แบงก์ชาติ เตรียมถก สภาพัฒน์ ทบทวน เกณฑ์จ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต ช่วยเอสเอ็มอี

แบงก์ชาติ เตรียมถก สภาพัฒน์ ทบทวน เกณฑ์จ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต ช่วยเอสเอ็มอี

ธปท.เตรียมถก สภาพัฒน์ ทบทวนผ่อนขั้นต่ำ บัตรเครดิตเหลือ 5%จาก 8% หลังมีข้อเรียกร้อง เพื่อให้ช่วยเอสเอ็มอี ให้มีสภาพคล่องเพิ่มเติม ธปท.ชี้ การยืดชำระผ่อนขั้นต่ำ แม้ดีกับลูกหนี้ระยะสั้น แต่เป็นผลเสียระยะยาว ส่งผลหนี้พอก ต้องชำระไปยาวไปถึง10ปี

น.ส. สุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า กรณีที่มีข้อเรียกร้องจาก สภาพัฒน์ เพื่อให้ปรับลดอัตราการผ่อนขั้นต่ำบัตรเครดิตเหลือ 5% จาก 8% เพื่อช่วยให้เอสเอ็มอีมีสภาพคล่องเพิ่มเติมนั้น จากข้อเรียกร้องดังกล่าว ธปท. คงต้องมีการหารือร่วมกับสภาพัฒน์ต่อไป ถึงประเด็นดังกล่าว เพื่อหาข้อดีและข้อเสียของการผ่อนคลายมาตรการดังกล่าว

"ธปท.ขอรับเรื่องนี้ และจะมีการหารรือร่วมกันกับสภาพัฒน์ในระยะข้างหน้า แต่ยังตอบไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ เพราะเพิ่งมีข้อเรียกร้องเข้ามา เพื่อช่วยให้เอสเอ็มอีที่ใช้บัตรในการรูดซื้อสินค้า เพื่อทำธุรกิจได้มากขึ้น"

แต่อย่างไรก็ตาม การปรับลดอัตราผ่อนขั้นต่ำลง ระยะสั้นอาจช่วยลูกหนี้ให้มีภาระผ่อนลง แต่ระยะยาวลูกหนี้อาจต้องเผชิญกับภาระผ่อนที่ยาวนานมากขึ้น  เช่น หากเทียบวงเงินบัตรที่ 80,000บาท ดอกเบี้ยที่ 16% หากลูกหนี้ผ่อนชำระขั้นต่ำไปเรื่อยๆ โดยผ่อนต่องวดเกิน 500 บาท จะต้องจ่ายไปอีก 8ปี 6 เดือน โดยรวมดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายให้แบงก์ จากการจ่ายขั้นต่ำอยู่ที่ 27,000 บาท

ขณะเดียวกัน หากลูกหนี้ จ่ายขั้นต่ำ ไม่เกิน 500 บาท หรือที่ราว 5% ลูกหนี้จะต้องชำระไปเรื่อยๆ และต้องใช้ระยะเวลาปิดหนี้ไปถึง 10ปี 3 เดือน ยอดหนี้ถึงจะหมด ดังนั้นแม้จะดีระยะสั้น แต่เป็นการสร้างหนี้ในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งการผ่อนชำระขั้นต่ำดังกล่าวไปเรื่อยๆ ผลประโยชน์จะตกไปอยู่กับเจ้าหนี้ ที่จะได้รับดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในระยะเวลานานขึ้น 

นอกจากนี้ การปรับอัตราขั้นต่ำบัตรเครดิต มาสู่ 8% ในปัจจุบัน จากระดับ 5% ส่วนนี้เป็นการทยอยปรับเพิ่มขึ้น ไม่ได้ปรับขึ้นทีเดียวจาก 5%ไปสู่ 10% โดยทันทีเพื่อช่วยลดผลกระทบต่อลูกหนี้เพราะธปท.ตระหนักดีว่า จะมีลูกหนี้จำนวนหนึ่งที่ไม่สามารถผ่อนชำระหนี้ได้ไหว

ดังนั้นจึงให้ธนาคารพาณิชย์ และผู้ให้บริการบัตรเครดิตทั้ง 11ราย มีการเข้าไปช่วยเหลือลูกหนี้อย่างต่อเนื่อง สำหรับลูกหนี้ที่ไม่ไหว โดยให้ปรับจากบัตรเครดิต เป็นสินเชื่อผ่อนชำระ เพื่อลดภาระลูกหนี้และให้ลูกหนี้มีระยะเวลา ปิดจบหนี้ได้ในอนาคต