สร้างโอกาสการลงทุนด้วยพอยต์

สร้างโอกาสการลงทุนด้วยพอยต์

การจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันของเรามักจะสอดคล้องไปกับรูปแบบการใช้ชีวิตหรือไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคล แต่ไม่ว่าจะมีไลฟ์สไตล์แบบใด ทุกๆการจับจ่ายใช้สอยที่เกิดขึ้นนอกจากจะได้รับเป็นสินค้าและบริการแล้ว

อีกสิ่งหนึ่งที่มักจะได้รับเพิ่มเติมคือ “คะแนนสะสม” ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เติมน้ำมัน ทานกาแฟ หรือแม้กระทั่งการซื้อประกันชีวิตก็ยังได้รับคะแนนสะสม ซึ่งเป็นแนวทางที่บริษัทบัตรเครดิตหรือธุรกิจร้านค้าต่างๆ ทำการตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้าให้มาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น

พอยต์จากบัตรเครดิตหรือบัตรสะสมคะแนนสามารถนำไปใช้ได้ในหลายรูปแบบที่เป็นประโยชน์กับเจ้าของพอยต์ เช่น การนำมาแลกเป็นสินค้า บริการ ส่วนลด คูปองเงินสดเพื่อจับจ่ายใช้สอยในอนาคต หรือการแลกคะแนนสะสมเป็นเงินคืน (Cash Back) กลับมาเพื่อลดยอดเงินที่เราต้องชำระหรือลดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นแล้ว

นับเป็นแนวทางที่ช่วยเพิ่มกำลังซื้อ หรือ Purchasing Power ให้เราได้มากขึ้น ซึ่งในการตัดสินใจจะแลกพอยต์นั้น คนส่วนใหญ่มักจะพิจารณาทางเลือกที่เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด โดยปัจจุบันมีอีกหนึ่งทางเลือกที่จะเข้ามาช่วยให้การแลกพอยต์มีความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น นั่นคือ “การเปลี่ยนพอยต์เป็นเงินลงทุนในกองทุนรวม” หรือ “Point to Invest” ซึ่งเป็นการนำเอาคะแนนสะสมมาเปลี่ยนเป็นการออมและลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติม

"Point to Invest" หรือ การนำพอยต์มาใช้ลงทุน นับเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า แม้ว่าหากเปรียบเทียบกับการแลกพอยต์เป็นสินค้า บริการ ส่วนลด คูปองเงินสด หรือเงินคืน ที่อาจจะมีข้อเสนอให้อัตราการแลกมากกว่า เช่น 12.5% หรือ 15% เพื่อกระตุ้นหรือจูงใจให้เกิดการแลก ขณะที่การแลกพอยต์เป็นกองทุนรวมจะมีอัตราการแลกส่วนใหญ่อยู่ที่ 10% แต่อย่าลืมว่า การแลกเป็นกองทุนนั้นคือการลงทุน ในระยะยาว จึงมีโอกาสที่ยังคงรักษามูลค่าของเงินต้นและเพิ่มมูลค่าเงินให้มากขึ้นจากผลตอบแทนที่จะได้รับในอนาคต

ขณะที่การใช้พอยต์เป็นส่วนลดค่าสินค้าและบริการจะเป็นเพียงการช่วยลดภาระด้านรายจ่าย เท่านั้น ตัวอย่างเช่น หากนำ 1,000 พอยต์มาแลกเป็นคูปองเงินสดมูลค่า 100 บาท ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ 100 บาท ขณะที่หากนำพอยต์มาแลกเป็นกองทุนมูลค่า 100 บาท จะทำให้มีเงินลงทุนเพิ่มขึ้นมา 100 บาท และยังมีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนการลงทุนในอนาคต ขึ้นกับประเภทของกองทุนที่ลงทุน

โดยกองทุนรวมตลาดเงินจะได้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 1-2% ต่อปี แต่ถ้าเป็นกองทุนรวมหุ้นก็อาจมีโอกาสที่ได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นในระยะยาว นอกจากนี้ หากแลกพอยต์เป็นกองทุนที่ให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีอย่าง SSF หรือ RMF ก็ได้ทั้ง ลงทุนและสิทธิประโยชน์ด้านภาษี

การแลกพอยต์เป็นการลงทุน เป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจสำหรับมือใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ เพราะไม่ต้องใช้เงินออมมาลงทุน และสามารถเริ่มต้นลงทุนได้เพียง 1,000 พอยต์ของบัตรเครดิต (เทียบเท่ากับ 100 บาท) นอกจากนี้ การลงทุนผ่านกองทุนรวมนั้นก็เป็นตราสารที่เหมาะกับมือใหม่ เพราะมีผู้จัดการกองทุนเป็นผู้บริหารจัดการเงินให้

 อีกทั้งมีประเถทของกองทุนที่หลากหลาย จึงสามารถเลือกให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ ผลตอบแทนและระดับความเสี่ยงของตนเองได้ เช่น หากต้องการการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ อาจจะเลือกลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงิน กองทุนรวมตราสารหนี้ สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้และมองหาผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงขึ้น สามารถเลือกลงทุนในกองทุนรวมหุ้น หรือสินทรัพย์ทางเลือกต่างๆ  

ปัจจุบันโครงการ Point to Invest มีพันธมิตรรวม 13 แห่ง แบ่งเป็นกลุ่มบัตรเครดิตจากธนาคารและบริษัทบัตรเครดิตชั้นนำรวม 8 แห่ง และกลุ่มบัตรสมาชิกของธุรกิจประกันภัยและสถานีบริการน้ำมันรวม 5 แห่ง ทำให้ครอบคลุมผู้ใช้บริการในวงกว้าง โดยการแลกพอยต์เป็นกองทุนสามารถทำได้หลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น การแลกผ่าน application, website, call center, SMS ซึ่งในอนาคตคาดว่าจะมีจำนวนพันธมิตรจากหลากหลายประเภทสินค้าและบริการเพิ่มมากขึ้น และสามารถแลกพอยต์เป็นการลงทุนในผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้เพิ่มเติมนอกเหนือจากกองทุนรวม เพื่อเพิ่มทางเลือกและโอกาสในการเข้าถึงการลงทุนในตลาดทุนได้มากขึ้น

การใช้จ่ายในชีวิตประจำวันนั้น เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม การมีวินัยทางการเงินที่ดี การวางแผนการเงินเพื่อเก็บออม และการลงทุน ก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน การใช้พอยต์เพื่อแลกเป็นการลงทุนนั้น จึงเป็นทางเลือกที่จะช่วยให้เราสามารถใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าและบริการ ไปพร้อมๆ กับการออมเพื่อสร้างความมั่งคั่งให้กับตนเองได้ สำหรับผู้ที่สนใจ        ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.setinvestnow.com/th/pointtoinvest