดไว้ว่า หากดัชนีปรับลดลง หรือเปลี่ยนแปลง 8% ตลท.จะพักการซื้อขายชั่วคราว 30 นาที ครั้งที่ 2 เมื่อตลาดเปลี่ยนแปลง 15% ของดัชนีปิดนั้นทำการก่อนหน้า จะหยุดซื้อขายอีก 30 นาที และครั้งที่ 3 เมื่อดัชนีเปลี่ยนแปลงลดลง 20%  จะพักการซื้อขายหลักทรัพย์ 1ชั่วโมง

นายอัสสเดช กล่าวว่า การปิดการซื้อขายภาคบ่ายวันที่ 28 มี.ค.68 เมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหว มาจากการประเมินร่วมกันในคณะกรรมการบริหารในการสั่งการปิดซื้อขาย เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชนช่วงเกิดเหตุการณ์ และมองปัจจัยข้อมูลที่ยังผันผวน

เร่งตรวจสอบอาคารสูงกรุงเทพฯ

ผศ.ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกสภาวิศวกร กล่าวภายในงานแถลงการณ์ร่วมภาคเศรษฐกิจจริง และระบบทางการเงิน จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว วันนี้ (31 มี.ค.68) โดยระบุว่า จากการเกิดเหตุแผ่นดินไหว ในแวดวงวิศวกรรมเมื่อเกิดอุบัติเหตุสิ่งหนึ่งที่คิดคือ ความเสียหายในลักษณะใด และมีข้อกฎหมายอะไรเกี่ยวข้องบ้าง นอกเหนือจากการกู้ภัยที่ต้องเข้าไปช่วย

อย่างไรก็ดี ในเหตุที่เกิดขึ้นครั้งนี้พบว่าแพร่กระจายไปหมดแม้กับบ้านสองชั้น ซึ่งวิศวกรได้ประเมินเหตุที่เกิด และความลึกของการสั่นไหว โดยมีการร่วมมือจากวิศวกรทุกภาคส่วน จากภาครัฐกรมโยธาธิการ และผังเมือง และกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อบริการประชาชน ซึ่งการตรวจสอบของวิศวกรจะจำแนกความเสียหายออกเป็น 3 กรณี แบ่งเป็น สีเขียวกลับเข้าไปใช้งานได้ สีเหลืองซ่อมแซมเล็กน้อย และสีแดงไม่มั่นใจเพราะไม่เห็นฐานราก

ทั้งนี้จากการที่ กทม.ได้ตั้งทีมตรวจสอบขึ้นมา โดยมีวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย และสภาวิศวกรเข้าร่วม พบว่ามีคนร้องเรียนเข้ามา 1.3 หมื่นราย ปัจจุบันตรวจสอบไปแล้วประมาณ 1 หมื่นราย ซึ่งรวมไปถึงการตรวจพื้นที่อาคารสูงด้วย และปัจจุบันเหลือเคสที่ยังไม่ตรวจสอบกว่า 2 พันราย โดยผลจากการตรวจสอบส่วนนี้พบว่าใน 1 หมื่นราย มีเคสสีแดงเพียง 2 แห่ง ส่วนใหญ่จะเป็นเคสสีเขียวหมด

คปภ.ยันบริษัทประกันภัยเร่งชดเชย

นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า จากเหตุแผ่นดินไหวที่ผ่านมา สิ่งแรกที่ทำตั้งแต่วันศุกร์ คปภ.แจ้งให้บริษัทประกันภัยทราบทุกบริษัท เตรียมพร้อมติดตามสถานการณ์ ช่วยเหลือเยียวยาการเบิกประกันต้องจ่ายเร็วที่สุด

อย่างไรก็ดี พบว่าเมื่อวันที่ 29 มี.ค.2568 ได้รับแจ้งทุกบริษัทพร้อมให้บริการประชาชน โดยมีการเปิดศูนย์รองรับ 24 ชั่วโมง ซึ่งช่วงแรกจะเป็นการสอบถามความเสียหาย ประเมินความเสียหาย และรายละเอียดความคุ้มครองตามประกันที่ดำเนินการไว้ แม้ยังไม่ได้มีการเข้าเคลมความเสียหาย แต่ก็เป็นการรับเรื่องร้องเรียนเพื่อให้ประชาชนมีความมั่นใจมากขึ้น และ คปภ.ได้กำชับบริษัทประกันทุกรายต้องตอบคำถามทุกข้อสงสัยของประชาชนให้ได้

“การเคลมประกันต่างๆ ยังไม่เริ่มเข้ามาในเวลานี้ แต่ได้กำชับขอให้ทุกบริษัทออกประกาศ ประสานให้ประชาชนถ่ายรูปความเสียหายไว้ก่อน เพื่อดำเนินการเบิกเงินให้ประชาชนได้เร็วที่สุด ซึ่งเราได้เปิดศูนย์รับเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา ยืนยันว่ามีความพร้อมบริการประชาชน”

ไม่กระทบโรงงาน-โลจิสติกส์

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) กล่าวภายในงานแถลงการณ์ร่วมภาคเศรษฐกิจจริง และระบบทางการเงิน จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว วันนี้ (31 มี.ค.68) โดยระบุว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ผ่านมาถือว่าไหวแรง ในช่วงแรกภาคการผลิตหลายโรงงานที่มีระบบป้องกันการสั่นไหว เครื่องจักรจะหยุดการทำงานทันที

รวมทั้งเมื่อกลับสู่สถานการณ์ปกติจะมีวิศวกรประจำโรงงานดูระบบ และดูเรื่องความปลอดภัยเพื่อเปิดเครื่องผลิตต่อ ซึ่งพบว่าหลายโรงงานหลัง 5 โมงเย็นวันนั้น ก็สามารถเปิดการผลิตได้ตามปกติ และวันเสาร์ก็กลับเข้าทำงานตามปกติ รวมไปถึงโรงงานขนาดเล็กทาง สอท.มีเจ้าหน้าที่สอบถามก็พบว่าไม่มีปัญหา

อย่างไรก็ดี ในช่วงแรกของการเกิดเหตุ สิ่งที่กังวล คือ เรื่องส่งแก๊สใต้ดิน แต่จากการตรวจสอบก็พบว่าไม่มีปัญหา โรงงานขนาดใหญ่ตรวจความดันแก๊สก็พบว่าปกติ เครื่องจักรก็กลับมาเดินเครื่องส่วนใหญ่ตั้งแต่วันเสาร์ และวันนี้ก็กลับทำงานตามปกติ

ส่วนประเด็นการจัดส่งเรื่องของวัตถุดิบ เส้นทางขนส่งต่างๆ ก็พบว่าไม่มีปัญหา บางแห่งปิดชั่วคราว ถนนหรือทางด่วน ก็พบว่าผู้ประกอบการอ้อมไปใช้เส้นทางอื่นเล็กน้อยแทน ส่วนเรื่องของช่องทางส่งออกสินค้าทางท่าเรือ เครื่องบิน และระบบรางยังไม่มีปัญหาเกือบทุกโรงงานกลับมาทำงานตามปกติ และคู่ค้าต่างประเทศก็สอบถามเข้ามาเรื่องการผลิต คอมเฟิร์มว่าทุกอย่างยังเหมือนเดิม

“เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นบททดสอบสำคัญของความมั่นคงทุกส่วนของไทย ทั้งที่อยู่อาศัย การผลิต และการท่องเที่ยว เพราะประเทศไทยเรามีนักท่องเที่ยวเยอะ ก็ฟื้นตัวได้เร็ว และยังพบว่าโอกาสจากการเกิดเหตุครั้งนี้ก็มี สะท้อนชัดว่าเราป้องกันตัวเองได้ดี”

ธปท.หวั่นคนชะลอซื้ออสังหาฯ จากแผ่นดินไหว 

นอกจากนี้ ธปท.ได้รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจประจำเดือนก.พ.2568 โดยนายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธปท.กล่าวว่า แผ่นดินไหวอาจกระทบภาคอสังหาฯ โดยเฉพาะอาคารสูงที่อาจได้รับผลกระทบ และทำให้คนชะลอการเช่าหรือซื้ออาคารสูงระยะสั้น จากเดิมที่ภาคอสังหาฯ ฟื้นตัวช้า และมีอุปทานคงค้างจำนวนมาก ดังนั้นเหตุการณ์ดังกล่าวอาจซ้ำเติมปัญหาภาคอสังหาฯ

ส่วนการผ่อนคลายมาตรการ LTV ก่อนหน้านี้ ธปท.ไม่ได้หวังว่าจะมีผลบวกกับเศรษฐกิจมากอยู่แล้ว ซึ่งหวังว่ามาตรการจะเข้ามาช่วยปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ฟื้นตัวช้า จากเรื่องของอุปทานคงค้างที่อยู่ในระดับสูง

“เร็วไปที่จะประเมินผลกระทบจากแผ่นดินไหวทั้งเศรษฐกิจ และภาคต่างๆ แต่ภาคอสังหาฯ คงมีแน่นอนเรื่องการชะลอการตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมสูง ดังนั้นต้องติดตามความเชื่อมั่น ความปลอดภัยว่าจะกลับมาฟื้นตัวได้เร็วมากน้อยแค่ไหน"

ส่วนการท่องเที่ยวยอมรับว่ากระทบความเชื่อมั่นที่อาจยกเลิกหรือเลื่อนการเดินทาง ขณะที่การจับจ่ายใช้สอยประเมินเบื้องต้นอาจชะลอลงระยะสั้นจากครัวเรือนที่บางส่วนมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมสร้าง และภาระทางการเงินมากขึ้นจากเหตุการณ์นี้ ดังนั้น ต้องติดตามสถานการณ์ดังกล่าวใกล้ชิด เพื่อประเมินภาพเศรษฐกิจระยะข้างหน้า และเตรียมนำข้อมูลต่างๆ เข้าไปพิจารณาในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 30 เม.ย.นี้ด้วย

เศรษฐกิจไทยกระทบไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นล้าน

ล่าสุด ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยเบื้องต้นคิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท หรือกระทบจีดีพี -0.06% หลักๆ มาจากการหยุดชะงักหรือเลื่อนออกไปของกิจกรรมเศรษฐกิจ รวมถึงกำลังซื้อที่อาจลดลง เพราะธุรกิจ และครัวเรือนต้องโยกกระแสเงินสด/รายได้ไปใช้เพื่อการตรวจสอบความเสียหาย และซ่อมแซมอาคาร

ทั้งนี้ หากรวมความเสียหายต่ออาคาร ทรัพย์สิน การทรุดตัว/การสั่นสะเทือนของอาคารบางแห่งเพิ่มเติม รวมถึงการซ่อมแซม และการเคลมประกันหลังจากนี้ ผลกระทบจะมากกว่านี้

แม้การซ่อมแซมความเสียหาย และความต้องการในการหาที่พักสำรอง จะทำให้การก่อสร้าง วัสดุก่อสร้าง ที่พักแนวราบ ได้รับอานิสงส์ แต่ผลกระทบด้านลบคงจะมีต่อยอดขาย และการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่อาจช้าลงในบางโครงการ นอกจากนี้ ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย อาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในระยะสั้นตามความเชื่อมั่นต่อการเดินทาง และการหาที่พัก ซึ่งโรงแรมในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ก็เป็นอาคารสูง

ทั้งนี้ ผลต่อธุรกิจธนาคารพาณิชย์ มองว่า มาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน คงช่วยประคองภาพสินเชื่อรวม ขณะที่ ประเด็นติดตามจะอยู่ที่ 1.คุณภาพหนี้ โดยเฉพาะหนี้ภาคอสังหาริมทรัพย์ ก่อสร้าง และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย 2.การไถ่ถอนหุ้นกู้ของภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบในระยะที่เหลือของปีนี้ และ 3.ผลจากการลดดอกเบี้ยในประเทศ หากเศรษฐกิจไทยส่งสัญญาณการชะลอตัวที่ชัดเจนขึ้น อันจะกระทบต่อรายได้ดอกเบี้ยสุทธิของระบบแบงก์ไทยเพิ่มเติม

“คลัง” มั่นใจเป้าหมายจีดีพี 3% เตรียมแผนฟื้นฟูแผ่นดินไหว

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) อยู่ระหว่างการประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยคาดว่าจะมีผลในระยะสั้น แต่พื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังคงแข็งแกร่ง รัฐบาลยังคงเดินหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้ GDP เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 3% หรือมากกว่านั้น พร้อมทั้งเร่งสร้างความเชื่อมั่นโดยเร็วที่สุด

“ในวันนี้สิ่งที่ทุกภาคส่วนปฏิบัติคือ การให้การช่วยเหลือสิ่งที่เป็นปัญหาเฉพาะหน้ากับกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ ขณะที่เรื่องเศรษฐกิจ กระทรวงการคลังอยากให้ความเชื่อมั่นต่อระบบเศรษฐกิจไทยที่ยังคงมีความเข้มแข็ง และมีความมั่นคง อีกทั้งขณะนี้ยังไม่มีระบบเศรษฐกิจไหนเลยที่ส่งสัญญาณว่ามีปัญหา และจะสร้างความเสียหายในระยะยาว”

นายลวรณ กล่าวว่า ในวันนี้มีข่าวลือที่ออกมาสร้างความแตกตื่นก็อยากให้ช่วยกันสร้างข่าวจริงว่าเรามีความเข้มแข็งทั้งเรื่องเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว ซึ่งกำลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซันโดยเบื้องต้น กระทรวงการคลังได้มีการเตรียมความพร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบในด้านต่างๆ ผ่านการออกมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้จากธนาคารเฉพาะกิจของรัฐทั้ง 7 แห่ง และธนาคารกรุงไทย 

ทั้งการพักชำระหนี้ และการให้เงินกู้ดอกเบี้ยพิเศษให้กับผู้ประกอบการ โดยคาดว่าจะมีการสรุปความต้องการสินเชื่อหลังจากนี้ 1 สัปดาห์

นอกจากนี้ กรมบัญชีกลางยังได้ออกหลักเกณฑ์ผ่อนปรนระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง สามารถดำเนินการจ้างแบบเฉพาะเจาะจงได้เลย เพื่อการซ่อมแซมส่วนราชการที่เสียหายเพื่อให้กลับสู่ภาวะปกติได้เร็วที่สุด

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์