ยูโอบี ประเทศไทย ตั้ง ‘ริชาร์ด มาโลนีย์’ นั่งกรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่

ยูโอบี ประเทศไทย ตั้ง ‘ริชาร์ด มาโลนีย์’ นั่งกรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย แต่งตั้ง “ริชาร์ด มาโลนีย์” เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่ของธนาคาร มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ต่อจาก “ตัน ชุน ฮิน”

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย แต่งตั้งให้นายริชาร์ด มาโลนีย์ เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่ของธนาคาร มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567

โดยจะเข้ามารับตำแหน่งต่อจาก นายตัน ชุน ฮิน ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่มาตั้งแต่ปี 2559 ทั้งนี้ นายตัน ชุน ฮิน จะกลับไปรับบทบาทใหม่ในตำแหน่ง รองประธานฝ่ายกำกับดูแลความเสี่ยงและกำกับธุรกิจของกลุ่มธนาคาร (Deputy Head of Group Governance, Risk and Compliance) ของกลุ่มธนาคารยูโอบี ที่สำนักงานใหญ่ ประเทศสิงคโปร์

ยูโอบี ประเทศไทย ตั้ง ‘ริชาร์ด มาโลนีย์’ นั่งกรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่ นายริชาร์ด มาโลนีย์ มีประสบการณ์ในวงการธนาคารกว่า 40 ปี ในด้านกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ตลาดทุน และกลุ่มธุรกิจลูกค้ารายย่อย ในภูมิภาคอาเซียน เขาดำรงตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ของ Group Wholesale Banking นับตั้งแต่ร่วมงานกับยูโอบีในปี 2557

ก่อนหน้านี้นายมาโลนีย์ ดำรงตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการประจำภูมิภาคอาเซียนที่ธนาคารระดับโลกแห่งหนึ่ง เขาเริ่มต้นอาชีพด้วยตำแหน่งด้านการเงินในนิวยอร์ก หลังจากนั้นจึงย้ายไปทำงานที่ลอนดอน ฮ่องกง และสิงคโปร์

ในฐานะที่เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ นายมาโลนีย์มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของธนาคาร ผ่านการพัฒนาและการดำเนินการตามกลยุทธ์สำคัญๆ เขาเป็นผู้นำพอร์ตโฟลิโอของหน่วยงานสนับสนุนธุรกิจ

รวมถึงโครงการโครงสร้างพื้นฐานและพัฒนาผลิตภัณฑ์ การบริการลูกค้าและดูแลข้อตกลงทางธุรกิจ การปฏิบัติการต่อต้านอาชญากรรมทางการเงินและการขายข้อมูล ในบทบาทใหม่นี้ นายมาโลนีย์จะเป็นผู้นำในการเพิ่มศักยภาพด้านดิจิทัลของธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เพิ่มสิทธิประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ และเชื่อมโยงลูกค้าเข้ากับโอกาสทางธุรกิจในประเทศไทยและทั่วทั้งเครือข่ายระดับภูมิภาคของกลุ่มธนาคารยูโอบี

นายวี อี เชียง รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารยูโอบี กล่าวว่า “หลังจากการเข้าซื้อกิจการลูกค้ารายย่อยซิตี้แบงก์ในประเทศไทย เราจะมุ่งเน้นไปที่การนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายมากขึ้นให้กับลูกค้าที่มีฐานใหญ่ขึ้น นายริชาร์ด เป็นนายธนาคารผู้ช่ำชองและมีความรู้กว้างขวางด้านการธนาคารทั้งแบบลูกค้าองค์กรและลูกค้ารายย่อย และเหมาะสมที่จะเป็นผู้นำการเติบโตในระยะต่อไปสำหรับเครือข่ายของธนาคารในประเทศไทย สำหรับนายชุน ฮิน ที่เป็นผู้นำที่มีความสามารถหลากหลายและมากประสบการณ์ในการบริหารจัดการทั้งในระดับประเทศและภูมิภาค จึงเหมาะสมที่จะช่วยพัฒนาประสิทธิภาพของการกำกับดูแล ความเสี่ยง และกำกับธุรกิจทั่วทั้งกลุ่มธนาคาร”

นายตัน ชุน ฮิน ร่วมงานกับยูโอบีในปี 2555 ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายสินเชื่อรายย่อยของกลุ่มธนาคาร ภายใต้การนำของเขาในฐานะกรรมการผู้จัดการใหญ่ของธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ทำให้ธนาคารเติบโตขึ้นจนกลายเป็นธนาคารต่างประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับสอง และผลักดันให้ธุรกิจบัตรเครดิตของธนาคารใหญ่เป็นอันดับที่สามในประเทศไทย

เขายังได้ขับเคลื่อนกลุยทธ์สำคัญของธนาคาร ในการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทย และสนับสนุนลูกค้าในภูมิภาคให้เข้าสู่ตลาดใหม่

ยูโอบี ประเทศไทย ตั้ง ‘ริชาร์ด มาโลนีย์’ นั่งกรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่ ในฐานะรองประธานฝ่ายกำกับดูแลความเสี่ยงและกำกับธุรกิจของกลุ่มธนาคาร นายตัน ชุน ฮิน จะรับผิดชอบเรื่องการปรับปรุงแนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยงของธนาคาร เพื่อเสริมสร้างการกำกับดูแลและวัฒนธรรมความเสี่ยงทั่วทั้งองค์กร เขาจะรับผิดชอบด้านการบริหารความเสี่ยง กำกับธุรกิจ กฎหมายและสำนักเลขาธิการของกลุ่มธนาคาร การอนุมัติสินเชื่อในการทำธุรกรรมต่างๆ และการจัดการการเรียกคืนสินทรัพย์ของกลุ่มธนาคาร

ยูโอบี ประเทศไทย ตั้ง ‘ริชาร์ด มาโลนีย์’ นั่งกรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่ นางวีระอนงค์ จิระนคร ภู่ตระกูล ซึ่งปัจจุบันเป็นกรรมการผู้จัดการ Retail and Brand ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย จะได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการผู้จัดการ Wholesale Banking และ Deputy CEO ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เธอเคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารระดับสูงทั้งลูกค้ารายย่อยและลูกค้าองค์กรในซิตี้แบงก์ ประเทศไทย ก่อนที่จะมาร่วมงานกับยูโอบีในปี 2565 เพื่อช่วยดูแลการรวมธุรกิจลูกค้ารายย่อยของกลุ่มซิตี้เข้ากับยูโอบี ประเทศไทย  

ประเทศไทยนับเป็นตลาดสำคัญของเครือข่ายระดับภูมิภาคของธนาคาร ธนาคารยูโอบีได้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี และได้เข้าซื้อธุรกิจธนาคารรายย่อยของซิตี้กรุ๊ปในประเทศไทยในเดือนพฤศจิกายน 2565 ด้วยช่องทางการให้บริการลูกค้าที่มากขึ้นและเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่งขึ้น ธนาคารจึงสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และสิทธิประโยชน์ที่หลากหลายมากขึ้นให้กับฐานลูกค้าที่ขยายใหญ่ขึ้น