'ทรัมป์’ ปลุกตลาดคึก จับทิศทางหุ้น บอนด์ คริปโท ค่าเงิน หลังพิธีสาบานตน

ชัยชนะของ 'ทรัมป์’ ปลุกตลาดคึกคัก แต่แผนเศรษฐกิจที่กระตุ้นสงครามการค้าทำให้นักลงทุนกังวล จับทิศทางหุ้น บอนด์ คริปโท ค่าเงิน หลังพิธีสาบานตน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่าชัยชนะของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ช่วงเดือนพ.ย. ส่งผลให้ตลาดการเงินปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยดัชนีหุ้นพุ่งสูงขึ้น ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า รวมถึงราคา “บิตคอยน์” ปรับตัวสูงขึ้นเกินความคาดหมาย แต่เพียง 2 เดือนหลังจากนั้น นักลงทุนให้ความสนใจในบางตลาดเท่านั้น นำโดยดัชนี S&P 500 ได้สูญเสียการเติบโตที่สำคัญซึ่งเกิดจาก 'ปรากฏการณ์ทรัมป์'
หลังจากทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง นักลงทุนเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่คาดการณ์ไว้ และยังกังวลว่านโยบายต่างๆ ของรัฐบาลชุดใหม่ รวมถึงนโยบายภาษีศุลกากรอาจนำไปสู่ความกังวลว่าอาจนำไปสู่สงครามการค้าที่ยาวนานและตึงเครียดมากขึ้นนั้น อาจส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นหรือไม่ รวมทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
แอนดรูว์ โฮลเลนฮอร์สต์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำสหรัฐฯ ของซิตี้กรุ๊ป ได้ให้ความเห็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับการคาดการณ์เศรษฐกิจในปี 2568 โดยเขาได้กล่าวว่า การพยากรณ์เศรษฐกิจนั้นเปรียบเสมือนการคาดเดาอนาคต ซึ่งมีความไม่แน่นอนสูง เนื่องจากปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะนโยบายทั้งทางการเงินและการคลัง มีความผันผวนและเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ดังนั้น การทำนายอนาคตของเศรษฐกิจจึงเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมาก
การเข้ารับตำแหน่งของรัฐบาลใหม่ได้จุดประกายความสนใจของนักลงทุนให้หันมาจับตาสินทรัพย์และภาคส่วนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากนโยบายใหม่
หุ้น
ความสนใจในตลาดหุ้นสหรัฐค่อยๆ ลดลงหลังจากที่ดัชนีจะพุ่งขึ้นถึง 8% ในช่วงระหว่างวันที่ 5 -25 พ.ย.67
สตีฟ โซสนิค หัวหน้านักวิเคราะห์จาก Interactive Brokers ได้ให้ความเห็นว่าเนื่องจากหุ้นจำนวนมากมีกำไรเพียงเล็กน้อยหรือแทบไม่มีกำไรเลย ทำให้ต้องพึ่งพาเงินทุนเพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ดังนั้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น จึงส่งผลกระทบต่อสถานการณ์โดยรวม
หุ้นกลุ่มธนาคารประสบกับความผันผวนหลังการเลือกตั้ง อันเนื่องมาจากคำมั่นของทรัมป์ที่จะผ่อนปรนกฎระเบียบสำหรับสถาบันการเงิน โดยดัชนี KBW Bank ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 14% ในช่วงเดือน พ.ย.67 รวมถึงหุ้นในกลุ่มพลังงานก็ปรับตัวสูงขึ้นหลังการเลือกตั้งเช่นกัน โดยได้แรงหนุนจากจุดยืนของทรัมป์ในเรื่องการผลิตน้ำมันและก๊าซ ดัชนีพลังงาน S&P 500 พุ่งขึ้น 3.5% ในวันที่ 6 พฤศจิกายน และเพิ่มขึ้นรวม 6.5% นับจากวันเลือกตั้งจนถึงวันที่ 22 พ.ย.67
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐทั้ง 2 กลุ่มก็ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด ผลกระทบจากภาษีศุลกากร และการชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ดอลลาร์
ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ของ Bloomberg ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5% ในช่วง 10 สัปดาห์หลังการเลือกตั้ง ซึ่งใกล้เคียงกับการปรับตัวขึ้นที่เกิดขึ้นหลังจากชัยชนะของทรัมป์ในปี 2016
การเคลื่อนไหวนี้ได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินทั่วโลกที่มีความเสี่ยงจากนโยบายเศรษฐกิจของทรัมป์ โดยเฉพาะเงินยูโรและดอลลาร์แคนาดา
สกุลเงินในตลาดเกิดใหม่ส่วนใหญ่อ่อนค่าลงหลังชัยชนะของทรัมป์ โดยดัชนี MSCI ปรับตัวลดลง 2.2% นับจากวันเลือกตั้ง นำโดยค่าเงินของแอฟริกาใต้และสกุลเงินในยุโรปเป็นกลุ่มที่ปรับตัวลดลงมากที่สุด
ขณะเดียวกันค่าเงินหยวนได้อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์มากกว่า 3% นับตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย.67 ทั้งในตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ สาเหตุหลักมาจากความกังวลเกี่ยวกับภาษีศุลกากรที่เพิ่มสูงขึ้น และช่องว่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และจีนที่กว้างขึ้น ธนาคารกลางจีนจึงต้องเข้ามาแทรกแซงเพื่อพยุงค่าเงินหยวน และคาดว่าค่าเงินหยวนจะยังคงอ่อนค่าลงในระยะสั้น
พันธบัตรรัฐบาล
การชนะการเลือกตั้งของทรัมป์มีการคาดการณ์ว่าจะส่งผลให้เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากนโยบายที่นำเสนอถูกมองว่าจะก่อให้เกิดภาวะเงินเฟ้อและส่งผลกระทบต่อหนี้สาธารณะของสหรัฐในระยะยาว
และนั่นก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง โดยส่วนต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี และ 2 ปี ได้ขยายตัวกว้างขึ้น ซึ่งเข้าใกล้ระดับแคบที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 2565 และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี หลังทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง
คริปโท
ทรัมป์เป็นหนึ่งในผู้ที่เคยแสดงความไม่เชื่อมั่นในสกุลเงินดิจิทัลและเคยกล่าวว่าบิตคอยน์ (Bitcoin) “ดูเหมือนเป็นการหลอกลวง” แต่ตอนนี้ได้เปลี่ยนจุดยืนพร้อมกับได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากเหล่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล
บลูมเบิร์กรายงานว่า ทรัมป์มีแผนที่จะออกคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อผลักดันให้สกุลเงินดิจิทัลเป็นนโยบายสำคัญ และเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมนี้มีบทบาทในรัฐบาลของเขา นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่าเขาจะผ่อนคลายกฎระเบียบและจัดตั้ง “กองทุนสำรองบิตคอยน์” จึงเป็นที่จับตามองว่าในวันแรกของการเข้ารับตำแหน่งจะมีนโยบายอะไรบ้าง
หลังจากการเลือกตั้ง สินทรัพย์ดิจิทัลเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะ Bitcoin ที่ทำสถิติราคาสูงสุดใหม่ในช่วงกลางเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้นกว่า 50% จากช่วงก่อนการเลือกตั้ง ดัชนี Bloomberg Galaxy Crypto ซึ่งเป็นดัชนีที่ติดตามราคาของสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำพุ่งขึ้น 11% ในวันรุ่งขึ้นหลังการเลือกตั้ง และเพิ่มขึ้นอีก 29% นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
อ้างอิง Bloomberg