“คำถามยียวน แกล้งกวน AI”

“คำถามยียวน แกล้งกวน AI”

ปลายปี 2565 โลกตะลึงเมื่อ OpenAI นำเสนอ ChatGPT ให้คนทั่วโลกใช้ฟรี และในเวลาเพียงเดือนกว่าเท่านั้น มีผู้ใช้งานมากกว่า 100 ล้านคน

เจ้า เอไอ (Artificial Intelligence) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ ChatGPT นี้ มีความสามารถล้นหลาม ถามอะไรก็ตอบได้ บอกให้ทำอะไรก็ทำได้ ขอคำแนะนำก็ได้

เช่นคุณจะต้องกล่าวอวยพรในงานแต่งงาน คุณก็บอก ChatGPT ช่วยร่างคำอวยพรให้ ซึ่งเจ้า ChatGPT จะร่างให้อย่างรวดเร็ว ถ้าคุณอ่านแล้วยังไม่ชอบ ก็ขอให้เขียนใหม่ได้

หรือถ้าคุณจะต้องปฏิเสธผู้ใหญ่ ที่ฝากเด็กเข้าทำงาน คุณก็บอกเจ้า ChatGPT ให้ช่วยร่างคำปฏิเสธแบบสุภาพๆ หรือคุณจะต้องส่งรายงานให้อาจารย์ ก็บอกให้มันช่วยเขียนโครงร่าง และหาข้อมูลให้ ซึ่งเจ้า ChatGPT ก็จะทำตามที่ขอ

จะให้แปลภาษาไทย เป็นภาษาอังกฤษ หรือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ฯลฯ หรือแม้กระทั่งภาษาทมิฬ ก็ทำได้ทั้งนั้นที่ไม่น่าเชื่อก็คือ ถามปุ๊บได้คำตอบปั๊บ ในวินาทีนั้นเลยครับ

ในช่วงแรก เกิดความวิตกกังวลกันว่า ChatGPT จะมีผลกระทบอย่างมากมาย เช่นนักศึกษาอาจจะใช้เป็นเครื่องมือในการทำการบ้าน โดยไม่ใช้สติปัญญาในการค้นคว้า หรือใช้ดุลพินิจของตัวเอง อย่างที่ควรจะเป็น

เมื่อช่วงวันหยุดที่ผ่านมา เป็นวันสบายๆผมเลยถือโอกาสคุยกับ Chat GPT แบบไม่ซีเรียสดูบ้าง แกล้งถามคำถามกวนๆ อยากรู้ว่าเจ้า เอไอ จะตอบผมอย่างไร

ผมเริ่มด้วยคำถามง่ายๆ “How are you today?” AI ตอบว่า​ “ฉันเป็น เอ ไอ ฉันไม่มีความรู้สึกใดๆ แต่ฉันพร้อมจะช่วยเหลือคุณ วันนี้มีอะไรจะให้ช่วยไหม”

ผมเริ่มกวนเลยครับ ผมถามว่า “คุณไม่คิดหรือว่า การมีความรู้สึก มันดีกว่าไม่มีความรู้สึก” ChatGPT ตอบว่า “การมีความรู้สึก ช่วยเพิ่มคุณค่าและแก่นสารให้แก่ชีวิต ช่วยให้เราสัมพันธ์ และเชื่อมต่อกับผู้อื่นได้แต่ฉันเป็นเอไอ ฉันไม่มีความรู้สึก ฉันทำได้เพียงตอบคำถามคุณเท่านั้น”

ผมกวนต่อ “แล้วคุณไม่คิดหรือว่า การมีความรู้สึกเป็นสิ่งที่ดี เช่นรู้สึกว่าเรารักใครสักคน หรือมีคนที่รักเรา” เจ้าเอไอตอบทันทีว่า “ความรักนำมาซึ่งความสุขใจ และเป็นพื้นฐานสำคัญของความเป็นมนุษย์แต่ฉันเป็นเอไอ ไม่มีอารมณ์หรือประสบการณ์ส่วนตัวใดๆ ฉันไม่มีความสามารถที่จะรัก ฉันทำได้แค่ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่คุณเท่านั้น”

ผมถามยียวนกวนประสาทขนาดนี้ แต่เอไอก็ไม่โกรธ ใครที่เป็นคนมีอารมณ์หวือหวาบางครั้งแกล้งไม่มีความรู้สึกแบบเอไอบ้าง ก็น่าจะสงบลงได้นะ

ผมถามต่อว่า “ผมทำงานเวลากลางวัน ค่ำลงก็นอนพักผ่อน เพื่อเติมพลังไว้ใช้ในวันทำงานต่อไป แล้วคุณพักผ่อนอย่างไร” เอไอตอบว่า “บอกแล้วไงว่าฉันเป็นเอไอ ฉันไม่ต้องนอน ไม่ต้องพักเหมือนมนุษย์ ฉันทำงาน 24 ชั่วโมงทุกวัน มีอะไรจะถามก็ถามมาได้ เวลาไหนก็ได้!”

แหม แกนี่แข็งแกร่ง และแข็งแรง จริงๆเลยนะ แต่หลังจากที่ผมถามยียวนอยู่พักใหญ่ ผมก็หักมุมถามว่า “คุณคิดว่าคุณภาพของนักการเมืองไทย เป็นอย่างไร”

“ฉันเป็นเอไอ ฉันไม่มีความเห็นหรอกนะ ความเห็นเรื่องนักการเมือง ย่อมแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความเชื่อของแต่ละคน แล้วแต่ว่าใครจะเน้นประเด็นอะไร บางคนเน้นเรื่องคอร์รัปชัน ธรรมาภิบาล บางคนเน้นเรื่องอุดมการณ์”

ผมรุกต่อ “คุณคิดว่านักการเมืองไทยคนไหน ที่ต่างชาติคิดว่าซื่อสัตย์สุจริตที่สุด” เจ้า ChatGPT ตอบว่า “ไม่เหมาะหรอก ที่ฉันจะตอบว่าเป็นนักการเมืองคนใด เพราะความเห็นเรื่องความซื่อสัตย์ย่อมแตกต่างกันไป มีปัจจัยหลายอย่างเกี่ยวข้อง เช่นความชื่นชอบส่วนตัว พรรคการเมือง วัฒนธรรม หรือ อคติ”

เจ้าเอไอ ก็เอาตัวรอดไปได้เรื่อยๆแหละครับ ผมเลยยิงคำถามสุดท้าย ให้เข้ากับบรรยากาศที่

คุกรุ่นเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา “ถ้านายตำรวจใหญ่ 2 คนให้สัมภาษณ์ทะเลาะกันเกือบทุกวัน บางทีก็ลามปามไปถึง ผู้บัญชาการตำรวจด้วย คุณคิดว่าผลจะเป็นเช่นใด” 

เจ้า ChatGPT ตอบผมชุดใหญ่เลยครับ “ไม่ดีแน่ๆ ต่อสำนักงานตำรวจ ผลที่อาจเกิดขึ้นก็คือ

1. เกิดการแบ่งข้าง เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะเลือกเข้าข้างใดข้างหนึ่ง ทำให้การทำงานเป็นทีมลดลง 2. สตช. หมดความน่าเชื่อถือ ในสายตาประชาชน 

3. ตำรวจเสียขวัญกำลังใจในการทำงาน ผลงานด้อยประสิทธิภาพลง4. ตำรวจเสียเวลาอันมีค่า ที่ควรจะไปทำงานให้ประชาชน5. อาจนำไปสู่สุญญากาศของความเป็นผู้นำ รวมทั้งกระบวนการตัดสินใจก็ได้รับผลกระทบไปด้วย

เจ้า AI ตอบมาเป็นข้อๆอย่างนี้เลยนะครับ แต่เมื่อผมถามจนเหนื่อย ก็เลยเลิกถาม แล้วหันไปอ่านข่าวสารบ้านเมืองแทน

ข่าวแรกที่เห็นก็คือ ว่าที่ พ.ต.ท. หญิงคนหนึ่ง ยื่นหนังสือลาออกจากราชการตำรวจ เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ซึ่งหนังสือลาออกทั่วไปมักจะอ้างเรื่องสุขภาพ หรือความจำเป็นทางครอบครัว

แต่หนังสือลาออกของเธอ กลับเขียนทิ้งทวนว่า ที่ขอลาออกเพราะ…..“อึดอัด เหนื่อย ปัญหาที่ทำงานเยอะ นายเลือกที่รักมักที่ชัง ลำเอียง ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข ทำให้เป็นโรคซึมเศร้า และคิดจะฆ่าตัวตาย” 

เธอกล้าหาญมากจริงๆ ที่เขียนตรงไปตรงมาแบบนี้เลยทำให้หนังสือลาออกของเธอ เหมือนจะช่วยยืนยันว่าที่เจ้าเอไอตอบมาทั้ง 5 ข้อนั้น….

ถูกต้องหมดทุกข้อเลยนะครับ