5 แบงก์รัฐจีน เผยกำไรร่วง เตือนความเสี่ยงอสังหาฯ หลังรัฐกดดันปล่อยสินเชื่อ
5 ‘แบงก์รัฐจีน’ เผยกำไรสุทธิ (NIM) ลดลง ธนาคารเตือนความเสี่ยงอสังหาริมทรัพย์ แม้รัฐกดดันให้ลดดอกเบี้ย และปล่อยสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องให้เศรษฐกิจ
ธนาคารใหญ่ 5 แห่งของจีน เผยกำไรสุทธิ (Net Interest Margin: NIM) ที่ลดลง สะท้อนความเสี่ยงที่ยังคงดำเนินต่อไปในภาคอสังหาริมทรัพย์ ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ภายใต้แรงกดดันในการลดอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อที่ลดลงเพื่อหนุนภาคส่วนต่างๆ
เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ผ่านมา บริษัท China Construction Bank Corp (CCB), ธนาคารจีน (BoC) และธนาคารเพื่อการเกษตรแห่งประเทศจีน (AgBank) ต่างรายงานตัวเลขกำไรที่ลดลง ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญของตัวชี้วัดสำคัญของความสามารถในการทำกำไร - ในผลประกอบการประจำปี
ทั้งนี้เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ธนาคารอุตสาหกรรมและพาณิชย์แห่งประเทศจีน (ICBC) ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลก และธนาคารเพื่อการสื่อสารแห่งประเทศจีน (BoCom) ก็รายงานกำไรที่ลดลงเช่นกัน
นิโคลัส จู นักวิเคราะห์ธนาคารจากมูดี้ส์ (Moody's) กล่าวว่า "ผลกำไรของธนาคารจะยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดัน จากต้นเชื่อที่สูงขึ้นและกำไรสุทธิ (NIM) ที่ลดลง เนื่องจากสภาพแวดล้อมดอกเบี้ยที่ต่ำ ช่วยกดให้อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ และผลตอบแทนจากการลงทุนลดลง"
ธนาคารกังวลความเสี่ยงอสังหาฯ
ธนาคาร ICBC และ BoCom ซึ่งเป็นธนาคาร 2 แห่งแรกที่รายงานผลกำไร โดยรายงานระบุว่ากำไรแทบจะไม่มีการเติบโตในปี 2566 ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ขณะที่ธนาคารเพื่อการเกษตรแห่งประเทศจีน (AgBank) และธนาคารจีน (BoC) ต่างมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 3.9% และ 2.4% ตามลำดับในปี 2566 ส่วนธนาคารเพื่อการก่อสร้างแห่งประเทศจีน (CCB) รายงานว่า กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 2.4% ในปีที่แล้ว
หวัง จิงหวู รองประธานธนาคาร ICBC กล่าวหลังจากธนาคารเผยผลประกอบการประจำปีว่า ธนาคารจะช่วย “รักษาเสถียรภาพ” ให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยที่ไม่ได้ระบุรายละเอียดวิธีการในการสนับสนุน
ความผันผวนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีน ซึ่งเริ่มต้นด้วยนโยบายที่มุ่งควบคุมหนี้ของผู้ประกอบการ ส่งผลให้เกิดการผิดนัดชำระหนี้ และความล้มเหลวของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายแห่ง ส่งผลกระทบต่อแหล่งเงินทุนที่เกี่ยวข้อง และสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนว่า บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่รัฐเป็นเจ้าของจะได้รับการสนับสนุนจากธนาคารมากกว่าบริษัทเอกชนหรือไม่
แม้ธนาคารยังลังเลที่จะเพิ่มความเสี่ยงในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ย่ำแย่ แต่หน่วยงานกำกับดูแลของจีนกำลังผลักดันให้ธนาคารต่างๆ เร่งอนุมัติสินเชื่อใหม่ให้กับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เอกชนที่ขาดสภาพคล่อง ตามรายงานของ Reuters เมื่อต้นสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ICBC ยืนยันว่า "จะปฏิบัติต่อบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่คำนึงถึงการเป็นเจ้าของ"
ภาคอสังหาริมทรัพย์ และปัญหาที่เกิดขึ้น ยังเป็นประเด็นที่น่ากังวลสำหรับธนาคารเพื่อการสื่อสารแห่งประเทศจีน (BoCom) หลังจากที่ธนาคารรายงานอัตราส่วนหนี้เสียจากบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่สูงขึ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา พร้อมทั้งเตือนถึงความเสี่ยงต่อคุณภาพสินทรัพย์
ยิน จิวหยง รองประธานธนาคาร BoCom กล่าวว่า "แรงกดดันต่อการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์มีนัยสำคัญ" ซึ่งธนาคาร "ควรยกระดับการควบคุมความเสี่ยง" ของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยสัดส่วนหนี้เสียของ BoCom สำหรับสินเชื่อภาคอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่ 4.49% ณ สิ้นปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นจาก 2.8% ณ สิ้นปี 2565
ในขณะเดียวกัน ธนาคารเพื่อการเกษตรแห่งประเทศจีน (AgBank) กล่าวว่า หนี้เสียส่วนใหญ่ของธนาคารเกิดขึ้นจากภาคอสังหาริมทรัพย์และหนี้สินของรัฐบาลท้องถิ่น
ธนาคารจีนเผชิญแรงกดดันในปี 2567
ในปีนี้ภาคอสังหาริมทรัพย์จีนอ่อนแอจะเพิ่มแรงกดดันต่อคุณภาพสินทรัพย์ และความสามารถในการทำกำไรของธนาคาร
เอเลน ซู ผู้อำนวยการสถาบันการเงินแห่งเอเชียแปซิฟิก ของฟิทช์ เรทติ้งส์ คาดการณ์ว่า ภาวะอ่อนแอที่เกิดขึ้นในภาคอสังหาริมทรัพย์ ความเสี่ยงจากการปล่อยกู้ให้กับรัฐวิสาหกิจท้องถิ่น (LGFV) ประกอบกับความต้องการสินเชื่อของผู้บริโภคที่ชะลอตัว จะส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของธนาคารจีนในปี 2567 โดยเฉพาะธนาคารที่พึ่งพิงสินเชื่อภาคอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก จะได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด
อ้างอิง Reuters
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์