ราคาทองไทยวันนี้ พุ่ง 400 บาท ทำออลไทม์ไฮ 35,200 บาท เหตุเก็งเฟดลดดอกเบี้ย

ราคาทองไทยวันนี้ พุ่ง 400 บาท ทำออลไทม์ไฮ  35,200 บาท เหตุเก็งเฟดลดดอกเบี้ย

ราคาทองวันนี้ 2 มี.ค. 67 พุ่งพรวด 400 บาท ทำออลไทม์ไฮ ราคาทองแท่งขายออกบาทละ 35,200 บาท และราคาทองรูปพรรณขายออกบาทละ 35,700 บาท ตลาดจับตาเฟดจะเริ่มปรับลดดอกเบี้ย ด้านแม่ทองสุก มองทองไทยมีโอกาสแตะ38,000 บาท ช่วงครึ่งปีหลัง หากเหตุลดดอกเบี้ยเดือนมิ.ย.นี้

KEY

POINTS

  • ราคาทองฟิวเจอร์พุ่งขึ้นเกือบ 40 ดอลลาร์ ทะลุระดับ 2,090 ดอลลาร์ รับแรงหนุนจากคาดการณ์เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้า
  • ดันทองไทยพุ่งพรวด 400 บาท  ราคาทองแท่ง ทำออลไทม์ไฮ  ที่ระดับ 35,200 บาท 
  • สัปดาห์หน้าราคาทองผันผวน จับตาถ้อยแถลง'พาวเวล'จะขึ้นก่อนการประชุมนโยบายการเงินของเฟด 19-20 มี.ค. สัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
  • แม่ทองสุก มองทองไทยครึ่งปีหลังลุ้นแตะ38,000 บาท

ราคาทองวันนี้ 2 มี.ค. 67 พุ่งพรวด 400 บาท ทำออลไทม์ไฮ ราคาทองแท่งขายออกบาทละ 35,200 บาท และราคาทองรูปพรรณขายออกบาทละ 35,700 บาท ตลาดจับตาเฟดจะเริ่มปรับลดดอกเบี้ย ด้านแม่ทองสุก มองทองไทยมีโอกาสแตะ38,000 บาท ช่วงครึ่งปีหลัง หากเหตุลดดอกเบี้ยเดือนมิ.ย.นี้

รายงาน ราคาทองวันนี้  2 มี.ค. 2567 สมาคมค้าทองคำ ประกาศครั้งเดียว เมื่อเวลา 09.09 น. ปรับขึ้น พรวดเดียว 400 บาท แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ของทองคำในประเทศบริเวณ 35,200 บาท  และตลอดช่วงเช้าจนถึง 12.00น. ยังทรงตัวที่ระดับเดิม หลังจากเมื่อวาน(ศุกร์) ขึ้นทำสถิติสูงสุด All time high ต่อเนื่อง 3 ครั้งติดรวมปรับตัวเพิ่มขึ้น 200 บาท 

ราคาซื้อขายทองคําในประเทศชนิด 96.5% วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม 2567 (ประกาศครั้งเดียว)

  • ราคาทองรูปพรรณ ขายออกบาทละ 35,700 ฐานภาษีบาทละ 34,473.8
  • ราคาทองแท่ง ขายออกบาทละ 35,200 รับซื้อบาทละ 35,100

ราคาทองไทยวันนี้ พุ่ง 400 บาท ทำออลไทม์ไฮ  35,200 บาท เหตุเก็งเฟดลดดอกเบี้ย

ราคาซื้อขายทองคําในประเทศชนิด 96.5% วันศุกร์ที่ 1 มีนาคม 2567 (ประกาศครั้งที่ 3 ครั้งสุดท้าย)

  • ทองรูปพรรณ ขายออกบาทละ 35,300 ฐานภาษีบาทละ 34,079.68
  • ทองแท่ง ขายออกบาทละ 34,800 รับซื้อบาทละ 34,700

ราคาทองคำ โคเม็กซ์สหรัฐ ปิดตลาดเมื่อคืนที่ผ่านมาพุ่งขึ้นแรงมากถึง 41 ดอลลาร์ หรือกว่า 2% สู่บริเวณ 2,095.70 ดอลลาร์

เนื่องมาจากได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และการปรับตัวลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจากคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในไม่ช้านี้

สัปดาห์หน้าจับตาการแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด และข้อมูลเศรษกิจสำคัญๆ ของสหรัฐหลายรายการโดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานประจำเดือนกุมภาพันธ์ คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อทองคำเคลื่อนไหวผันผวน

ทั้งนี้ ราคาทองคำ ยังได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง ทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น

นอกจากนี้ นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (ดัชนีPCE) ที่สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟด สาขาแอตแลนตา กล่าวว่า เขายังคงคาดว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงฤดูร้อนนี้ แม้ว่าตัวเลขเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง

ส่วนนายโทมัส บาร์กิน ประธานเฟด สาขาริชมอนด์ กล่าวว่า เขาไม่ได้ให้ความสำคัญมากนักต่อตัวเลขเงินเฟ้อที่ร้อนแรงในเดือนม.ค. เนื่องจากตัวเลขในเดือนแรกของปี มักให้ข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ

นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ นายพาวเวลจะกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์หน้า โดยมีกำหนดกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 6 มี.ค. ก่อนที่จะกล่าวต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันที่ 7 มี.ค.

ตลาดจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวล ซึ่งจะมีขึ้นก่อนการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 19-20 มี.ค. เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด

 

'แม่ทองสุก' มองครึ่งปีหลัง ทองไทยพุ่งแตะ 38,000บาท

"กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ" ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท MTS Gold แม่ทองสุก มองว่า สำหรับปีนี้ถือเป็นปีทองของราคาทองคำ โดยจะมีความโดดเด่นและชัดเจนตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นไป โดยคาดว่าใน 2 ไตรมาสแรกของปี ราคาทองคำน่าจะมีลักษณะของการเหวี่ยงขึ้นลงไม่มากนัก และมีการเคลื่อนตัวในกรอบระหว่าง 2,000-2,080 เหรียญในช่วงครึ่งปีแรก 

ขณะที่ในส่วนของครึ่งปีหลังไตรมาส 3 มีโอกาสสูงที่จะเห็นราคาทองคำปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ จากการที่เฟดเริ่มลดดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน ซึ่งการลดดอกเบี้ยของเฟดน่าจะเป็นปัจจัยหลักที่กดดันให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และส่งผลให้ราคาทองคำมีการปรับตัวสูงขึ้นขณะเดียวกันหากเฟดมีการ Roll Over บอนด์ยีลด์ที่หมดอายุ หรือมีมาตรการทางการเงินบางอย่าง อาจจะกดดันให้ค่าเงินดอลลาร์อาจปรับตัวลดลงได้ ซึ่งเป็นผลบวกต่อราคาทองคำรวมถึงสถานการณ์การเลือกตั้งของสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนในปีนี้ ซึ่งจะผลักดันให้เกิดความผันผวนของค่าเงิน และน่าจะเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้น

ดังนั้นจึงคาดว่าราคาทองคำน่าจะปรับตัวทำจุดสูงสุดใหม่ในไตรมาส 3 เป็นต้นไป โดยราคาทองคำอาจปรับตัวขึ้นมาประมาณ 10-15% อยู่ที่ระดับ 2,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับราคาทองไทยคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างชัดเจน เนื่องจากค่าเงินบาทที่กลับมาอ่อนค่าขึ้นอย่างมาก และเศรษฐกิจไทยยังคงอ่อนแอ เมื่อเทียบกับเศรษฐกิจของสหรัฐฯโดยค่าเงินบาทมีโอกาสสูงที่จะอ่อนค่าขึ้นอีก ทำให้ราคาทองไทยมีโอกาสทดสอบที่ระดับ 38,000 บาท โดยจะทำ All Time High ได้ในไตรมาส 3-4