คลังเตรียมแผนประคองเศรษฐกิจรับเบิกจ่าย งบปี 67ล่าช้า
คลังเตรียมแผนประคองเศรษฐกิจรับเบิกจ่ายงบปี 67 ล่าช้า โดยแผนรองรับจะมีงบประมาณเข้าไปช่วยพยุงเศรษฐกิจได้ประมาณ 1.2 แสนล้านบาทในช่วงปลายปีนี้ ทั้งการเร่งรัดเบิกจ่ายงบสัมมนาส่วนราชการ และ งบลงทุนรัฐวิสาหกิจ
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้เตรียมแผนประคับประคองเศรษฐกิจ กรณีพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ต้องล่าช้ากว่ากำหนด โดยแผนรองรับจะมีงบประมาณเข้าไปช่วยพยุงเศรษฐกิจได้ประมาณ 1.2 แสนล้านบาท
เขากล่าวว่า ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ซึ่งต้องรอรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาพิจารณาซึ่งอาจมีการทบทวนงบประมาณรายจ่ายฉบับนี้ใหม่ตามแนวทางของรัฐบาลชุดใหม่ ก่อนที่จะเสนอให้รัฐสภาอนุมัติ ซึ่งกระทรวงการคลังคาดว่า อาจทำให้พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฉบับนี้ต้องล่าช้าออกไป อย่างมากไม่เกิน 6 เดือน จากปฏิทินงบประมาณ ที่จะต้องเริ่มต้นปีงบประมาณใหม่ในทุกวันที่ 1 ต.ค.ของทุกปี
“แม้ว่า งบประมาณปี 2567 อาจต้องล่าช้าออกไปกว่ากำหนดก็ตาม แต่กระทรวงการคลังก็เตรียมแผนรองรับเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในปีนี้และปีหน้า”
ทั้งนี้ สำหรับแผนรองรับนั้น ประกอบด้วย 1.กระทรวงการคลังได้หารือกับสำนักงบประมาณ เรื่องแผนการใช้จ่ายงบประมาณของปี 2567 ไปพลางก่อน ซึ่งเป็นอำนาจตามกฏหมายที่ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณมีอำนาจดำเนินการในกรณีที่พ.ร.บ.งบประมาณฉบับใหม่ไม่สามารถออกใช้ได้ตามกำหนด แต่มีเงื่อนไขว่าจะใช้ได้เฉพาะในหมวดของงบที่เป็นรายจ่ายประจำ และงบโครงการลงทุนที่เป็นโครงการต่อเนื่อง
2.การเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณของหน่วยงานรัฐบาลหน่วยที่แทนที่จะใช้ในปลายปีงบประมาณ แต่เร่งให้มาใช้ในต้นปีงบประมาณ (Front Load) เช่น งบลงทุนของรัฐวิสาหกิจบางรายการ ซึ่งประเมินว่า มีประมาณ 5 หมื่นล้านบาท จากงบลงทุนรวมของรัฐวิสาหกิจที่มีรวม 5 แสนล้านบาท และ งบสัมมนาของส่วนราชการอีกส่วนหนึ่ง
3.ได้หารือกับสถาบันการเงินของรัฐ(SFI) ว่า โครงการสินเชื่อผ่อนปรนที่ให้กับประชาชนและผุ้ประกอบ ซึ่งเป็นโครงการที่รัฐบาลให้การอุดหนุน ซึ่งยังมีวงเงินสินเชื่อเหลืออยุ่7หมื่นล้านบาท ก็ขอให้ SFI เร่งนำมาใช้ในปลายปีนี้เพื่อช่วยผลักดันเศรษฐกิจในปีนี้และต้นปีหน้า
ทั้งนี้ ตามร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี2567 ที่ถูกจัดทำโดยรัฐบาลชุดปัจจุบัน ได้กำหนดวงเงินงบประมาณรายจ่ายไว้ที่ 3.35ล้านล้านลาท และคาดการณ์รายได้ของรัฐบาลที่ 2.757 ล้านล้านบาท เป็นงบประมาณขาดดุล 5.93 แสนล้านบาท
ด้านนายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังกล่าวว่า พ.ร.บ.งบประมาณปี 2567 ที่คาดว่าจะล่าช้าดังกล่าวนั้น หากมองผลกระทบในภาพรวมของเศรษฐกิจแล้ว ประเมินว่ามีผลกระทบเพียง 0.05% ของจีดีพีเท่านั้น เนื่องจาก แผนการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐบาล ส่วนใหญ่จะอยุ่ในสองไตรมาสสุดท้ายของปีงบประมาณ
ทั้งนี้ เขากล่าวว่า ในกรณีต้องใช้งบประมาณปีก่อนหน้าไปพลางก่อนนั้น รัฐบาลมีสภาพคล่องที่เพียงพอในการดำเนินการ โดย ณ เดือนพ.ค.นี้ รัฐบาลมีเงินคงคลังเหลืออยู่ 2.56 แสนล้านบาท คาดว่า ในสิ้นปีงบประมาณนี้หรือ ณ 30 ก.ย.นี้ ระดับเงินคงคลังจะเพิ่มขึ้นเป็น 5 แสนล้านบาท
เขากล่าวว่า เนื่องจากการจัดทำงบปี 2568 ต้องล่าช้า ดังนั้น ในปีนี้ รัฐบาลชุดใหม่จะต้องจัดทำงบประมาณทั้งของปี 2567 และ 2568 ไปพร้อมกัน เนื่องจากงบปี 2568 ตามปฏิทินงบประมาณจะต้องเริ่มจัดทำในเดือน พ.ย.นี้แล้ว
///