‘แบงก์กสิกร’ นัดสางปมเจ้าหนี้สตาร์ค - รอแนวทาง ก.ล.ต. ยืนยันไม่นิ่งนอนใจ

‘แบงก์กสิกร’ นัดสางปมเจ้าหนี้สตาร์ค - รอแนวทาง ก.ล.ต. ยืนยันไม่นิ่งนอนใจ

“กสิกรไทย” แจงไม่ได้นิ่งนอนใจ กรณีความเสียหายปล่อยสินเชื่อให้ “สตาร์ค” ชี้รอหารือเจ้าหนี้ทุกราย พร้อมแนวทางจาก ก.ล.ต. ยืนยันดูแลผู้ลงทุนตามการเรียกร้องแบบฟ้องหมู่ของ “ผูุ้ถือหุ้นกู้รายย่อย”

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK กล่าวว่า ธนาคารในฐานะผู้เสียหายที่เป็นเจ้าหนี้ปล่อยกู้สินเชื่อให้ บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK และในฐานะตัวแทนผู้ถือหุ้นกู้ STARK

ในส่วนของความเสียหายที่อาจจะเกิดจากการปล่อยสินเชื่อดังกล่าวนั้น ปัจจุบันธนาคารกสิกรไทยได้มีการกันสำรองหนี้เสียทั้งจำนวน 100% แล้ว แต่การติดตามหนี้คืนนั้นยังต้องรอการนัดหมายจากเจ้าหนี้ทุกรายเพื่อตกลงแนวทางร่วมกัน ซึ่งขณะนี้เจ้าหนี้รายรายอื่นๆ ยังไม่ได้มีการนัดหมายเข้ามา

‘แบงก์กสิกร’ นัดสางปมเจ้าหนี้สตาร์ค - รอแนวทาง ก.ล.ต. ยืนยันไม่นิ่งนอนใจ

อีกทั้งต้องรอดูแนวทางของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ว่า จะมีข้อสรุปข้อเท็จจริงต่างๆและแนวทางดูแลผู้เสียทุกกลุ่มกรณีของสตาร์คอย่างไรต่อไป และยังต้องหารือกับเจ้าหนี้ของสตาร์คทุกรายต่อไป

ขณะที่ ธนาคารกสิกรไทยในฐานะตัวแทนจำหน่ายหู้นกู้ของ STARK ขอยืนยันว่าธนาคารไม่ได้นิ่งนอนใจและดำเนินการอย่างเต็มที่ดูแลผู้ลงทุนที่ซื้อหุ้นกู้ STARK สำหรับแนวทางในการเรียกร้องความเสียหายคาดว่าคงเป็นไปในในทิศทางด้วยกันกับกลุ่มผู้ถือหุ้นกู้รายย่อย 

 

ขณะที่กรณีการเสนอขายหุ้นกู้ STARK ที่เป็นการเสนอขายผู้ลงทุนรายใหญ่แต่ผู้ลงทุนรายย่อยได้รับความเสียหายจากการเสนอขายผ่านแอปฯ 

ส่วนการเสนอขายหุ้นกู้ STARK ของเราได้ดำเนินตามหลักเกณฑ์ของ ก.ล.ต. อย่างถูกอยู่แล้ว และ ก.ล.ต. ได้มีการตรวจสอบอยู่อย่างต่อเนื่องในการเสนอขายหุ้นกู้ผ่านแอปฯ 

ล่าสุด ธนาคารกสิกรไทย เปิดยุทธศาสตร์สร้างการเติบโตธุรกิจในระยะยาว ประกาศแยก “บริษัท กสิกร อินเวสเจอร์จำกัด" หรือ เคไอวี และ “นายพัชร สมะลาภา” เข้าดำรงตำแหน่ง Group Chairman ของ เคไอวี เพิ่มความคล่องตัวในการรุกธุรกิจให้บริการการเงินกับลูกค้ารายย่อย พร้อมใช้ศักยภาพของพันธมิตรร่วมกับโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ของธนาคาร เพื่อให้สามารถลดต้นทุนธุรกิจ และลดต้นทุนความเสี่ยงด้านเครดิต 

อย่างไรก็ตาม แม้จะมี เคไอวี แล้ว แต่ธนาคารยังศึกษาการจัดตั้ง ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา Virtual Bank และดูหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนจากทางธปท. ก่อนจะตัดสินใจ

นายพัชร สมะลาภา Group Chairman ของ บริษัท กสิกร อินเวสเจอร์ จำกัด กล่าวว่า เป้าหมายธุรกิจเคไอวี ซึ่งได้เริ่มทดลองทำธุรกิจมาจากปี 2565 นั้น บริษัทมีผลกำไร 81 ล้านบาท มียอดปล่อยสินเชื่อ 3.7 หมื่นล้านบาท มีมูลค่ารวมของสินทรัพย์ในการลงทุน 21,500 ล้านบาท และมีจำนวนบริษัทที่ลงทุนที่ 6 ราย 

รวมทั้งตั้งเป้าหมายในปีนี้มีกำไรสุทธิ 900-1,100 ล้านบาท ยอดปล่อยสินเชื่อ 4-4.5 หมื่นล้าน มูลค่ารวมของสินทรัพย์ในการลงทุน 2.5-3 หมื่นล้านบาท และมีจำนวนบริษัทที่ลงทุนที่ 14 ราย พร้อมกันนั้น ตั้งเป้าหมายในปี 2569 มีกำไรสุทธิ 4,500-5,000 ล้านบาท ยอดปล่อยสินเชื่อ 7.5-8.0 หมื่นล้านบาทมูลค่ารวมของสินทรัพย์ในการลงทุน6.5-7.0 หมื่นล้านบาท และมีจำนวนบริษัทที่ลงทุนที่ 14 ราย ซึ่งเป็นการต่อยอดธุรกิจและสร้างมูลค่าเพิ่ม