ราคาทองคำ ปรับขึ้น จากดอลลาร์อ่อนค่าและความกลัวเศรษฐกิจชะลอ

ราคาทองคำเพิ่มขึ้น 1% ในวันอังคาร ท่ามกลางดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงและความกังวลต่อเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากสงครามภาษีศุลกากร ขณะที่นักลงทุนต่างจับตาดูข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐ
รอยเตอร์ส รายงานภาวะตลาดทองคำโลกวันอังคาร (11 มี.ค.) ว่า ราคาทองคำแท่ง ตลาดสปอต (Spot Gold) เพิ่มขึ้น 1% อยู่ที่ 2,917.79 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 13.16 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐ (17.16 GMT) ส่วน ราคาทองคำ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าของสหรัฐ (Gold Futures) เพิ่มขึ้น 0.7% อยู่ที่ 2,920.90 ดอลลาร์
ราคาทอง เพิ่มขึ้น 1% ในวันอังคาร ท่ามกลางดอลลาร์อ่อนค่าลงและความกังวลต่อเศรษฐกิจชะลอตัวจากสงครามภาษีศุลกากร ขณะที่นักลงทุนต่างจับตาดูข้อมูลเงินเฟ้อที่อาจช่วยชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ในอนาคต
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงทำให้ทองคำแท่งที่มีราคาเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น
“แนวโน้มทองคำจะยังคงได้รับแรงหนุนท่ามกลางความไม่แน่นอนของตลาดที่ยังคงดำเนินอยู่ ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยนี้เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าใดๆในการเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครนอาจลดความร้อนแรงของทองคำลงได้” ซายน์ วาวดา นักวิเคราะห์ตลาดจากบริษัทการเงิน MarketPulse by OANDA กล่าว
นโยบายการตั้งกำแพงภาษีศุลกากรที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ บังคับใช้กับคู่ค้าสำคัญทำให้ตลาดโลกผันผวนอย่างมากและทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ทองคำแท่ง ถือเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอน และมีแนวโน้มที่จะราคาสูงขึ้นในสภาพแวดล้อมที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย
ตลาดกำลังจับตาดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ ที่จะรายงานในวันพุธและดัชนีราคาผู้ผลิตในวันพฤหัสบดี ตามการสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์ส คาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนกุมภาพันธ์จะเพิ่มขึ้น 0.3%
ปัจจุบัน นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน
รายงานการวิเคราะห์ของธนาคาร Commerzbank ระบุว่า
"ราคาทองคำซื้อขายในระดับสูงมากแล้ว เนื่องจากการพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่ต้นปี ซึ่งจำกัดศักยภาพขาขึ้น"







