SCB WEALTH จับมือ BlackRock เสริมแกร่งการลงทุนมุ่งสู่ระดับโลก

SCB WEALTH จับมือ BlackRock เสริมแกร่งการลงทุนมุ่งสู่ระดับโลก

SCB WEALTH ดึงพันธมิตรเบอร์หนึ่งระดับโลกด้านการจัดการสินทรัพย์ จับมือ BlackRock หนุน SCB WEALTH เป็นผู้นำอันดับหนึ่งธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในไทย

นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า SCB WEALTH เป็นหน่วยธุรกิจที่สำคัญของธนาคาร มีเป้าหมายในการขึ้นเป็นอันดับหนึ่งด้านการบริหารความมั่งคั่งในประเทศไทย ในปี 2569 เพื่อยกระดับการให้บริการในธุรกิจเวลธ์ดีที่สุดในทุกมิติ มีมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล

หนึ่งในหัวใจสำคัญที่จะนำพาให้บรรลุเป้าหมายนี้คือ การมีพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญระดับโลก และมีแนวคิดในการทำงานที่สอดคล้องกัน เพื่อคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า และนักลงทุนไทยในการสร้างอนาคตทางการเงินให้แข็งแกร่ง มีสินทรัพย์เพียงพอต่อการดำรงชีวิตวัยเกษียณ

พันธกิจที่สำคัญนี้ธนาคารเห็นว่า BlackRock ผู้นำเบอร์หนึ่งด้านการจัดการสินทรัพย์ระดับโลก มีแนวคิดในการดำเนินธุรกิจบริหารความมั่งคั่งไปในทิศทางเดียวกับ SCB WEALTH ที่ให้ความสำคัญด้านการวางแผนการลงทุนเพื่อเป้าหมายในระยะยาว

โดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า เปิดโอกาสให้ SCB WEALTH เข้าถึงข้อมูลการลงทุนในเชิงลึกและออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ให้เฉพาะลูกค้าธนาคารเท่านั้น

ซึ่งตอบโจทย์แนวทางการทำงานของธนาคารในเชิงกลยุทธ์การบริหารความมั่งคั่ง จึงทำให้เกิดความร่วมมือกันระหว่าง SCB WEALTH และ BlackRock ได้จับมือกันสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ให้กับธุรกิจบริษัทความมั่งคั่งในไทยเพื่อนำพานักลงทุนไทยมุ่งสู่การลงทุนระดับโลก

 

BlackRock เป็นผู้นำเบอร์หนึ่งธุรกิจการจัดการสินทรัพย์ระดับโลก ที่มีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการกว่า11.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ข้อมูล ณ ธันวาคม 2567) มีสินทรัพย์ลงทุนที่หลากหลายครอบคลุมทุกตลาดทั่วโลก มีสถาบันวิจัย BlackRock Investment Institute ที่ทำหน้าที่วิเคราะห์ภาพรวมเศรษฐกิจสร้างพอร์ตการลงทุนเพื่อช่วยเหลือลูกค้าในการขับเคลื่อนการลงทุนในตลาดการเงิน

ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการสร้างความยิ่งใหญ่ครั้งใหม่ที่ 2 ยักษ์ในธุรกิจบริหารความมั่งคั่งชั้นนำของไทย และผู้นำด้านการลงทุน และบริหารความเสี่ยงอย่าง BlackRock มาร่วมกันขับเคลื่อนธุรกิจเวลธ์ในไทย เพื่อมอบโซลูชันการลงทุนที่ตอบโจทย์และสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาวให้กับนักลงทุนไทย

ความร่วมมือในครั้งนี้มีเป้าหมายร่วมกันในการเจาะลึกทุกมิติของการลงทุนแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุด โดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) 

ภายใต้แนวคิด Your Success. Our Success. ช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายทางการเงินในระยะยาว โดย SCB WEALTH และ BlackRock จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเข้าถึงข้อมูลการลงทุนในเชิงลึก จัดทำบทวิเคราะห์ร่วมกัน เพื่อให้ลูกค้ามีข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนที่ดีขึ้น จัดตั้งทีมงานในการค้นหากลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมให้กับนักลงทุนไทย เพื่อโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว 

โดยจะร่วมกันพัฒนาออกแบบผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย มีมาตรฐานระดับสากลให้เฉพาะลูกค้า SCB WEALTH เท่านั้น นอกจากนี้ BlackRock จะร่วมกับ SCB Wealth Academy ในการพัฒนาโปรแกรมฝึกอบรมสำหรับที่ปรึกษาการเงิน (RM) เพื่อเพิ่มองค์ความรู้ด้านการลงทุน เข้าใจผลิตภัณฑ์การลงทุนอย่างลึกซึ้ง

และการให้บริการลูกค้าเพื่อยกระดับให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล พร้อมร่วมให้คำปรึกษา และแชร์ประสบการณ์ มาเสริมประสิทธิภาพการให้คำแนะนำการลงทุน ที่แม่นยำและรวดเร็ว ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง และร่วมทำการตลาดแบบ Co-brand เพื่อยกระดับการให้บริการด้านการลงทุนแก่ลูกค้าทั่วประเทศ

นายแอนดรู แลนด์แมน รองประธานภาคพื้นเอเชีย แปซิฟิค และประธานด้านการบริหารความมั่งคั่ง เอเชีย แปซิฟิค เปิดเผยว่า การร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการผสมผสานองค์ความรู้ในการลงทุน และบริการต่างๆ จาก BlackRock เข้ากับความเชี่ยวชาญของธนาคารในการบริหารความมั่งคั่ง และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงโจทย์ความต้องการของนักลงทุนไทย

เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้นำเสนอโอกาสในการลงทุนระดับโลกที่มีความหลากหลายให้กับนักลงทุนทั้งกลุ่ม High Net Worth และ กลุ่ม Mass Affluent ในประเทศไทยเพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายการลงทุนในระยะยาว   

จากข้อมูล Statista Market Forecast ธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดว่า ในปี 2568 มีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร เพิ่มขึ้นเป็น 86.74 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเพิ่มเป็น 88.49 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2572

โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการเติบโตของเศรษฐกิจ และโครงสร้างพื้นฐานที่ดีขึ้น ส่งผลให้กลุ่มบุคคลที่มีความมั่งคั่งระดับสูง (HNWIs) ในประเทศไทย ขยายตัวมากขึ้น และต้องการโซลูชันการลงทุนที่มีความซับซ้อนมากขึ้นตามโลกที่เปลี่ยนแปลง

เช่น การลงทุนแบบ Multi-Asset  ในการกระจายสินทรัพย์ลงทุนที่มีความหลากหลาย  เพื่อลดความผันผวนของพอร์ต และโอกาสทำกำไรในระยะยาว ซึ่งจะพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษเพื่อลูกค้า SCB WEALTH เท่านั้น

โดยพอร์ตโฟลิโอนี้จะบริหารโดยทีมบริหารพอร์ตโฟลิโอเฉพาะทางในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนแบบ Multi-Asset กว่า 500 คนทั่วโลก จะบริหารจัดการด้วยมุมมองการลงทุนระยะยาวควบคู่ข้อมูลการวิจัยการลงทุนในเชิงลึก เพื่อช่วยให้ลูกค้ามีข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนที่ดีขึ้น และเข้าใจถึงประโยชน์ที่แท้จริงของการลงทุนแบบ Multi-Asset

นอกจากนี้ ความร่วมมือนี้จะช่วยสนับสนุน SCB WEALTH ที่มีเป้าหมายในการเพิ่มสินทรัพย์ลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 180,000 ล้านบาท ในปี 2569 จากการเห็นโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับลูกค้า

และต้องการให้ลูกค้าเข้าถึงโซลูชันการลงทุนระดับโลกมากขึ้น ได้สัมผัสนวัตกรรมการลงทุนใหม่ๆ ที่มีคุณภาพสูง โดยเฉพาะในปัจจุบันที่ตลาดมีความผันผวน และมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว BlackRock จะร่วมมือกับ SCB WEALTH 

ในฐานะผู้ให้คำแนะนำในการลงทุนเพื่อออกแบบนวัตกรรมผลิตภัณฑ์เฉพาะลูกค้า SCB WEALTH เท่านั้น รวมไปถึงการนำเสนอข้อมูลบทวิเคราะห์การลงทุนในเชิงลึก เพื่อให้ลูกค้ามีข้อมูลเพียงพอต่อการตัดสินใจลงทุน และ BlackRock จะนำประสบการณ์มาร่วมจัดอบรมพัฒนาศักยภาพที่ปรึกษาทางการเงิน ให้เข้าใจผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลายเชิงลึกมากขึ้น เพื่อสามารถส่งผ่านความเข้าใจถึงลูกค้า

ผนวกกับการให้บริการที่ดีแบบมืออาชีพเทียบเท่าระดับสากล เพื่อสนับสนุนให้ SCB WEALTH เป็นที่หนึ่งในใจลูกค้าในทุกๆ ด้านของการลงทุน และมีสินทรัพย์ลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้นได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์