ทริส หั่นแนวโน้ม ITD สู่เชิงลบ ส่อลดเพิ่ม หาก 17 ม.ค. ผู้ถือหุ้นกู้ ไม่ผ่านแผน

ทริส หั่นแนวโน้ม ITD สู่เชิงลบ ส่อลดเพิ่ม หาก 17 ม.ค. ผู้ถือหุ้นกู้ ไม่ผ่านแผน

ทริสเรทติ้ง หั่นเครดิตพินิจหุ้นกู้ ITD สู่ระดับ “ลบ” หลังประเมินความไม่แน่นอนการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ 17 ม.ค.นี้มีค่อนข้างสูง ย้ำหากไม่ได้รับการอนุมัติตามข้อเสนอ ส่อถูกหั่นเรทติ้งลงอีกหลายขั้น

มรสุมยังคงรุมเร้า “หุ้นกู้” ของ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ หรือ ITD อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้ประกาศ “เครดิตพินิจ” แนวโน้ม “Negative” หรือ “ลบ” ให้แก่อันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ ITD 

โดยการประกาศเครดิตพินิจในครั้งนี้สะท้อนถึงความไม่แน่นอนของมติในการประชุมของผู้ถือหุ้นกู้เกี่ยวกับข้อเสนอของบริษัทในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขทางการเงินและการขยายวันครบกำหนดไถ่ถอนของหุ้นกู้คงเหลือ ซึ่งเครดิตพินิจมีนัยว่าอันดับเครดิตดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงในระยะใกล้

ทั้งนี้ บริษัทได้ทำการเรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้ในวันที่ 17 ม.ค.2567 ที่จะถึงนี้โดยมีวาระเพื่อการ พิจารณาดังนี้ 

1.ขอผ่อนผันการดำรงอัตราส่วนหนี้สินที่มีดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นให้ต่ำกว่า 3 เท่าและขอให้บริษัทสามารถดำเนินการเจรจาหรือทำสัญญาใด ๆ กับเจ้าหนี้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ได้โดยไม่ถือเป็นเหตุผิดนัดตามข้อกำหนดสิทธิ 

2.ขอขยายวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ออกไปอีก 2 ปีโดยมีการเพิ่มดอกเบี้ยที่อัตรา 0.25% ต่อปีในปีแรกและที่อัตรา 0.50% ต่อปีในปีที่สอง

ทริสเรทติ้งคาดว่าจะทำการปรับเปลี่ยนแก้ไขเครดิตพินิจแนวโน้ม “Negative” หรือ “ลบ” ได้เมื่อผลการประชุมได้ข้อสรุปและทริสเรทติ้งรับทราบแนวทางแก้ไขและแผนการบริหารจัดการของบริษัทอย่างครบถ้วนแล้ว 

ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับผู้ถือหุ้นกู้ที่จะขยายวัน
ครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ออกไปและไม่สามารถหาแหล่งเงินทุนอื่น ๆ ได้ ทริสเรทติ้งก็อาจทำการปรับลดอันดับเครดิตของบริษัทลงอีกหลายขั้น

ล่าสุด อันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของบริษัทได้รับการปรับลดอันดับลงเป็น “BB+/Negative” และ “BB/Negative” ตามลำดับซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงด้าน สภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นของบริษัท ตลอดจนผลการดำเนินงานที่ค่อนข้างอ่อนแอ และภาระหนี้ที่สูง

นอกจากนี้ สภาวะที่ตึงตัวของตลาดตราสารหนี้ยังทำให้ความพยายามในการออกหุ้นกู้ชุดใหม่เพื่อทดแทนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนของบริษัทก็มีความยุ่งยากยิ่งขึ้นอีกด้วย