กรุงศรี คาดกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้ที่ 34.30-35 บาทต่อดอลลาร์ สร้างฐานต่ำลง

กรุงศรี คาดกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้ที่  34.30-35 บาทต่อดอลลาร์ สร้างฐานต่ำลง

กรุงศรี มองแนวโน้มเงินบาทสัปดาห์นี้ 17-21 ก.ค.66 มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 34.30-35.00 บาทต่อดอลลาร์ หลังปรับตัวแข็งค่าสุดหลังเงินดอลลาร์อ่อนค่าเทียบกับทุกสกุลเงินสำคัญในสัปดาห์ที่ผ่านมา จากตลาดคาดในการประชุมเฟด 25-26 ก.ค.นี้ ขึ้นดอกเบี้ยรอบสุดท้าย

 นางสาวรุ่ง สงวนเรือง ฝ่ายส่งเสริมธุรกิจโกลบอลมาร์เก็ตส์
 ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า ธนาคารมีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาท ในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้ 17-21 ก.ค.66 มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 34.30-35.00 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 34.60 บาทต่อดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 34.50-35.22 บาทต่อดอลลาร์  โดยเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 1 เดือน ขณะที่เงินดอลลาร์อ่อนค่าเทียบกับทุกสกุลเงินสำคัญในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินร่วงลงแตะจุดต่ำสุดในรอบ 15 เดือน

ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ดิ่งลงหลังข้อมูลบ่งชี้ว่าดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI)ทั่วไปปรับขึ้น 3.0% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งถือเป็นอัตราการปรับขึ้นที่น้อยที่สุดในรอบกว่า 2 ปี ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานชะลอลงสู่ 4.8%

นอกจากนี้ ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนมิ.ย.ขยับขึ้นน้อยที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี ทำให้นักลงทุนมั่นใจมากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)กำลังเข้าใกล้จุดสิ้นสุดวัฏจักรการคุมเข้มนโยบาย

ทั้งนี้ ตลาดสัญญาล่วงหน้าสะท้อนว่ามีโอกาส 96% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25bp สู่ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. ซึ่งตลาดมองว่าจะเป็นการขึ้นดอกเบี้ยรอบสุดท้าย โดยนักลงทุนต่างชาติขายหุ้น และพันธบัตรไทยสุทธิ 514 ล้านบาท และ 3,527 ล้านบาท ตามลำดับ

สำหรับภาพรวมในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี ระบุว่า นักลงทุนจะติดตามข้อมูลยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย.ของสหรัฐ นอกจากนี้ คาดว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากทางการจีนภายในเดือนนี้

อนึ่ง ตลาดอัตราแลกเปลี่ยนได้สร้างฐานใหม่หลังดัชนีดอลลาร์กลับเข้าสู่กรอบที่เคยซื้อขายในช่วงก่อนเกิดภาวะเงินเฟ้อโลกพุ่งขึ้นเมื่อเดือนมี.ค.ปี 2565 โดยยิ่งเฟดส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวท่ามกลางเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงยิ่งจะทำให้ตลาดมองไปถึงการลดดอกเบี้ยในปี 2567 อย่างรวดเร็วมากขึ้น

เราคาดว่าแรงส่งของเศรษฐกิจสหรัฐจะแผ่วลง โดยเฉพาะการลดลงของระดับการออมส่วนเกินของผู้บริโภคซึ่งตรงข้ามกับการออมส่วนเกินระดับสูงในยุโรป และประเทศพัฒนาแล้วแห่งอื่นๆ สถานการณ์เช่นนี้สนับสนุนมุมมองหลักของเราที่ว่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มผันผวนในเชิงอ่อนค่าโดยอาจมีการฟื้นตัวสลับกลับขึ้นมาได้บ้างชั่วคราวระหว่างทาง

สำหรับปัจจัยในประเทศ ตลาดการเงินจะให้ความสนใจกับการโหวตนายกรัฐมนตรีรอบสอง แนวทางการจัดตั้งรัฐบาล และนโยบายด้านเศรษฐกิจต่อไป โดยหากในสัปดาห์นี้มีความชัดเจนเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ มากขึ้นอาจส่งผลบวกต่อกระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย และความต้องการถือครองสินทรัพย์สกุลเงินบาทได้เช่นกัน

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์