กลยุทธ์ลงทุนรับแรงกระแทกจาก Recession

ความกังวลว่าจะเกิด Recession ในปีนี้ยังเป็นที่พูดถึงกัน ว่าจะเกิดขึ้นนานแค่ไหน แม้เงินเฟ้อสหรัฐฯจะเริ่มชะลอตัวลง แต่ดอกเบี้ยยังขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่าแรงซื้อจะกลับเข้ามาในช่วงต้นปีนี้ แต่เมื่อมองไปข้างหน้าตลอดทั้งปี ดูแล้วภาพการลงทุนต้องทำการบ้านรับมือพร้อมกับวางกลยุทธ์ลงทุนพอสมควร

ปีนี้เป็นปีที่ DAOL SEC ประเมินว่า ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงโดยเฉพาะตลาดหุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้น เนื่องจากการปรับฐานของสินทรัพย์เสี่ยงโดยรวมมี Downside ที่เริ่มจำกัด แต่ต้องรอสัญญาณ Upside ของตลาดว่าจะกลับมาเมื่อใด ซึ่งประเมินจากตัวแปรสำคัญได้แก่ ดัชนี PMI และ ISM ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ตามมาด้วยการปรับคาดการณ์การเติบโตของกำไรตลาด และ ตัวเลข GDP ถูกปรับประมาณการณ์ขึ้น ซึ่งทั้งหมดจะเป็นตัวหนุนตลาดหุ้น

อย่างไรก็ดีในการเลือกลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ในปีนี้ความจำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ที่สำคัญควบคู่ไปด้วย นั่นคือ

1.สินทรัพย์ใดจะได้ประโยชน์ในช่วงที่ดอกเบี้ยและเงินดอลลาร์(Dollar index) ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว

2.สินทรัพย์ใดที่สอดคล้องในข้อแรกและสามารถลงทุนข้ามผ่านการเกิด Recession ไปได้

3.สินทรัพย์ดังกล่าวมีความจำเป็นต้องสับเปลี่ยนระหว่างปี 2023 หรือไม่

 และ 4.จังหวะเวลาการลงทุน (Market timing) และดัชนีชี้นำ (Indicator) จะบ่งชี้ว่าตลาดสินทรัพย์เสี่ยงเริ่มฟื้นตัวเมื่อใด

DAOL SEC คาดว่าการเกิด Mild Recession หรือภาวะถดถอยแบบไม่รุนแรง จะทำให้ตลาดสินทรัพย์ปรับตัวลงแน่นอนอย่างน้อย 1-2 ครั้ง ดังนั้นในการลงทุน สิ่งที่นักลงทุนควรให้ความสนใจคือ เรื่อง ระดับราคา (Valuation) ที่ถูก และการเติบของผลกำไรบริษัทจดทะเบียน เป็นประเด็นหลักที่ควรพิจารณา

ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนในช่วง 3-6 เดือนจากนี้ ก่อนที่จะไปถึงช่วงเกิด Mild Recession เรามองว่ามีตลาดหุ้นที่น่าสนใจ ดังนี้

ยุโรป มองว่าราคาหุ้นถูก คาด GDP ไตรมาส 4 ปี 2022 จะออกมาดีกว่าคาด ขณะที่ราคาพลังงานลดลงและการเปิดเมืองของจีน เป็นปัจจัยหนุนให้หุ้นยุโรปมี Upside มากขึ้น

ญี่ปุ่น ระดับราคาหุ้นยังถูก หุ้นขนาดเล็ก-กลางในกลุ่มบริการได้ประโยชน์จากการทองเที่ยวและเปิดเมืองของจีน

สหรัฐฯ หุ้นขนาดเล็ก-กลาง ในกลุ่ม Growth มีสัญญาณฟื้นตัวในช่วงสั้น จากการสลับกลุ่มเล่น แต่ต้องระวังการปรับฐาน

จีน แน่นอนว่าการเปิดเมืองหนุนให้ภาคการผลิตและการบริโภคเติบโต ขณะที่ราคาหุ้นยังถูกเป็นตลาดที่ทยอยสะสมได้

เช่นเดียวกัน เวียดนาม ราคาหุ้นยังอยู่ในระดับต่ำ การเปิดประเทศของจีนหนุนการท่องเที่ยว ขณะที่เงินลงทุนจากต่างชาติไหลเข้าส่งผลบวกสภาพคล่อง รวมถึง เกาหลีใต้ จากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ใกล้ถึงจุดสูงสุด และการส่งออกอิเล็คทรอนิคส์ฟื้นตัวเป็นปัจจัยบวกให้ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้น

นอกจากนี้เมื่อมองไปที่ภาพรวมทั้งปี 2023 ทาง DAOL SEC ยังแนะนำกระจายการลงทุน ในสินทรัพย์อื่นด้วย ได้แก่ ตราสารหนี้ภาคเอกชนในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว รวมถึงหุ้นในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ ซึ่งมองว่าเริ่มฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีแรก รวมไปถึงแนะนำลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ REIT ต่างประเทศ เช่น สหรัฐฯ เพื่อกระจายความเสี่ยงแทนทองคำ

ปี 2023 เป็นปีที่มีโอกาสกระจายลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนในหลายสินทรัพย์ การถือเงินสดในปีนี้อาจพลาดจังหวะรับผลตอบแทนในบางเวลาได้ และควรติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เพื่อพร้อมปรับการลงทุนตลอดเวลาครับ