เปิดกำไร 9 แบงก์ ทะยาน2 แสนล้าน ‘กสิกร-กรุงเทพ-เอสซีบีเอกซ์’ ผลงานเด่น

เปิดกำไรกลุ่มแบงก์ พบ “9ธนาคาร” พุ่ง โดย “กสิกรไทย” กำไรสูงสุดของกลุ่ม 4.8 หมื่นล้าน ถัดมา “แบงก์กรุงเทพ” 4.5 หมื่นล้าน และ “เอสซีบีเอกซ์” 4.3 หมื่นล้าน อานิสงส์จาก “การบริหารจัดการต้นทุน-หนี้เสียอย่างมีคุณภาพ” หนุนสำรองลดวูบ โดยรวม 9 แบงก์สำรองลดเหลือ 1.99 แสนล้าน
กลุ่มธนาคารพาณิชย์ (แบงก์) ประกาศผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 4 และงบปี 2567 เป็นที่เรียบร้อย โดยจากการรวบรวมของ “กรุงเทพธุรกิจ” จาก 9 ธนาคารพาณิชย์ เช่น ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ธนาคารกรุงเทพ (BBL) กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ (SCB) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) ธนาคารทิสโก้ (TISCO) ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LHFG) ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย (CIMBT)
โดยทั้ง 9 ธนาคาร มีกำไรสุทธิโดยรวมในปี 2567 อยู่ที่ 205,268 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากปี 2566 ที่กำไรสุทธิโดยรวมอยู่ที่ 195,558 ล้านบาท
พบ 3 ธนาคาร ที่มีกำไรสูงสุด อันดับแรก ธนาคารกสิกรไทย กำไรสุทธิอยู่ที่ 48,598 ล้านบาท ถัดมาคือ ธนาคารกรุงเทพ กำไรสุทธิอยู่ที่45,211 ล้านบาท และเอสซีบี เอกซ์ กำไรสุทธิอยู่ที่ 43,943 ล้านบาท
ทั้งนี้ หากดูผลประกอบการในไตรมาส 4 ปี 2567 พบว่า กลุ่มธนาคารโดยรวม กำไรส่วนใหญ่ลดลง โดยรวมอยู่ที่ 48,638 ล้านบาท ลดลง 7.31% หากเทียบกับไตรมาส 3 ที่ผ่านมา
ดังนั้น หากเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน พบว่ากำไรโดยรวมยังปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ราว 9.2% โดยธนาคารที่มีกำไรสุทธิเติบโตโดดเด่นในไตรมาส 4 หากเทียบกับไตรมาส 3
เช่น เอสซีบี เอกซ์ เติบโต 7% และเกียรตินาคินภัทร เติบโต 7.74% และซีไอเอ็มบีไทยเติบโต 61.68% แต่หากเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนพบว่า ธนาคารที่เติบโตดี ทั้งธนาคารกรุงเทพ เติบโต 17.39% ธนาคารกสิกรไทย 11.78% เอสซีบี เอกซ์ 6.48% ธนาคารทหารไทยธนชาต 5.06% เกียรตินาคินภัทร เติบโตสูงที่ 109.85% แลนด์แอนด์เฮ้าส์ 64% และซีไอเอ็มบีไทย 834%
สำหรับ ภาพรวมการตั้งสำรองหนี้สูญ หรือการตั้งผลขาดทุนทางเครดิต โดยรวมทั้ง 9 แบงก์สำรองอยู่ที่ 199,680 ล้านบาท โดยลดลง 0.53% จากปีก่อนที่สำรองโดยรวมอยู่ที่ 198,636 ล้านบาท
โดยการสำรองหนี้สูญ ที่ปรับลดลงมากคือไตรมาส 4 โดยรวมอยู่ที่ 48,847 ล้านบาท ลดลง 3.5% จากช่วงไตรมาสก่อนหน้า และลดลง 15.73% หากเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX กล่าวว่า ในปี 2568 SCBX จะเน้นสร้างการเติบโตต่อเนื่องจากธุรกิจที่มีอยู่ปัจจุบัน โดยเฉพาะธุรกิจในกลุ่มสินเชื่อผู้บริโภคโดยมุ่งไปที่การบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และการติดตามจัดเก็บหนี้ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น และบริษัทจะเดินหน้าให้ความเชื่อเหลือกลุ่มลูกค้าเปราะบางภายใต้มาตรการของภาครัฐอย่างเต็มกำลัง
นอกจากนี้ SCBX ให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างยั่งยืนโดยจะเตรียมความพร้อมร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อจัดตั้ง Virtual Bank และมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ตลอดจนสร้างโอกาสการเติบโตธุรกิจด้าน Climate Tech
นอกจากนี้ บริษัทเดินหน้าสู่เป้าหมายการเป็น AI-first organization โดยการใช้ AI ในทุกมิติของการดำเนินงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป
นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ท่ามกลางความท้าทายของปัจจัยต่าง ๆ ธนาคารและบริษัทย่อยยังคงมุ่งเน้นการสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย โดยเฉพาะการส่งมอบผลตอบแทนที่มั่นคงให้แก่ผู้ถือหุ้น การดูแลช่วยเหลือลูกค้าในด้านต่าง ๆ อย่างเหมาะสม
โดยในปี 2567 ธนาคารยังคงตั้งสำรองฯ ตามหลักความระมัดระวังอย่างต่อเนื่องในทุกไตรมาส เพื่อรองรับความไม่แน่นอนของปัจจัยต่าง ๆ รวมถึงภาวะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่เติบโตช้าและในอัตราที่ต่ำ แม้ว่าสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ลดลง 8.85% ส่งผลให้กำไรสุทธิในปี 2567 มีจำนวน 48,598 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.6%