ข้าราชการสูงวัย เพิ่มดันยอดค่ารักษาพยาบาลพุ่ง

ข้าราชการสูงวัย เพิ่มดันยอดค่ารักษาพยาบาลพุ่ง

บัญชีกลางเผยยอดเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล 8 เดือนปีงบ 66 ยังทรงตัวในระดับสูงที่กว่า 6.4 หมื่นล้าน แม้โควิดจะคลี่คลาย เหตุข้าราชการสูงวัยเพิ่ม ขณะที่ เพิ่มเทเลเมดดิซินปผ่านแอปเป๋าตังอำนวยความสะดวกผู้ป่วยนอก

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยยอดเบิกจ่ายงบรักษาพยาบาลในปีงบประมาณ2566 ว่า ยังทรงตัวในระดับสูง ล่าสุดในพ.ค.เบิกจ่ายที่ 6.4 หมื่นล้านบาท สูงกว่าปีก่อนที่เบิกจ่าย 5.9 หมื่นล้าน แม้สถานการณ์โควิดจะคลี่คลายลงก็ตาม เนื่องจาก ข้าราชการสูงวัยกันมากขึ้น 

กรมบัญชีกลาง ประเมินว่า ยอดเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลจะทะลุยอดจัดสรรงบประมาณ ซึ่งตามสถิติการเบิกจ่ายงบดังกล่าวแล้วจะสูงกว่างบจัดสรรในทุกปี โดยยอดจัดสรรงบปีนี้อยู่ที่ 7.6 หมื่นล้าน ขณะที่ ยอดการเบิกจ่ายงบรักษาพยาบาลในปีก่อนอยู่ที่ 9.8 หมื่นล้านบาท

เธอกล่าวว่า กรมบัญชีกลางพยายามที่จะดูแลหรือเข้มงวดให้การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลเป็นไปด้วยความถูกต้องมากที่สุด โดยเฉพาะในเรื่องการใช้ยาที่มีราคาแพง ซึ่งกรมฯจะมีคณะกรรมการที่ทำหน้าที่ในการประเมินการใช้ยาคุณภาพที่สามารถทดแทนยาราคาแพง เพื่อคุมให้ค่าใช้จ่ายดังกล่าวอยู่ในเป้าหมายมากขึ้น

“เราพยายามคุมต้นทุนค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะต้นทุนค่าใช้จ่ายค่ายา ซึ่งเราจะกำกับให้ใช้ยาที่สามารถทดแทนยาต้นแบบได้ เพื่อควบคุมต้นทุน โดยเราจะมีคณะกรรมการมาช่วยดู”

อย่างไรก็ดี กรมฯก็ได้ออกมาตรการอำนวยความสะดวกในการเบิกจ่ายอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้กำหนดแนวปฏิบัติการเบิกจ่ายตรงเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอกผ่านกระเป๋าสุขภาพบนแอปพลิเคชันเป๋าตังให้ครอบคลุมการให้บริการการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) เพื่อรองรับกับระบบบริการทางการแพทย์ที่เปลี่ยนแปลงไปภายหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19

โดยระบบดังกล่าวเป็นการพัฒนาต่อยอดภายหลังจากที่กรมบัญชีกลางได้เพิ่มช่องทางการใช้สิทธิเบิกจ่ายตรงเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอกผ่านกระเป๋าสุขภาพบนแอปพลิเคชันเป๋าตัง สำหรับการเข้ารับการรักษาพยาบาลที่สถานพยาบาล (Onsite) ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2565 เป็นต้นมา

ทั้งนี้ กรมบัญชีกลาง ได้จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็น เพื่อสำรวจความพึงพอใจของผู้รับบริการ รวมถึงข้อเสนอแนะต่อการดำเนินโครงการดังกล่าว พบว่า แอปพลิเคชันเป๋าตังสามารถอำนวยความสะดวกให้กับผู้มีสิทธิ อีกทั้งยังช่วยลดความแออัดเมื่อทำธุรกรรมเบิกจ่ายตรง ณ จุดชำระเงินของสถานพยาบาลได้ โดยตั้งแต่วันเริ่มต้นโครงการจนถึงวันที่ 15 มิถุนายน 2566 มีผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวใช้สิทธิเบิกจ่ายตรงผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง รวมจำนวนทั้งสิ้น 10,548 รายการ คิดเป็นมูลค่าการใช้สิทธิ รวมจำนวนทั้งสิ้น 17,045,500 บาท

การเบิกจ่ายตรงผ่านแอปพลิเคชัน สำหรับการเข้ารับการรักษาพยาบาลที่สถานพยาบาล (Onsite) และการเข้ารับบริการการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) สถานพยาบาลต้องพัฒนาระบบการให้บริการของสถานพยาบาลให้มีการเชื่อมต่อข้อมูลกับกระเป๋าสุขภาพบนแอปพลิเคชันเป๋าตังตามแนวทางที่กรมบัญชีกลางกำหนด ดังนั้น สถานพยาบาลที่ประสงค์จะดำเนินการดังกล่าวจะต้องประสานกับธนาคารกรุงไทยเพื่อประเมินความพร้อมทางระบบสารสนเทศของสถานพยาบาลและเชื่อมต่อระบบกับกระเป๋าสุขภาพบนแอปพลิเคชันเป๋าตังก่อน เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ ให้แจ้งมายังกรมบัญชีกลางเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ส่วนราชการและผู้มีสิทธิทราบผ่านทางเว็บไซต์ต่อไป

อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการเข้ารับบริการการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวจะต้องได้รับการประเมินจากแพทย์ผู้ทำการรักษาพยาบาลก่อนภายใต้เงื่อนไข ดังนี้ (1) ผู้ป่วยสมัครใจและมีความพร้อมในการเข้ารับบริการการแพทย์ทางไกล (2) เป็นผู้ป่วยเก่าของสถานพยาบาลที่มีการติดตามการรักษาต่อเนื่อง (3) ผู้ป่วยต้องมีอาการคงที่และควบคุมโรคได้ดี(4) ไม่ใช่ผู้ป่วยฉุกเฉิน และ (5) กรณีอื่นตามที่กรมบัญชีกลางกำหนด

โดยเมื่อถึงวันนัดหมายให้บริการการแพทย์ทางไกลผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวจะต้องยืนยันการทำธุรกรรมผ่านกระเป๋าสุขภาพบนแอปพลิเคชันเป๋าตัง ก่อนเข้ารับบริการการแพทย์ทางไกล (Check-in) และหลังเข้ารับบริการทางการแพทย์ทางไกล (Check-out) ทุกครั้ง 

ทั้งนี้สามารถตรวจสอบรายชื่อสถานพยาบาลที่สามารถใช้สิทธิเบิกจ่ายตรงผ่านแอปพลิเคชันได้ ผ่านทางเว็บไซต์กรมบัญชีกลางwww.cgd.go.th หัวข้อ รักษาพยาบาล/ข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาล