ราคาทองคำแตะระดับต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์ ขณะดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

ราคาทองคำร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ในวันพฤหัสบดี เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น นักลงทุนรอข้อมูลเงินเฟ้อที่อาจชี้ทิศทางดอกเบี้ยของเฟด
รอยเตอร์สรายงานภาวะตลาดทองคำโลกวันพฤหัสบดี ( 27 ก.พ. ) ว่า ราคาทองคำในตลาดสปอต (Spot Gold) ร่วงลง 1.1% สู่ระดับ 2,885.13 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 13.50 น. ตามเวลามาตรฐานฝั่งตะวันออกของสหรัฐ (18.50 GMT) หลังจากแตะระดับต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ. ในช่วงก่อนหน้าของการซื้อขาย
เมื่อวันจันทร์ (24 ก.พ.) ที่ผ่านมา ราคาทองคำแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,956.15 ดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนจากกระแสเงินทุนไหลเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
ราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐ (Gold Futures) ลดลง 1.2% แตะที่ 2,895.9 ดอลลาร์
ราคาทองคำร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ในวันพฤหัสบดี เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น โดยนักลงทุนกำลังรอข้อมูลเงินเฟ้อที่สำคัญซึ่งอาจช่วยชี้แนวทางการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
“ทิศทางของทองคำนั้นชัดเจนมาก และการปรับตัวขึ้นลงในระยะสั้นและการเทขายทำกำไรนั้นเป็นเรื่องปกติของวัฏจักร” อเล็กซ์ เอ็บคาเรียน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของผู้ค้าทองคำ Allegiance Gold กล่าว
ดัชนีดอลลาร์ (DXY) เพิ่มขึ้น 0.7% ทำให้ทองคำแท่งที่มีราคาเทียบกับดอลลาร์สหรัฐมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น
ขณะนี้ นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่ดัชนีการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐ ซึ่งมีกำหนดจะประกาศในวันศุกร์นี้ ซึ่งคาดว่าจะยังคงอยู่ที่ 0.3% ตามผลสำรวจของรอยเตอร์ส
บาร์ต เมเล็ก หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของโบรกเกอร์ TD Securities กล่าวว่าการเบี่ยงเบนอย่างมีนัยสำคัญจากข้อมูล PCE ที่คาดการณ์ไว้อาจก่อให้เกิดปฏิกิริยาเชิงลบต่อตลาดทองคำ จากความกังวลว่าเฟดมีแนวโน้มน้อยลงที่จะลดอัตราดอกเบี้ย
ตลาดคาดว่า เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อยสองครั้งในปีนี้ โดยลดลงประมาณ 0.55%
นักลงทุนยังรอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับนโยบายการเงินของสหรัฐฯ จากคำปราศรัยของเจ้าหน้าที่เฟดหลายคนที่กำหนดไว้ในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กล่าวในวันพฤหัสบดีว่าภาษีนำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาที่เขาเสนอจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 มีนาคมตามกำหนด และยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่าจีนจะถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มอีก 10% ในวันนั้น จากที่สหรัฐขึ้นภาษีจีนไปแล้ว 10% ก่อนหน้านี้
อเล็กซ์ เอบคาเรียน ยังมองตลาดในเชิงบวก เขาทำนายว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะทะลุ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และอาจเกิดขึ้นภายใน 30 ถึง 60 วันข้างหน้านี้ โดยปัจจัยหลักจะขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาของตลาดต่อภาษีศุลกากรของทรัมป์
ด้านราคาโลหะเงินย่อตัวลง 1.2% เหลือ 31.45 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาแพลตตินัมลดลง 1.2% เหลือ 954.05 ดอลลาร์ และแพลเลเดียมลดลง 0.6% เหลือ 921 ดอลลาร์






