ผลิตสุราดื่มเอง ไม่ขาย ไม่ผิดกฎหมาย แต่ต้องเสียภาษี

ผลิตสุราดื่มเอง ไม่ขาย ไม่ผิดกฎหมาย แต่ต้องเสียภาษี

กฎหมายใหม่อนุญาตให้ผลิตสุราเพื่อดื่มเองได้แล้ว ไม่ถือว่าผิดกฎหมาย แต่รู้ไหม.. ถึงกลั่นเหล้าไว้ดื่มเองที่บ้านไม่ได้ขาย ก็ต้องเสียภาษีด้วย ชวนอ่านเงื่อนไขข้อกำหนดเรื่องการผลิตสุรา และภาษีที่เกี่ยวข้อง พร้อมแนวทางปฏิบัติ

​หากย้อนไปในอดีต การผลิตสุราไม่ว่าจะเพื่อจำหน่ายหรือดื่มเอง ไม่สามารถทำได้อย่างเสรี เนื่องจากมีกฎหมายสุราควบคุมอยู่ โดยเฉพาะเรื่องการผลิตสุราเพื่อดื่มเอง หรือที่เรียกว่าเหล้าเถื่อน ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เนื่องจากการผลิตสุราดื่มเองไม่มีมาตรฐานรองรับ จึงทำให้ไม่มีความปลอดภัยเพียงพอ

​โดยกฎหมายการอนุญาตผลิตสุรา พ.ศ.2560 ได้ระบุเกี่ยวกับการผลิตสุราไว้ดังนี้

- การต้มกินเอง เป็นเรื่องผิดกฎหมาย
- บริวผับ (Brew Pub) ต้องมีกำลังผลิต 100,000 – 1,000,000 ลิตร/ปี และมีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท
- โรงผลิตเบียร์ ต้องมีกำลังผลิต 10 ล้านลิตร/ปี
- ทุนจดทะเบียนเบียร์ ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
- เหล้ากลั่นชุมชน ต้องมีเครื่องจักรต่ำกว่า 5 แรงม้า คนงานน้อยกว่า 7 คน และสามารถผลิตได้แค่เหล้าขาวเท่านั้น
- โรงผลิตเหล้าขาว กำลังผลิต 9 หมื่นลิตร/วัน ที่ 28 ดีกรี
- โรงงานผลิตวิสกี้ บรั่นดี จิน กำลังผลิตขั้นต่ำ 30,000 ลิตร/วัน ที่ 8 ดีกรี

และล่าสุดกฎกระทรวงการอนุญาตผลิตสุราฉบับใหม่ อนุญาตให้ผลิตสุราเพื่อดื่มเองได้แล้ว ไม่ถือว่าผิดกฎหมาย แต่ผู้ผลิตสุราเพื่อดื่มเองจะต้องมีหน้าที่เสียภาษีด้วย ซึ่งข้อกำหนดในเรื่องของการผลิตสุรา และภาษีที่เกี่ยวข้องจะมีอะไรบ้าง พร้อมมีแนวทางปฏิบัติดังนี้

  • อัพเดต! กฎหมายผลิตสุราเพื่อจำหน่าย และผลิตสุราดื่มเองได้แล้ว

จากกฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ.2560 ที่ไม่สามารถผลิตสุราดื่มเองได้ ดังที่กล่าวไปแล้ว ต่อมาปัจจุบัน กฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ.2565 ล่าสุด ได้มีการแก้ไขปรับปรุงกฎกระทรวงการอนุญาตผลิตสุรา พ.ศ. 2560 และมีผลบังคับใช้แล้ว โดยได้สรุปการผลิตสุราไว้ดังนี้

- การต้มกินเอง สามารถทำได้ แต่ต้องขออนุญาตต่ออธิบดี และผลิตไม่เกิน 200 ลิตรต่อปี
- บริวผับ (Brew Pub) ไม่กำหนดเกณฑ์และทุนจดทะเบียน แต่ต้องมีเครื่องจักรที่ได้ตามมาตรฐานกำหนด และผ่าน EIA
- โรงผลิตเบียร์ ไม่กำหนดกำลังผลิตขั้นต่ำ แต่ต้องมีกระบวนการบรรจุภาชนะที่ติดตั้งระบบการพิมพ์เครื่องหมายเสียภาษี
- ไม่กำหนดทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ
- เหล้ากลั่นชุมชน เพิ่มให้มีประเภทไม่เกิน 50 แรงม้า และข้อกำหนดให้ผ่าน แต่ยังได้แค่เหล้าขาว
- โรงผลิตเหล้าขาว กำลังผลิต 9 หมื่นลิตร/วัน ที่ 28 ดีกรี
- โรงงานผลิตวิสกี้ บรั่นดี จิน กำลังผลิตขั้นต่ำ 30,000 ลิตร/วัน ที่ 28 ดีกรี

  • หลักการปฏิบัติเมื่อผลิตสุราดื่มเอง ไม่มีการจำหน่าย

ทั้งนี้ ในส่วนของการผลิตสุราเพื่อดื่มเองภายในครัวเรือน ไม่ได้มีการจำหน่ายนั้น ผู้ที่สามารถทำได้ไม่ผิดกฎหมาย จะต้องทำตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด ซึ่งประกอบด้วย

1.ขออนุญาตกับกรมสรรพสามิตก่อนผลิตสุราเพื่อดื่มเองภายในครัวเรือน 
2.กำลังการผลิตในครัวเรือนจะต้องไม่เกิน 200 ลิตรต่อปี
3.ต้องเป็นบุคคลที่บรรลุนิติภาวะไม่น้อยกว่าอายุ 20 ปีบริบูรณ์
4.สุรา เบียร์ สุราแช่อื่นๆ เมื่อผลิตแล้วจะต้องนำมาให้กรมสรรพสามิตตรวจสอบคุณภาพก่อน เพื่อป้องกันสารปนเปื้อนต่างๆ ตามมาตรฐานที่กำหนดไว้

  • ผลิตสุราดื่มเองทำได้ แต่ต้องเสียภาษีด้วย

หลังจากกฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ.2565 ล่าสุด ได้มีการแก้ไขปรับปรุง ให้สามารถผลิตสุราดื่มเองภายในครัวเรือนได้นั้น เพื่อให้สอดคล้องกับกฎกระทรวงการผลิตสุรา จึงมีการอนุมัติกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตสุรากลั่น และเบียร์ (สุราแช่) ที่ผลิตเพื่อดื่มเองภายในครัวเรือน ที่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อขาย แลกเปลี่ยน หรือเพื่อการอื่นใดเพื่อได้รับประโยชน์ตอบแทน และผลิตไม่เกิน 200 ลิตรต่อปี ซึ่งไม่ต้องเสียภาษีตามมูลค่า แต่ต้องเสียภาษีตามปริมาณแอลกอฮอล์เช่นเดียวกับสุราที่ผลิตเพื่อการค้า โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

​- เบียร์ (สุราแช่) เสียภาษีในอัตรา 430 บาท ต่อปริมาณ 1 ลิตรแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์

​- ไวน์ และสปาร์กลิงไวน์ ที่ทำจากองุ่น เสียภาษีในอัตรา 1,500 บาท ต่อปริมาณ 1 ลิตรแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์

​- สุราแช่ผลไม้ที่มีส่วนผสมขององุ่นหรือไวน์องุ่น ถ้ามีแอลกอฮอล์ไม่เกิน 7 ดีกรี และขนาดบรรจุไม่เกิน 0.330 ลิตร เสียภาษีในอัตรา 150 บาท ต่อปริมาณ 1 ลิตรแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ ส่วนสุราแช่ผลไม้ที่มีส่วนผสมขององุ่นหรือไวน์องุ่นอื่นๆ ต่อปริมาณ 1 ลิตรแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ หน่วยละ 900 บาท

​- สุราแช่ชนิดอื่นๆ เสียภาษีในอัตรา 150 บาท ต่อปริมาณ 1 ลิตรแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์

​- สุรากลั่นชนิดสุราขาว เสียภาษีในอัตรา 155 บาท ต่อปริมาณ 1 ลิตรแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์

​- สุรากลั่นชนิดอื่นๆ เสียภาษีในอัตรา 255 บาท ต่อปริมาณ 1 ลิตรแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์

สรุป

อย่างไรก็ตาม แม้ว่ากฎหมายจะปลดล็อก และให้อิสระกับการผลิตสุราเพื่อดื่มเองในครัวเรือนได้แล้ว แต่ก็ยังคงมีเงื่อนไขที่ผู้ผลิตสุรายังต้องทำตามที่กฎหมายกำหนดอยู่บางประการ ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งต่อกรมสรรพาสามิตก่อนผลิตสุรา ต้องมีอายุตั้งแต่ 20 บริบูรณ์ปีขึ้นไป และเสียภาษีเช่นเดียวกับการผลิตสุราเพื่อจำหน่าย

เพื่อให้การผลิตสุราเพื่อดื่มในครัวเรือนได้มาตรฐาน ปลอดภัย โดยเฉพาะสถานที่ผลิตต้องมีพื้นที่เพียงพอไม่ก่อให้เกิดอันตราย และสร้างความเดือดร้อนให้กับบุคคนอื่น พร้อมกับต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภคเอง และสิ่งแวดล้อมรอบข้างเป็นสำคัญด้วย

----------------------------------
อ่านบทความน่ารู้เกี่ยวกับภาษีเพิ่มเติม คลิกที่นี่
Source : Inflow Accounting