กสิกรไทย ชี้หุ้นไทยไร้เสน่ห์ ‘ฟันด์โฟลว์’ยังไหลออก

กสิกรไทย ชี้หุ้นไทยไร้เสน่ห์ ‘ฟันด์โฟลว์’ยังไหลออก

“แบงก์กสิกร” มองแนวโน้มหุ้นไทย ครึ่งปีแรก “ฟันด์โฟลว์” ยังไหลออก เหตุสารพัดปัจจัยลบรุมเร้า ทั้งความไม่ชัดเจนเฟดลดดอกเบี้ย-ผิดหวังเศรษฐกิจจีน-เสี่ยงศก.ไทยถดถอย-กำไรบจ.จ่อลด หวังเฟดลดดอกเบี้ยช่วงปลายไตรมาส 2 หนุนสภาพคล่องธุรกิจฟื้น เรียกความเชื่อมั่นคืน

นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยว่า แนวโน้มเงินลงทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ที่จะเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยช่วงไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ของปีนี้ มีโอกาสที่ฟันด์โฟลว์ยังไหลออกจาก ตลาดหุ้นไทยได้ เนื่องจากช่วงก่อนที่ธนาคากลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดดอกเบี้ยนั้น อาจจะยังมีความไม่แน่นอนสูง และไม่สร้างแรงจูงใจที่จะทำให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาซื้อหุ้นไทย 

กสิกรไทย ชี้หุ้นไทยไร้เสน่ห์ ‘ฟันด์โฟลว์’ยังไหลออก

ขณะเดียวกัน หากมีความชัดเจนว่า จีดีพีของไทยในปี 66 เติบโตได้ไม่ถึง 2% เพราะถ้าเศรษฐกิจเติบโตได้ต่ำความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ก็อาจจะปรับลดลงได้ปีนี้ และปัจจุบันการเติบโตกำไรของบจ. อยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ EPS เติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 6.7% ถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับอดีต และ เพื่อนบ้านเป็นเหตุผลที่ทำให้ต่างชาติอาจจะขายหุ้นไทย 

กสิกรไทย ชี้หุ้นไทยไร้เสน่ห์ ‘ฟันด์โฟลว์’ยังไหลออก

นายกอบสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ยังต้องติดตามรอดูในช่วงปลายไตรมาส 2 ปีนี้ หากเฟดลดดอกเบี้ยได้ในช่วงนั้น ยังเชื่อว่าน่าจะมีสัญญาณดีขึ้น และน่าจะมีฟันด์โฟลว์ไหลเข้ามาในตลาดหุ้นฝั่งเอเชียได้มากขึ้น

“ประเมินว่ามีโอกาสเห็นการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ ซึ่งสิ่งที่จะเป็นปัจจัยให้ธนาคารกลางของแต่ละประเทศปรับลดดอกเบี้ยลง คือ อัตราเงินเฟ้อที่แผ่วลง”

นอกจากนี้ กรณีทางการจีนเริ่มมองการใช้กองทุนพยุงตลาดหุ้นจีนนั้น มองมาตรการตั้งกองทุนพยุงหุ้นนั้นจากประสบกาณ์ทั้งของไทยและประเทศอื่น เป็นมาตรการแก้ปัญหาระยะสั้นเท่านั้น เสมือนเป็นการแก้อาการก่อนไม่ได้ยั่งยืน ไม่ได้แก้ไขด้านความเชื่อมั่นในตลาดเพราะปัญหาระยะยาวยังไม่ได้แก้ไข  อย่าง จีนมีปัญหาที่อสังหาฯ และมาจากปัจจัยโครงสร้างเศรษฐกิจกดดัน  

ขณะเดียวกัน ในตลาดตราสารหนี้ไทย ยังมีแรงกดดันทั้งจากมาตรการดิจิทัลวอลเล็ตยังไม่มีความชัดเจนวงจะใช้วงเงินกู้ทั้งจำนวน 5 แสนล้านหรือน้อยกว่านั้น ส่งผลให้พันธบัตรระยะกลางและยาวยังผวาอยู่ เพราะสำนักงานบริหารหนี้ (สบน.) ยังต้องกู้เงินในตลาดพันธบัตรทำโครงการดังกล่าวจะส่งผลต่อราคาพันธบัตรปรับตัวขึ้นไม่ได้ และผลตอบแทนพันธบัตรยังคงอยู่ในกรอบระดับนี้ และโครงการดังกล่าวยังทำให้ทิศทางดอกเบี้ยไทยยังไม่ชัดเจน  

นอกจากนี้ ปีนี้ตลาดหุ้นกู้ยังมีความเสี่ยงธุรกิจขาดสภาพคล่องชำระหนี้หุ้นกู้ที่จะครบกำหนด ซึ่งเริ่มเห็นธุรกิจมีความเสี่ยงดังกล่าวยังคงกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน มองว่ายังต้องใช้เวลาอีกราว 6 เดือน หากธุรกิจสะท้อนสภาพคล่องได้ชัดเจน น่าจะเรียกความเชื่อมั่นกลับมาได้