เปิดพอร์ต 5 อันดับ กองทุน Global Allocation ผลตอบแทนเด่นรับประตูลงทุนโลกเปิด

เปิดพอร์ต 5 อันดับ กองทุน Global Allocation ผลตอบแทนเด่นรับประตูลงทุนโลกเปิด

ปี 66 ประตูการลงทุนทั่วโลกเปิดแล้ว กระจายหลากหลายสินทรัพย์ รับความผันผวนได้ดี มอร์นิ่งสตาร์ เผยผลตอบแทนกองทุน Global Allocation นำโดยกอง MGS 7.13 % รองมา กองทุน K2040RM 5.69 % บลจ.กสิกรไทย แนะจัดสรรเงินลงทุนทั่วโลกเทรนด์มาแรง กอบศักดิ์ ย้ำซื้อในราคาที่รับได้ ถือยาว 1-2 ปี

ในปี 2566 “สินทรัพย์บางส่วนเริ่มฟื้นตัว” เป็นโอกาสในการลงทุน โดยเฉพาะ "การลงทุนต่างประเทศ" ที่เริ่มพลิกฟื้น “หุ้น” มักจะขึ้นก่อนวิกฤติจะจบลง 

แต่"ความผันผวน”ยังรออยู่ข้างหน้าจากทิศทางของดอกเบี้ยของเฟดที่กำลังชักกะเย่อ ระหว่างดูแลเศษฐกิจไม่ให้เกิดภาวะถดถอย กับเป้าหมายเอาเงินเฟ้อกลับลงมาที่เป้าหมาย 2%

ขณะที่นโยบายการเงินหลายประเทศเริ่มตึงตัวมากขึ้นในระยะข้างหน้า ขณะเดียวความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ของแต่ละประเทศยังทำให้เกิดความไม่แน่นอน 

ในปีนี้ เราหนีความผันไม่ได้ “ความผันผวน” แต่สามารถลดผันผวนได้ “การกระจายการลงทุน” ไปทั่วโลก และในหลาย ๆ สินทรัพย์ และที่สำคัญควรมีผู้จัดการกองทุนเป็นผู้ดูแลปรับพอร์ตให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดโลกอย่างสม่ำเสมอ 

ถึงเวลาแล้วที่เราไม่ควรพลาด ก้าวออกไปหาโอกาสการลงทุนในต่างประเทศ  ลองมาดูกันก่อนว่า “กองทุนผสมที่มีนโยบายลงทุนทั่วโลก” (Global Allocation) เป็นกองทุนที่กำหนดสัดส่วนการลงทุนในทรัพย์สินประเภทต่างๆ ( กระจายการลงทุนทั่วโลก) ตั้งแต่ต้นปีจนถึงตอนนี้ผลตอบแทนกองทุนไหนโดดเด่นและพอร์ตลงทุนส่วนใหญ่ลงทุนอะไรบ้าง

เปิดพอร์ต 5 อันดับ กองทุน Global Allocation ผลตอบแทนเด่นรับประตูลงทุนโลกเปิด

5 อันดับแรก “กองทุน Gobal Allcation”

ทั้งนี้ ข้อมูลจาก “มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย)” รายงาน “กองทุน Gobal Allcation” ที่มีผลตอบแทนสูงสุด 5 อันดับแรก (ณ 15 ก.พ.) และเปิดเผยข้อมูลทรัพย์สินที่ลงทุน 5 อันดับแรกในพอร์ตลงทุน ดังนี้

1.กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี โกลบอล สมาร์ท ฟันด์  : MGS มีผลตอบแทน 7.13 % มีทรัพย์สินลงทุนส่วนใหญ่ ได้แก่  

  • VanEck Morningstar Wide Moat ETF  22.47%
  • iShares MSCI ACWI ETF  22.30%
  • Energy Select Sector SPDR® ETF 19.16%
  • iShares Edge MSCI Wld Qual Fctr ETF 16.79%
  • VanEck Vietnam ETF 16.33%  

 

2. กองทุนเปิดเค ทาร์เก็ต รีไทร์เมนต์ 2040 เพื่อการเลี้ยงชีพ : K2040RM มีผลตอบแทน 5.69 % มีทรัพย์สินลงทุนส่วนใหญ่ ได้แก่

  • Capital Group New Pers (LUX) Z  15.89%
  • Capital Group Global Eq (LUX) Z  12.80%
  • Capital Group New Economy (LUX) Z 12.64%
  • Capital Group World G&I (LUX) Z  0.70%
  • Capital Group Glob Alloc (LUX) Z  8.58%

 

3.กองทุนเปิดเค ทาร์เก็ต รีไทร์เมนต์ 2035 เพื่อการเลี้ยงชีพ  : K2035RMF มีผลตอบแทน 5.67 % มีทรัพย์สินลงทุนส่วนใหญ่ ได้แก่

  • Capital Group New Pers (LUX) Z  15.77%
  • Capital Group New Economy (LUX) Z 12.81%
  • Capital Group Global Eq (LUX) Z 12.60% 
  • Capital Group World G&I (LUX)10.48%
  • Capital Group AMCAP (LUX) Z  8.48%                 

4. กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี แวลู อินเวสติง : M-VI มีผลตอบแทน 5.60 % มีทรัพย์สินลงทุนส่วนใหญ่ ได้แก่

  • Amundi Physical Gold ETC C  4.26%
  • Oracle Corp  2.94%
  • Xtrackers Physical Gold ETC 2.91%
  • iShares Physical Gold ETC  2.89%
  • SLB 2.67% 

 
5.กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี โกลบอล คอนเวอร์ติเบิล บอนด์ : MCONVERT มีผลตอบแทน 5.39%  มีทรัพย์สินลงทุนส่วนใหญ่ ได้แก่

  • Lazard Convertible Global PC H-USD  57.46%
  • MS INVF Global Convertible Bond Z 46.53%  

จากข้อมูลดังกล่าวพบเพียง 2 บลจ. ได้แก่ บลจ.เอเอ็มซี และ บลจ.กสิกรไทย ที่ทำผลงานโดดเด่น หากพิจารณานโยบายการลงทุนของกลุ่มกองทุนประเภทนี้ที่มีผลตอบแทนการลงทุนดีที่สุด คือ “กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี โกลบอล สมาร์ท ฟันด์  : MGS” พบว่า  เป็นกองทุนรวมผสม หน่วยลงทุนประเภท Fund of Funds กลุ่มกองทุนรวม Foreign Investment Allocation มีนโยบายและกลยุทธ์การลงทุนลงทุนในหน่วยลงทุนกองทุนท้้งตราสารทุน กองทุนตราสารหนี้ และกองทุนที่ลงทุนในตราสารอ้างอิงกับทองคํา ในต่างประเทศ
อีกทั้งกองทุนอาจลงทุนใน derivatives เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน กองทุนมุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)

ขณะที่รองลงมาเป็น “กองทุนเปิดเค ทาร์เก็ต รีไทร์เมนต์ 2040 เพื่อการเลี้ยงชีพ : K2040RM” มีนโยบายการลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ ตั้งแตท2 กองทุนขึ้นไป สัดส่วนไม่เกิน80%ของ NAV โดยลงทุนส่วน ใหญ่ในกองทุนตราสารทุน กองทุนผสม กองทุนตราสารหนี้ และหรือกองทุนประเภทอื่นๆ เช่น กองทุนรวมสินค้าโภคภัณฑ์ เป็นต้น รวมถึงหน่วยของกองทรัสต์ หรือกองอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศ และหน่วยของกองทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างประเทศ อาจลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวม หรือกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (กอง1) หรือหน่วยทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการ ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์(REITs) หรือกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานซึ่งอยู่ภายใต้การจัดการของบริษัทจัดการได้โดยไม่จํากัด อัตราส่วน
• บริษัทจัดการจะมอบหมายใหม่ Capital Group Investment Management Pte. Ltd. เป็นผู้รับมอบหมายงานด้านการ จัดการลงทุนในต่างประเทศของกองทุน (Outsourced fund manager) โดยไม่รวมส่วนของการลงทุนในประเทศ
• อาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน (Efficient Portfolio Management) และ ตราสารที่มีสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note)
• ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
• บริหารแบบ active management โดยเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ และจะปรับลดสัดส่วนการ ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงใหญ่เหมาะสมกับช่วงอายุของผู้ลงทุนที่เพิ่มขึ้น 

 

กระจายลงทุนทั่วโลกสู้ความผันผวน  

อย่างไรก็ดี “การลงทุนต่างประเทศ” ที่ผู้ลงทุนอาจมีความกังวลว่าเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว แต่หากเริ่มอาจพลาดโอกาสรับตอบแทนไปพร้อมกับตลาดที่ฟื้นตัวขึ้นหลังจากนี้ ในปีนี้ทางด้านบลจ. มีการปรับกลยุทธ์แนะนำการลงทุนต่างประเทศทั่วโลกได้อย่างมั่นใจ 

แน่นอนว่า  สินทรัพย์เสี่ยง หรือ สินทรัพย์ไม่เสี่ยง ไม่ใช่จะเป็นผู้ชนะตลาดได้เสมอไป  แต่ที่ผ่านมา บลจ. กสิกรไทย พบว่า "การจัดสรรเงินลงทุนทั่วโลก "  เป็น "สินทรัพย์ในอนาคต" ที่สามารถให้ผลตอบแทนระดับที่และสม่ำเสมอ เป็นกลยุทธ์การลงทุนที่อยากจะให้นักลงทุนเข้ามาใช้มากขึ้น ตอบโจทย์เป้าหมายการลงทุน ผลตอบแทนและความเสี่ยงของนักลงทุนแต่ละบุคคล 

"วจนะ วงศ์ศุภสวัสดิ์"  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายการลงทุนต่างประเทศ บลจ.กสิกรไทย มองว่า ตลาดการลงทุนต่างประเทศในปีนี้ ฟ้าสดใสมากขึ้น แต่ยังมีความผันผวนบางข่าวร้ายมีรุมเร้าบ้างเป็นครั้งคราว ทำให้การเลือกลงทุนยังสำคัญอยู่ 

สำหรับการลงทุนหุ้น ด้วยราคาสินทรัพย์การลงทุนทั่วโลกปรับลดลงมามากแล้ว โดยเฉพาะหุ้นทั่วโลก เป็นจุดน่าลงทุนเข้าลงทุน  ยังคงน้ำหนักการลงทุนตามความเสี่ยงที่รับได้ เช่น รับความเสี่ยงได้มาก มีสัดส่วนการลงทุนหุ้นไม่ต่ำกว่า 80%หรือรับความเสี่ยงได้ปานกลาง มีสัดส่วนการลงทุนหุ้นไม่ต่ำกว่า 50% เพิ่มน้ำหนักการลงทุนหุ้นจีน เอเชีย และไทย อาจปรับลดน้ำหนักการลงทุนในสหรัฐลดลงบ้าง 

กลยุทธ์การลงทุนต่างประเทศ เราแนะนำ “จัดพอร์ตกองทุนรวมต่างประเทศ” สร้างผลตอบแทนตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการลงทุน และสอดคล้องกับความเสี่ยงของผู้ลงทุนแต่ละบุคคล 

พร้อมกันนี้ยังเน้นกระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ สำหรับตราสารหนี้ ยังเน้นตราสารหนี้คุณภาพในระดับการลงทุน และยังต้องระวังการลงทุนไฮยิลด์ระยะกลางและยาว แต่ตราสารหนี้ระยะสั้นราคาจูงใจและผลตอบแทนน่าสนใจ  นอกจากนี้ยังต้องการมีการลงทุนทางเลือดติดพอร์ต เพื่อรองรับความไม่นอน เช่น  ทองคำ  และรีท  

 "แนะว่าบางกองทุน NAV ต่ำกว่าในรอบ5 ปี เป็นโอกาสเข้าเก็บสะสมได้ อย่าง หุ้นสหรัฐ หรืออย่างหุ้นจีน ตามความเสี่ยงที่นักลงทุนรับได้ อย่างไรก็ดี กระจายลงทุนทั่วโลกอย่างเหมาะสม ลงทุนได้ทุกช่วงเวลา ลงทุนในหลายสินทรัพย์ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดี ในแต่ละสถานการณ์ เพิ่มโอกาสได้กำไร ลดโอกาสขาดทุน, สร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว ใกล้เคียงกับหุ้นโลก แต่มีความผันผวนที่ต่ำกว่า จากการกระจายลงทุนและปรับสัดส่วนอย่างยืดหยุ่น , ไม่ต้องจัดพอร์ตเองก็ได้ลงทุนสินทรัพย์ดีๆ ที่รวมไว้ในกองทุนเดียว และไม่ต้องจับจังหวะการลงทุนเอง" 

"กอบศักดิ์ ภูตระกูล"  ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) แนะนำการลงทุนในปี 2566 เป็นโอกาสที่จะก้าวออกจากประตูหาผลตอบแทนที่เริ่มกลับมาทั่วโลก แน่นว่า ไม่มีใครซื้อได้ต่ำสุด แต่ซื้อในราคาที่เรารับได้ และถือยาวไป 1-2 ปี ผลตอบแทนก็น่าจะดีพอสมควร