ราคาทองคำโลกสูงขึ้น ตลาดกังวลสงครามภาษีศุลกากร เงินเฟ้อต่ำหนุน

ราคาทองคำโลกสูงขึ้น ตลาดกังวลสงครามภาษีศุลกากร เงินเฟ้อต่ำหนุน

ราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นในวันพุธ จากความไม่แน่นอนของภาษีศุลกากรและเงินเฟ้อสหรัฐที่ชะลอลง ตอกย้ำความเชื่อว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนมิถุนายน

รอยเตอร์ส รายงานภาวะตลาดทองคำโลกวันพุธ (12 มี.ค.) ว่า ราคาทองคำในตลาดสปอต (Spot Gold) ปรับตัวสูงขึ้น 0.7% อยู่ที่ 2,935.59 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 14.32 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกสหรัฐ (18.32 GMT) ส่วนราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐฯ(Gold Futures)  พุ่งสูงขึ้น 0.9% อยู่ที่ 2,946.80 ดอลลาร์

ราคาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยปรับตัวสูงขึ้นในวันพุธ เนื่องจากความไม่แน่นอนของภาษีศุลกากรและรายงานเงินเฟ้อสหรัฐที่ชะลอลง ทำให้การคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

บาร์ต เมเล็ก หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของโบรกเกอร์ TD Securities กล่าวว่า “ยังคงมีความกังวลว่าจะมีการจัดเก็บภาษีศุลกากรและอาจส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อในที่สุด” 

ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนที่แล้ว หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนมกราคม อย่างไรก็ตาม การชะลอตัวดังกล่าวมีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นชั่วคราวท่ามกลางสถานการณ์ของภาษีนำเข้าที่เข้มงวด ซึ่งคาดว่าจะทำให้ต้นทุนสินค้าส่วนใหญ่สูงขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

เมเล็กกล่าวเสริมว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ลดลงอาจทำให้เฟดมีอิสระมากขึ้นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

เมื่อปีที่แล้ว ธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 1%  ตลาดการเงินคาดว่าเฟดจะกลับมาปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนมิถุนายน เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ลง หลังจากที่เฟดหยุดพักการลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมกราคม

ทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย จะมีราคาเพิ่มขึ้นในสภาพแวดล้อมที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ และถือเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยในช่วงที่เศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ปั่นป่วน

นักลงทุนจับตามองข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ และข้อมูลการยื่นขอสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่จะประกาศในวันพฤหัสบดี

ในด้านนโยบายการค้า การเพิ่มภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีผลบังคับใช้ในวันพุธ ซึ่งเป็นการยกระดับการรณรงค์เพื่อจัดระเบียบการค้าโลกใหม่เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อสหรัฐฯ และได้รับการตอบโต้อย่างรวดเร็วจากยุโรป

ด้านราคาโลหะเงินในตลาดเพิ่มขึ้น 1.1% เป็น 33.31 ดอลลาร์ต่อออนซ์

รายงานวิเคราะห์ของธนาคาร UBS ชี้ว่า ราคาโลหะเงินน่าจะทำผลงานได้ดีกว่าทองคำ จากการคาดการณ์ว่ากิจกรรมการผลิตฟื้นตัวเล็กน้อย แม้ว่าการเติบโตที่ชะลอตัวลงอย่างรวดเร็วของสหรัฐฯ จะเป็นความเสี่ยงหลักก็ตาม 

ราคาแพลตตินัมเพิ่มขึ้น 1.3% เป็น 987.40 ดอลลาร์ และแพลเลเดียมเพิ่มขึ้น 0.2% เป็น 947.50 ดอลลาร์