บลจ.วรรณ มองหุ้นไทยปีนี้ 1,350-1,400 จุด ผนึกเมืองไทยประกันฯ ส่งกองทุนใหม่

บลจ.วรรณ มองหุ้นไทยปีนี้ 1,350-1,400 จุด  ผนึกเมืองไทยประกันฯ ส่งกองทุนใหม่

บลจ.วรรณ มองดัชนีหุ้นไทยสิ้นปีนี้ แกว่งตัว 1,350-1,400 จุด รวมเงินไหลเข้ากองทุน Thai ESG หมื่นล้าน พร้อมเปิดขาย2กองทุนใหม่ ONE-ULTRAPLUS รับสิทธิความคุ้มครองประกันชีวิต-ประกันสุขภาพ จาก เมืองไทยประกันชีวิต และสิทธิลดหย่อนภาษี เปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 6-19 ธ.ค. นี้

นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ  กล่าวว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยสิ้นปีนี้ คาดว่าดัชนียังแกว่งตัวที่ระดับ 1,350-1,400 จุด โดยรวมกรณีที่มีรวมกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) มั่นใจว่า จะมีเงินไหลเข้ากองทุนทุนดังกล่าวประมาณ 10,000 ล้านบาท แล้ว 

ขณะเดียวกันในกรณีที่ การเมืองนิ่ง ส่งออกฟื้นตัว การท่องเที่ยวกลับมาได้ตามเป้าหมาย และอัตราดอกเบี้ยในต่างประเทศปรับตัวลดลง คาดว่าดัชนีหุ้นไทย มีโอกาสปรับขึ้นไปแตะระดับค่ากลางที่ 1,655 จุด

ขณะนี้บริษัทเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) 2 กองทุนใหม่ มูลค่าโครงการรวม 500 ล้านบาท และมีโอกาสขยายกองทุนเพิ่มเติมได้ ได้แก่  กองทุนเปิด วรรณ อัลตร้า อินคัม พลัส ฟันด์ หน่วยลงทุนชนิดไม่จ่ายเงินปันผล สำหรับผู้ลงทุนทั่วไป (ONE-ULTRAPLUS-RA) ลงทุนขั้นต่ำ 5,000บาท และกองทุนเปิดวรรณ อัลตร้า อินคัม พลัส ฟันด์ หน่วยลงทุนชนิดเพื่อการออม แบบไม่จ่ายเงินปันผล (ONE-ULTRAPLUS-ASSF) ลงทุนขั้นต่ำ 500 บาท เปิดขายระหว่างวันที่ 6-19 ธ.ค.นี้ ลงทุนขั้นต่ำ 500 บาท 

กองทุนนี้มีนโยบายลงทุนในตราสารทุน ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ตราสารหนี้ และ/หรือเงินฝาก ทั้งในประเทศหรือ/และต่างประเทศ โดยกองทุน ONE- ULTRAPLUS-RA และ ONE-ULTRAPLUS-ASSF ไม่มีนโยบายจ่ายปันผล โดยผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุน ทั้ง 2 กองทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ประกันชีวิตและประกันสุขภาพ ตามเงื่อนไขกรมธรรม์ของบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ซึ่งสิทธิการคุ้มครองจะขึ้นอยู่กับจำนวนหน่วยของผู้ถือหน่วยลงทุน ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวมีการบริหารพอร์ตที่มีสัดส่วนการลงทุน ที่มีความยืดหยุ่น0-100% มีการบริหารเชิงรุกมากขึ้น  สถิติย้อนหลัง 3 ปี พบว่า พอร์ตการลงทุนที่มีสินทรัพย์ทางเลือกจะสามารถสร้าง ผลตอบแทนเฉลี่ยได้ที่ 8-9% ต่อปี ย้ำว่าสิทธิประกันฯไม่ซ้ำซ้อนกับสิทธิด้านภาษีเนื่องจากผู้ลงทุนไม่สามารถไปยื่นขอลดหย่อนภาษีได้ เนื่องจากทางบลจ.วรรณเป็นผู้ซื้อให้แก้ผู้ลงทุน

พอร์ตลงทุนONE-ULTRAPLUS เน้นกระจายการลงทุน ตราสารทุน ตราสารหนี้และสินทรัพย์ทางเลือก โดยเฉพาะหุ้นต่างประเทศประมาณ 60% หุ้นในประเทศ ประมาณ 10% ตราสารหนี้ไทยประมาณ 20% และสินทรัพย์ทางเลือกประมาณ 10% ซึ่งมีเป้าหมายสร้าง ผลตอบแทนเฉลี่ย 6-8% ต่อปี (หลังหักค่าใช้จ่าย) สำหรับหุ้นไทยเน้น 25ตัวเด่นใน SET50 ที่คาดว่านักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนเป็นหลุก ได้แก่หุ้นไทยขนาดใหญ่ กลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มอีคอมเมิร์ซ กลุ่มไฟแนนซ์ และกลุ่มส่งออก

นายพจน์ กล่าวอีกว่า ความโดดเด่นของกองทุนONE-ULTRAPLUS คือ กองทุนนี้ได้มีการจดทะเบียนกองทุนเป็นประเภท Super Saving Fund (SSF) เพิ่มเติม คือ ONE-ULTRAPLUS-ASSF เพื่อรับสิทธิลดหย่อนทางภาษี ซึ่งผู้ลงทุนที่ลงทุนในกองทุน ONE-ULTRAPLUS ASSFจะได้รับสิทธิประโยชน์ถึง 3 ข้อ ได้แก่ ข้อแรก เปิด โอกาสรับผลตอบแทนตามเป้าหมายเฉลี่ย 2.ผู้ลงทุนที่ถือครองหน่วยลงทุนตั้งแต่ 4,500 หน่วยขึ้นไป รับความคุ้มครองสิทธิประโยชน์ประกันชีวิตและสิทธิประโยชน์ประกันสุขภาพ โดยเบี้ยประกันภัยจะอยู่ ภายใต้เงื่อนไขกรมธรรม์ประกันชีวิตและสุขภาพของบมจ.เมืองไทยประกันชีวิต ส่วนด้านการชำระค่าเบี้ยประกันทางบลจ.วรรณจะเป็นผู้รับภาระค่าเบี้ยประกันภัยทั้งหมด ซึ่งผู้ลงทุนไม่ต้อง รับภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และ 3.ได้รับสิทธิลดหย่อนทางภาษีตามหลักเกณฑ์ กองทุนลดหย่อนภาษี

สำหรับนักลงทุนที่มีหน่วยลงทุนตามเกณฑ์4,500หน่วยในปีนี้จะรับสิทธิประกันฯทันที่ในวันที่ท1ม.ค.2567 ขณะที่นักลงทุนที่ลงทุนในของกองทุน ONE-ULTRAPLUSและได้รับสิทธิประกันฯตามเกณฑ์ แล้วระหว่างทางมีการปรับพอร์ตลงทุน กรมธรรม์จะปรับเปลี่ยนแผนอัตโนมัติตามเงื่อนไขกองทุนทันที โดยกรมธรรม์จะปรับพอร์ตลูกค้าทุกไตรมาส