อดีต CEO ทวิตเตอร์ เผย อีลอน ติดเงินกว่า 1.6 ล้านดอลล์ ขอศาลบังคับจ่ายทันที
“ปราค อัครวาล “ อดีต CEO ของ Twitter เผยว่า “อีลอน มัสก์” ติดเงินเขา และกลุ่มผู้บริหารเก่ากว่า 1.6 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 52.8 ล้านบาท) ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายด้านการดำเนินคดีทางกฎหมายเมื่อปีที่แล้ว พร้อมขอศาลเร่งบังคับให้ มัสก์จ่ายหนี้โดยพลัน
Key Points
- ปราค อัครวาล อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Twitter เผยว่า “อีลอน มัสก์” ติดเงินเขา และกลุ่มผู้บริหารเก่ากว่า 1.6 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 52.8 ล้านบาท)
- มูลหนี้ดังกล่าวมาจากค่าใช้จ่ายด้านการดำเนินการทางกฎหมายในช่วงการเทคโอเวอร์ของมัสก์เมื่อปีที่แล้วและที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ และ ก.ล.ต .สหรัฐ ในช่วงใกล้เคียงกัน
- อัครวาล เผย อยู่ในช่วงขอให้ศาลพิพากษาให้มัสก์จ่ายหนี้ดังกล่าวทันที
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานถ้อยแถลงของ ปราค อัครวาล (Parag Agrawa) อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) และบรรดาอดีตคณะบริหารของทวิตเตอร์ (Twitter Inc.) วันนี้ (14 ก.ค.) ว่า อีลอน มัสก์ (Elon Musk) เจ้าของแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ทวิตเตอร์คนปัจจุบัน “เป็นหนี้จากค่าธรรมเนียมทางกฎหมาย” พวกเขามากกว่า 1.6 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 52.8 ล้านบาท) และต้องการให้ผู้พิพากษาบังคับให้ มัสก์ จ่ายหนี้ดังกล่าวคืนทันที
ทั้งนี้ ปราค กล่าวว่า มูลหนี้ดังกล่าวมาจากการฟ้องร้อง และการสอบสวนของรัฐบาลเกี่ยวกับกิจการภายในของบริษัทในขณะที่ดำเนินการ พร้อมอ้างว่า ทวิตเตอร์ละเมิดข้อบังคับของบริษัท โดยปฏิเสธที่จะจ่ายค่าธรรมเนียมดังกล่าว ในช่วงที่มัสก์บังคับให้กลุ่มผู้บริษัทเก่าออกจากตำแหน่งเมื่อเข้าซื้อกิจการ (เทคโอเวอร์) ทวิตเตอร์ไปด้วยมูลค่า 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว
“ช่วงปีที่ผ่านมา โจทก์ล้มเหลวในการทำให้ทวิตเตอร์เป็นไปตามข้อผูกพันด้านความรับผิดชอบในอนาคตของบริษัท” ทนายความของพวกเขากล่าวเมื่อวันพุธในการยื่นฟ้องต่อศาล
พร้อมเสริมว่า “ทวิตเตอร์หาข้อแก้ตัวใหม่มาเรื่อยๆ เพื่อจะได้ไม่ต้องชำระเงินเต็มจำนวนที่ค้างชำระ”
ทั้งนี้ ทวิตเตอร์เผชิญกับการฟ้องร้องหลายคดี โดยมีการกล่าวหาว่าบริษัทภายใต้การนำของ มัสก์ล้มเหลวในการจ่ายเงินหลายล้านที่เป็นหนี้ให้กับอดีตพนักงาน ผู้ขาย และเจ้าของสำนักงาน ในขณะที่พยายามรักษาสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทไว้
โดยในเดือนนี้ เอ็กซ์ ครอป (X Corp.) ของมัสก์ฟ้องสำนักงานกฎหมายที่เป็นผู้นำการต่อสู้ในชั้นศาลเพื่อให้เขาเข้ายึดทวิตเตอร์ได้สำเร็จ โดยกล่าวว่าสำนักกฎหมายดังกล่าวเอาเปรียบทวิตเตอร์ในขณะที่เรียกเก็บเงิน 90 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.97 พันล้านบาท) จากคดีดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ทวิตเตอร์ไม่ตอบสนองต่อคำร้องขอความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อพิพาทด้านค่าธรรมเนียมทางกฎหมายครั้งนี้
ที่ผ่านมา บริษัท จ่ายเงินไปแล้วประมาณ 6 แสนดอลลาร์ (ประมาณ 19.8 ล้านบาท) จากค่าใช้จ่ายทั้งหมด แต่ได้ระงับค่าธรรมเนียมราว 1,158,427 ดอลลาร์จากงานด้านทนายความที่เป็นตัวแทนของอดีตผู้จัดการระดับสูงในการไต่สวนของสภาคองเกรสเกี่ยวกับอิทธิพลของสื่อสังคมออนไลน์ต่อการเลือกตั้งในสหรัฐ
นอกจากนี้ บริษัทยังไม่คืนเงินให้กับกลุ่มผู้บริหารเก่าเป็นจำนวนเงิน 273,747 ดอลลาร์ในค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐและสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติของทวิตเตอร์รวมถึงการฟ้องร้องทางแพ่ง นอกจากนี้ มัสก์ยังปฏิเสธที่จะชำระค่าธรรมเนียมจำนวน 237,261 ดอลลาร์ที่เกิดจากความพยายามเพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทางกฎหมายข้างเคียงอีกด้วย
มากไปกว่านั้น ทวิตเตอร์ยังเผชิญกับการฟ้องร้องของนักลงทุนหลายรายเกี่ยวกับผลกระทบจากการซื้อแพลตฟอร์มของมัสก์ หลังจากที่ล้มเหลวในการพยายามจัดการข้อตกลง และอดีตพนักงานก็ฟ้องเช่นกันโดยอ้างว่าพวกเขาถูกปฏิเสธการแจกจ่ายหุ้นตามข้อตกลง
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์
