ยกเว้น VAT การให้บริการการประกอบโรคศิลปะ & ใบประกอบกิจการสถานพยาบาล

ยกเว้น VAT การให้บริการการประกอบโรคศิลปะ & ใบประกอบกิจการสถานพยาบาล

จากมาตรการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ให้กับผู้ให้บริการการประกอบโรคศิลปะ และแพทย์ที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล แต่หลายคนยังสับสนเรื่องภาษีมูลค่าเพิ่มว่า ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ ลักษณะใดได้ยกเว้น และลักษณะใดต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม​

ความเจ็บป่วยเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวทุกคน ซึ่งสามารถมาได้หลายรูปแบบ หรือมาในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้ง่ายนัก ดังนั้น บุคลากรทางการแพทย์จึงมีบทบาทสำคัญ และจำเป็นต่อคนทั่วโลกไม่เฉพาะคนไทยเท่านั้น

รวมถึงรัฐบาลก็ตระหนักถึงความสำคัญของบุคลากรทางการแพทย์มานานแล้วเช่นกัน และได้มีมาตรการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ให้กับผู้ให้บริการการประกอบโรคศิลปะ และแพทย์ที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล

แต่จนถึง ณ ตอนนี้ ก็ต้องยอมรับว่ายังมีผู้ประกอบการในกลุ่มการประกอบโรคศิลปะที่ยังสับสนเรื่องภาษีมูลค่าเพิ่ม ว่าต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ ลักษณะใดได้ยกเว้น และลักษณะใดต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม​ซึ่งสามารถหาคำตอบได้จากบทความนี้​​

ยกเว้น VAT การให้บริการการประกอบโรคศิลปะ & ใบประกอบกิจการสถานพยาบาล

ทำความเข้าใจ "ใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ" และ "ใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล" 

- ใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ กฎหมายกำหนดว่า การให้บริการการประกอบโรคศิลปะที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 81(1)(ฆ) แห่งประมวลรัษฎากร จะต้องเป็นการประกอบกิจการใดๆ ที่ผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพโรคศิลปะสาขาต่างๆ ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการประกอบโรคศิลปะ สาขานั้นๆ ได้กระทำต่อมนุษย์ในการบำบัดโรค รวมตลอดถึงการตรวจโรคและป้องกันโรคในสาขาต่างๆ ทั้งนี้ ไม่คำนึงว่าค่าตอบแทนที่ผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพโรคศิลปะได้รับจะเข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(2) หรือ (6) แห่งประมวลรัษฎากร (ข้อมูลจาก : บันทึกข้อความกรมสรรพากร ว่าด้วยเรื่อง ภาษีมูลค่าเพิ่มกรณีการให้บริการการประกอบโรคศิลปะ)

ในปัจจุบันมีวิชาชีพที่ต้องขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ จากกองประกอบโรคศิลปะ กระทรวงสาธารณสุข 9 สาขา และ 3 ศาสตร์ ดังนี้

9 สาขา ประกอบด้วย 1) สาขากิจกรรมบำบัด 2) สาขาการแก้ไขความผิดปกติของการสื่อความหมาย 3) สาขาการอุปกรณ์ 4) สาขาจิตวิทยาคลินิก 5) สาขาเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก 6) สาขารังสีเทคนิค 7) สาขาการแพทย์แผนจีน 8) สาขากำหนดอาหาร/โภชนาการ 9) สาขาฉุกเฉินการแพทย์

3 ศาสตร์ ประกอบด้วย 1) โคโรแพรคติก 2) ทัศนมาตรศาสตร์ 3) ศาสตร์ฟิสิกส์การแพทย์

- ใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล กฎหมายกำหนดว่า การให้บริการรักษาพยาบาลของ "สถานพยาบาล" ทั้งราชการและเอกชนไม่รับยกเว้น VAT ซึ่งตามกฎหมายว่าด้วย "สถานพยาบาล" นั้น หมายความถึงสถานที่รวมถึงยานพาหนะที่จัดไว้เพื่อการประกอบโรคศิลปะ ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ และประกอบวิชาชีพทันตกรรม การประกอบวิชาชีพกายภาพบำบัด

ยกเว้น VAT การให้บริการการประกอบโรคศิลปะ & ใบประกอบกิจการสถานพยาบาล

ดังนั้น หากผู้ประกอบการได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล ตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ถือเป็นเงินได้พึงประเมินประเภทที่ 6 มาตรา 40(6) ซึ่งจะได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม
 
ตัวอย่างเช่น...

1.แพทย์ ก. เป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบโรคศิลปะ ได้ไปให้บริการรับตรวจและรักษาผู้ป่วยในสถานพยาบาลหรือหน่วยงานของรัฐบาลหรือเอกชนไม่ว่าจะเป็นประจำหรือชั่วคราว โดยไม่ได้เป็นลูกจ้างของสถานพยาบาลหรือหน่วยงานนั้น และได้รับค่าตอบแทนจากการให้บริการดังกล่าว ค่าตอบแทนที่ได้รับถือเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(2) แห่งประมวลรัษฎากร และได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามาตรา 81(1)(ฌ) แห่งประมวลรัษฎากร

2.แพทย์ ข. เป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบโรคศิลปะ ได้ทำสัญญาหรือข้อตกลงกับสถานพยาบาล ขอใช้สถานที่ เครื่องมือ และอุปกรณ์ของสถานพยาบาลเพื่อตรวจและรักษาผู้ป่วยในนามของแพทย์ ข. เอง โดยมีข้อตกลงเรียกเก็บและแบ่งเงินค่าตรวจรักษาที่ได้รับจากผู้ป่วย ไม่ว่าแพทย์ ข. จะเป็นผู้เรียกเก็บค่าตรวจรักษาเองแล้วแบ่งให้สถานพยาบาล หรือสถานพยาบาลเป็นผู้เรียกเก็บค่าตรวจรักษาแทนแล้วแล้วแบ่งให้แพทย์ ข. ค่าตอบแทนที่เรียกเก็บจากผู้ป่วยทั้งจำนวน เข้าลักษณะเป็นเงินได้จากวิชาชีพอิสระประเภทการประกอบโรคศิลปะของแพทย์ ข. ตามมาตรา 40(6) แห่งประมวลรัษฎากร และได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 81(1)(ฌ) แห่งประมวลรัษฎากร

3.แพทย์ ค. เปิดคลินิกเสริมความงาม รายได้จากการประกอบธุรกิจเสริมความงาม หากรายได้เข้าลักษณะเป็นสถานพยาบาล ซึ่งแพทย์ ค. ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล โดยได้ให้บริการแก่ผู้ป่วย ณ สถานประกอบการตามที่ระบุไว้ในใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล เช่น การทำศัลยกรรม ฉีดสิว เข้าลักษณะเป็นการให้บริการรักษาพยาบาลของสถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล จะได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม    

แต่ถ้าแพทย์ ค. เปิดคลินิกเสริมความงามแต่ไม่ได้มีการขอใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล รายได้ที่ได้รับทั้งหมด ถือเป็นเงินได้พึงประเมินประเภทที่ 8 มาตรา 40(8) ซึ่งเป็นรายได้ที่ไม่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม จะต้องนำมาเป็นรายได้เพื่อคำนวณจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

4.ทันตแพทย์ ง. เปิดคลินิกทันตกรรมที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล และมีรายได้จากการให้บริการทำฟัน จัดฟัน รักษารากฟัน เป็นต้น จะได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยกฎหมายได้ยกเว้นเฉพาะคลินิกที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล และมีรายได้จากการให้บริการรักษาพยาบาลเท่านั้น ที่ไม่ต้องนำมารวมเป็นรายได้เพื่อคำนวณจดทะเบียน VAT

ส่วนรายได้จากการขาย เช่น แปรงสีฟัน ยาสีฟัน อุปกรณ์ดูแลรักษาฟัน ไม่ได้ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งหากรายได้ในกลุ่มนี้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี จะต้องขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

ยกเว้น VAT การให้บริการการประกอบโรคศิลปะ & ใบประกอบกิจการสถานพยาบาล

สรุป...ปัจจัยสำคัญที่แพทย์ต้องมีเมื่อได้ยกเว้น VAT

การมีใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ เป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับผู้ที่ต้องการประกอบอาชีพด้านการแพทย์หรือสุขภาพในประเทศไทย รวมถึงกรณีเป็นวิชาชีพอื่นๆ เช่น วิชาชีพเวชกรรม ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ และประกอบวิชาชีพทันตกรรม ต้องได้ใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล เพราะนอกจากจะได้ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว ยังเป็นการรับรองได้ถึงคุณภาพและมาตรฐานการบริการด้านสุขภาพที่ถูกต้องตามกฎหมาย และมีความน่าเชื่อถืออีกด้วย

 

อ่านบทความน่ารู้เกี่ยวกับภาษีเพิ่มเติม คลิกที่นี่
Source : Inflow Accounting