'ภาษีโอลิมปิก' รีดเงินนักท่องเที่ยวขึ้นภาษีโรงแรม 200% รับ 'ปารีส 2024'

'ภาษีโอลิมปิก' รีดเงินนักท่องเที่ยวขึ้นภาษีโรงแรม 200% รับ 'ปารีส 2024'

ฝรั่งเศส เจ้าภาพของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 'ภาษีโอลิมปิก' รีดเงินนักท่องเที่ยวขึ้นภาษีโรงแรม 200% รับ 'ปารีส 2024'

Key Points :

• ประกาศจากรัฐบาลเมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมาถือเป็นข่าวร้ายอย่างยิ่งไม่เพียงสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการจะเดินทางมาปารีสในปี 2024 แต่ยังรวมถึงผู้ประกอบกิจการที่พักโรงแรมด้วย โดยจะมีการจัดเก็บภาษีจากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นตามประเภทของที่พักต่อคืน โดยจะมีอัตราที่แตกต่างกันออกไป
• แต่ในมุมของผู้ประกอบการแล้วพวกเขาไม่สบายใจนักกับมาตรการดังกล่าว เพราะความเสียหายที่ประเมินมูลค่าไม่ได้คือ ‘ภาพลักษณ์’ ของปารีสและประเทศฝรั่งเศสที่จะถูกมองด้วยสายตาและความรู้สึกติดลบจากนักท่องเที่ยว
• ฝ่ายจัดการแข่งขันเปิดเผยผลการศึกษาจาก CDES แห่งมหาวิทยาลัยลิโชมส์ ที่คาดว่ากีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกในช่วงกลางปีนี้จะสามารถสร้างรายได้มากที่สุดถึง 1.07 แสนล้านยูโร หรือกว่า 4 ล้านล้านบาท และจะสร้างตำแหน่งงานได้มากกว่า 250,000 ตำแหน่งด้วยกัน

‘ปารีส’ เป็นจุดหมายปลายทางในฝันของนักเดินทางทั่วโลกมาตลอด แต่ในปี 2024 นี้มหานครแห่งความรักและโรแมนติกที่สุดยิ่งกลายเป็นที่ที่คนทั่วโลกต่างต้องการเดินทางไปให้ถึง เพราะในปีนี้ปารีสจะเป็นเจ้าภาพของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนด้วย
    

ยิ่งเจ้าภาพเปิดเผยรายละเอียดที่น่าตื่นเต้นในการที่จะมีการใช้สถานที่สำคัญในกรุงปารีสมีส่วนเชื่อมโยงกับสนามแข่งขันกีฬาด้วย เช่น สนามแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาดที่จะมีหอไอเฟลตั้งตระหง่านอยู่ด้านหลัง 

หรือพิธีเปิดการแข่งขันที่ไม่ได้จัดในสนามกีฬาแห่งชาติเหมือนเดิม แต่จะเป็นขบวนพาเหรดไปตามแม่น้ำแซนที่จะเปิดโอกาสให้แฟนกีฬาทั่วโลกได้มีส่วนรับชมได้ฟรีๆริมน้ำ

    สิ่งเหล่านี้ยิ่งทำให้แฟนกีฬาทั่วโลกต่างปรารถนาที่จะได้เดินทางไปร่วมสัมผัสประสบการณ์กีฬาโอลิมปิกในมหานครแห่งนี้เพราะเชื่อได้ว่าจะเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่สุดยอดอย่างแน่นอน

\'ภาษีโอลิมปิก\' รีดเงินนักท่องเที่ยวขึ้นภาษีโรงแรม 200% รับ \'ปารีส 2024\'

    แต่ปัญหาใหญ่ในเวลานี้คือค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปนั้นมีแนวโน้มจะแพงมหาศาล เพราะล่าสุดรัฐบาลฝรั่งเศสสั่งเก็บภาษีที่พักเพิ่มขึ้นจากนักท่องเที่ยวอีกเกือบ 200 เปอร์เซ็นต์
 

ภาษีโอลิมปิก
    
ประกาศจากรัฐบาลเมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมาถือเป็นข่าวร้ายอย่างยิ่งไม่เพียงสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการจะเดินทางมาปารีสในปี 2024 แต่ยังรวมถึงผู้ประกอบกิจการที่พักโรงแรมด้วย
    
โดยในประกาศดังกล่าวระบุว่าจะมีการจัดเก็บภาษีจากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นตามประเภทของที่พักต่อคืน โดยจะมีอัตราที่แตกต่างกันออกไป อาทิ 

 • ที่พักในระดับ ‘พระราชวัง’ จะต้องเสียภาษี 14.95 ยูโร หรือราว 571 บาทต่อคืน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2023 ที่มีการจัดเก็บเพียงแค่ 5 ยูโร หรีอราว 191 บาท คิดแล้วเพิ่มขึ้นถึง 199 เปอร์เซ็นต์ด้วยกัน

    • ที่พักในระดับ 5 ดาวจะต้องเสียภาษีเพิ่มต่อคืนเป็น 10.73 ยูโร หรือราว 410 บาทต่อคืน เพิ่มจากเดิมที่เคยจัดเก็บในปี 2023 ที่ 3.75 ยูโร หรือราว 143 บาทถึง 186 เปอร์เซ็นต์

    • ที่พักในระดับ 4 ดาวจะเสียภาษีในอัตราใหม่ 8.13 ยูโร หรือราว 310 บาทต่อคืน เพิ่มจากปีที่แล้วที่เคยจัดเก็บ 2.88 ยูโร หรือราว 110 บาท ถึง 182 เปอร์เซ็นต์
 

แล้วคนที่พักในโรงแรมระดับ 1 ดาว รวมถึงหมู่บ้าน ห้องรับแขกหรือโฮสเทล? ก็ต้องเสียภาษีเพิ่มต่อคืน 2.60 ยูโร หรือราว 99 บาท เพิ่มจากปีกลายที่จัดเก็บแค่ 1 ยูโร หรือราว 38 บาท

    เงินภาษีส่วนนี้อาจจะดูเป็นเงินที่ต้องจ่ายเพิ่มจำนวนไม่ได้มากมายนัก แต่สำหรับนักท่องเที่ยวแฟนกีฬาที่ต้องการเดินทางมาในช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกถือเป็นการซ้ำเติมอย่างหนึ่ง เพราะค่าที่พักในดังกล่าวซึ่งการแข่งขันจะเริ่มในวันที่ 26 กรกฎาคม - 11 สิงหาคม เพิ่มขึ้นมากกว่าปกติถึง 300 เปอร์เซ็นต์

ความลำบากใจของผู้ประกอบการ
    
ทางการฝรั่งเศสคาดหมายว่าจะสามารถจัดเก็บภาษีที่พักจากนักท่องเที่ยวได้เพิ่มมากกว่าปี 2023 ถึง 2 เท่าด้วยกันในปี 2024  โดยตัวเลขเป้าหมายอยู่ที่ 423 ล้านยูโร หรือราว 1.61 หมื่นล้านบาท มากกว่าเดิมถึงกว่า 200 ล้านยูโร หรือราว 7.6 พันล้านบาท
    
เงินจำนวนนี้จะถูกนำมาใช้พัฒนาระบบการขนส่งในปารีส
    
แต่ในมุมของผู้ประกอบการแล้วพวกเขาไม่สบายใจนักกับมาตรการดังกล่าว และพยายามต่อสู้คัดค้านมาตั้งแต่เริ่มทราบเรื่อง เพราะความเสียหายที่จะเกิดขึ้นนั้นไม่ใช่แค่เรื่องของศักยภาพในการแข่งขันของผู้ประกอบการโรงแรม

\'ภาษีโอลิมปิก\' รีดเงินนักท่องเที่ยวขึ้นภาษีโรงแรม 200% รับ \'ปารีส 2024\'
    
ความเสียหายที่ประเมินมูลค่าไม่ได้คือ ‘ภาพลักษณ์’ ของปารีสและประเทศฝรั่งเศสที่จะถูกมองด้วยสายตาและความรู้สึกติดลบจากนักท่องเที่ยว
    
แคเธอรีน เกร์ราร์ด ประธานสหภาพ GHR ที่ดูแลเรื่องกิจการโรงแรมและร้านอาหารกล่าวว่า ”ทางการกลัวเรื่องค่าโรงแรมที่แพงขึ้นแต่พวกเขากลับดันภาษีให้ทะลุเพดาน เสร็จแล้วก็กลับมาโทษพวกเรา“
    
ทางเครือโรงแรม UMIH และสหภาพร้านอาหารในเครือ GNC มองว่า “มันเป็นผลลบต่อความสามารถในการแข่งขันในกลุ่มผู้ประกอบการของเราและยังเป็นผลร้ายต่อภาพลักษณ์ของฝรั่งเศสด้วย”
    
ก่อนหน้านี้ทางรัฐบาลท้องถิ่นก็ได้มีการประกาศขึ้นราคาค่าโดยสารในระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มจากเดิมเกือบ 2 เท่าในส่วนค่ารถไฟใต้ดินในประเภทตั๋วเที่ยวเดียวและตั๋ว 10 เที่ยวในช่วงของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก สร้างความไม่พอใจในวงกว้างเพราะกระทบต่อทุกคน
 

‘ปารีส 2024’ การลงทุน 3 แสนล้าน

    ความจริงแล้วการขึ้นภาษีและขึ้นราคาต่างๆนั้นเป็นเรื่องที่คาดเดาได้สำหรับชาติเจ้าภาพ นั่นเพราะการจัดมหกรรมกีฬาระดับโลกอย่างโอลิมปิกฤดูร้อนนั้นเป็นมหกรรมกีฬาที่ต้องลงทุนอย่างมากมายมหาศาล
    
สำหรับ ‘ปารีส 2024’ มีการประเมินว่าจะใช้งบประมาณทั้งหมดถึงกว่า 8 พันล้านยูโร หรือราว 3 แสนล้านบาท โดยรวมถึงงบประมาณการก่อสร้างต่างๆ การปรับปรุงสนามแข่งขัน ไปจนถึงงบประมาณส่วนของการจัดการแข่งขัน
    
ทั้งนี้ 96 เปอร์เซ็นต์ของงบประมาณจะมาจากหน่วยงานซึ่งรวมถึงคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจของโอลิมปิก ไปจนถึงรายได้จากการจำหน่ายตั๋วเช้าชมการแข่งขัน ซึ่งทางโทนี้ เอสตองเชต์ ประธานฝ่ายจัดการแข่งขันยืนยันว่าทุกอย่างอยู่ในงบที่ตั้งไว้    
    
โดยเชื่อว่าจะสามารถเนรมิตทุกอย่างออกมาได้อย่างสวยงามสมความคาดหวังอย่างแน่นอน

\'ภาษีโอลิมปิก\' รีดเงินนักท่องเที่ยวขึ้นภาษีโรงแรม 200% รับ \'ปารีส 2024\'
    
ขณะที่ฝ่ายจัดการแข่งขันเปิดเผยผลการศึกษาจาก CDES แห่งมหาวิทยาลัยลิโชมส์ ที่คาดว่ากีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกในช่วงกลางปีนี้จะสามารถสร้างรายได้มากที่สุดถึง 1.07 แสนล้านยูโร หรือกว่า 4 ล้านล้านบาท และจะสร้างตำแหน่งงานได้มากกว่า 250,000 ตำแหน่งด้วยกัน
    
แต่ถึงแม้ว่าปารีส 2024 จะต้องใช้จ่ายมากมายมหาศาลขนาดไหน เชื่อว่าแฟนกีฬาทั่วโลกก็พร้อมที่จะเดินทางไปเพื่อมีส่วนร่วมกับมหกรรมกีฬาระดับโลกในมหานครแห่งความรักสักครั้งอย่างแน่นอน 
    
ให้โมนาลิซาเป็นพยาน! (ผู้เขียนก็คนนึงละ!)

ความพิเศษของ ‘ปารีส 2024’
• พิธีเปิดการแข่งขันที่จะล่องผ่านแม่น้ำแซน
• จัดการแข่งขันว่ายน้ำในแม่น้ำแซน
• เป็นโอลิมปิกครั้งแรกที่เปิดกว้างสำหรับนักกีฬาทุกเพศ
• สนามแข่งขัน 95% เป็นสนามที่มีอยู่เดิมหรือสร้างขึ้นใหม่ชั่วคราว โดยจะสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาเมือง 
• เป็นโอลิมปิกสีเขียว รักษ์โลกมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา
• มีการใช้สนามระดับตำนานอย่าง โรลังด์ การ์รอส (เทนนิส) และสตาด เดอ ฟรองซ์ (ฟุตบอล,กรีฑา) เติมความขลังด้วย

อ้างอิง - paris2024lemonde travelandleisure