‘บีบีแอล’ มุ่งโตระดับภูมิภาค ปักธงรายได้ต่างประเทศ 25%

‘บีบีแอล’ มุ่งโตระดับภูมิภาค ปักธงรายได้ต่างประเทศ 25%

“ไชยฤทธิ์ อนุชิตวรวงศ์” แบงก์กรุงเทพ ธุรกิจแบงก์ยังคงเผชิญความเสี่ยงปีหน้า จากดอกเบี้ยสูง กระทบลูกหนี้ เร่งเข้าประคองลูกหนี้ผ่านวิกฤติ ชูกลยุทธ์โตปี 67 เน้นโตทั้งในและภูมิภาค รักษาการเติบโตรายได้ต่างประเทศ 25%

ภายใต้การคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทยปีหน้า ที่จะมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และจากการกลับมาฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ส่งออก สู่ระดับปกติมากขึ้นจะเป็นปัจจัยหนุนสำคัญทำให้เศรษฐกิจกลับมาเติบโตได้ดีกว่าปีนี้

 แต่ภายใต้การเติบโต ยังมีความเปราะบางที่ซ่อนอยู่อีกมาก เพราะวิกฤติโควิด-19 ที่ผ่านมาได้สร้างปัญหา และผลกระทบที่ฝังรากลึกต่อภาคธุรกิจและรายย่อยอย่างมาก “ภาคธนาคาร” จะเป็นส่วนสำคัญ ในปี 2567 ในการขับเคลื่อนการเติบโตผ่านการปล่อยสินเชื่อ และการประคองลูกหนี้ ที่ยังไม่ฟื้นตัว ให้ผ่านพ้นวิกฤติต่างๆ ไปได้     

ไชยฤทธิ์ อนุชิตวรวงศ์ รองผู้จัดการใหญ่ กิจการธนาคารต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) กล่าวว่า แม้เศรษฐกิจไทย มีแนวโน้มดีขึ้น รวมถึงภาคธุรกิจที่อาจกลับมาเติบโตได้สู่ระดับปกติมากขึ้น แต่ยังมีความท้าทาย โดยเฉพาะในจังหวะที่ดอกเบี้ยอยู่ระดับสูง ส่งผลให้ลูกค้าในทุกเซกเมนต์เผชิญปัญหาทั้งสิ้น 

ทั้งนี้หากดูพอร์ตลูกหนี้แต่ละกลุ่ม พบว่าธุรกิจรายใหญ่ยังไปได้ดี แต่กลุ่มที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก จากผลของดอกเบี้ยสูง และเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และผลกระทบจากโควิด-19 คือ ธุรกิจขนาดกลาง เอสเอ็มอี และรายย่อย ที่พบว่าบางรายประสบปัญหาการชำระหนี้มากขึ้น ดังนั้นธนาคารต้องเฝ้าระวังความเสี่ยงจากจุดนี้มากขึ้น

โดยเฉพาะเอสเอ็มอี รายย่อย ก็ยังไม่ออกจากมรสุมของวิกฤติหนี้ ดังนั้นในฐานะธนาคารต้องเร่งเข้าไปประคับประคองลูกหนี้อย่างต่อเนื่อง ผ่านการต่อตั๋ว หรือเลื่อนการชำระหนี้ออกไป สำหรับลูกหนี้บางราย ที่ได้รับผลกระทบมากๆ เพราะผลกระทบบางด้าน เช่นโควิด-19 ที่ทำให้ลูกหนี้ยังไม่สามารถกลับมามีรายได้สู่ระดับปกติ ไม่ได้เป็นความผิดเจ้าหนี้  เพราะเป็นสถานการณ์ที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ ดังนั้นธนาคารต้องเข้าไปช่วยลูกหนี้ ในช่วงที่อาจต้องใช้ระยะเวลาในสร้างรายได้ให้กลับมาสู่ระดับปกติมากขึ้น

“วันนี้เจอโควิด ดอกเบี้ยสูง เมืองจีนที่เจอปัญหา ทำให้ลูกค้าบางส่วนที่ส่งออกไปจีนได้รับผลกระทบ ทำให้กลุ่มนี้ธนาคารต้องพยายามเข้าไปประคอง โดยดูความสามารถของลูกหนี้ และการคุยเพื่อช่วยหาทางออกให้กับลูกหนี้ สิ่งหนึ่งที่ทำได้ บางรายคือ การเลื่อนการชำระหนี้ออกไปจากเดิม หรือลดการชำระหนี้ ที่ยังคงมีต่อเนื่อง”

อย่างไรก็ตามกลยุทธ์ของธนาคารปี 2567 ธนาคารยังมุ่งสร้างการเติบโตทั้งระดับภูมิภาค ควบคู่ไปกับการเติบโตในประเทศ โดยคาดการณ์ว่า เมื่อประเทศผ่านวิกฤติ เศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวกลับมาดีขึ้นในปีหน้า จะส่งผลให้หลายภาคธุรกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้

ในมุมของธุรกิจรายใหญ่ ปัจจุบันมีดีมานด์ในการออกไปลงทุนต่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากฐานการผลิตโลกเปลี่ยนแปลงไป จากปัญหากีดกันทางการค้า ทำให้หลายประเทศเริ่มปรับตัว ย้ายฐานการผลิตเพื่อรักษาสัดส่วนการส่งออกมากขึ้น

ดังนั้นจะเห็นว่าในปัจจุบัน มีธุรกิจรายใหญ่ และรายกลางมีการขอสินเชื่อ หรือมีการจับมือเพื่อไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น เพื่อตั้งฐานการผลิตในเวียดนาม อินโดนีเซีย และเมียนมา ที่ยังเป็นเป้าหมายในการออกไปลงทุน

ดังนั้นในระยะข้างหน้าเชื่อว่า ธนาคารจะสามารถรักษาอัตราการเติบโตจากรายได้ต่างประเทศให้อยู่ระดับที่ 25% ภายใต้พอร์ตที่ขยายตัวมากขึ้น ควบคู่ไปกับการเติบโตของพอร์ตรายได้ และสินเชื่อในประเทศ ที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน

โดยคาดการณ์การขยายตัวสินเชื่อปีหน้า น่าจะเติบโตได้มากกว่า4% จากที่คาดการณ์ในปีนี้  เพราะเศรษฐกิจที่จะขยายตัวดีขึ้นในปีหน้า และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ ที่เข้ามาหนุนภาพรวมให้ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ภาพรวมหนี้เสียหรือเอ็นพีแอล(NPL) จะคุมให้อยู่ในระดับ 3% ต่อเนื่อง ภายใต้การติดตาม และดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด

“กลยุทธ์ของเรา ไม่ได้ต้องการเติบโตพอร์ตใดพอร์ตหนึ่ง หรือรุกเติบโตเฉพาะในอาเซียน หรือภูมิภาค แต่เราต้องการทำให้การเติบโตควบคู่กันไป ดังนั้นสัดส่วนรายได้ต่างประเทศ ที่ปัจจุบันอยู่ที่ 25% คงไม่ได้ขึ้นไปมากกว่านี้ เพราะเราจะทำให้สัดส่วนการเติบโตสินเชื่อในประเทศเติบโตมากขึ้นด้วย"

ส่วนการปรับเพิ่มอัตราการชำระขั้นต่ำของบัตรเครดิต เพิ่มขึ้นเป็น 8% ในปีหน้า จากระดับ 5% เชื่อว่าอาจไม่กระทบกับธนาคารมากนัก เนื่องจาก ธนาคารมีสัดส่วนลูกค้าบัตรเครดิตไม่มาก หากเทียบกับธุรกิจรายใหญ่ที่เป็นพอร์ตใหญ่ของธนาคาร ขณะที่ลูกค้าบัตรเครดิตส่วนใหญ่ นิยมใช้บัตรซื้อสินค้า และผ่อนชำระเต็มจำนวนมากกว่าการผ่อนชำระขั้นต่ำ ดังนั้นการสิ้นสุดมาตรการดังกล่าว อาจมีผลกระทบต่อคุณภาพหนี้ของธนาคารไม่มากนัก แต่ก็ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด

หากดูภาพของธนาคารกรุงเทพวันนี้ที่เป็นที่ประจักษ์ ธนาคารถือเป็นสถาบันการเงินชั้นนำของภูมิภาคที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของอาเซียน โดยมีเครือข่ายสาขาที่ครอบคลุม 9 จาก 10 ประเทศอาเซียน  โดยเฉพาะธุรกิจที่แข็งแกร่งใน 2 ประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของภูมิภาค

ทั้งอินโดนีเซียที่ดำเนินการผ่านธนาคารเพอร์มาตา (Permata Bank) ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือของธนาคาร และประเทศไทยซึ่งเป็นพื้นที่หลักของธนาคารกรุงเทพที่ดำเนินธุรกิจอย่างแข็งแกร่งมาเกือบ 80 ปี และธนาคารมีการสาขาทั่วโลกประมาณ 300 สาขา ครอบคลุมทั่วโลก

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์