ปีแห่งการเริ่มฟื้นหรือเริ่มต้นวิกฤติที่ต้องรับมือ

การผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้าออกประเทศจีน ที่ประกาศออกช่วงปลายเดือน ธ.ค. สร้างความสนใจไปทั่วโลกทั้งในด้านบวกและการเฝ้าระวัง

กล่าวคือ การเปิดประเทศของจีนหลังจากปิดมาเกือบ 3 ปี ทำให้ธุรกิจที่ระหว่างประเทศเกี่ยวข้องกับจีนกลับมาฟื้น ทั้งการส่งออก อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยวจากคนจีนที่เดินทางไปทั่วโลกรวมถึงไทย

แต่เมื่อเริ่มต้นสู่ปี 2565 กระแสการเกิด ‘ภาวะถดถอย’ ของเศรษฐกิจโลกนำโดยสหรัฐฯ ก็เข้ามาอีกครั้ง แม้จะเป็นเรื่องพูดถึงกันแล้วในปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้บรรยากาศตลาดต้องมาสนใจเรื่องอีกครั้ง

ประเด็นที่น่าสนใจ คือ ตัวแปรที่กดดันเศรษฐกิจในโลกในปีที่ผ่านมา เริ่มมีสัญญาณกลับเข้าสู่ทิศทางที่ปกติขึ้นได้แก่ 1.) การคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนจะเริ่มดีขึ้นจากการเปิดประเทศ และการเจรจากับสหรัฐฯเรื่องการค้า ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนจะฟื้นกลับมา และเป็นโอกาสเข้าลงทุน ?

2.) ทางฟากฝั่งยุโรป สงครามรัสเซียกับยูเครนที่สู้รบต่อเนื่องมากว่า 300 วัน ผู้นำรัสเซีย มีการส่งสัญญาณพูดถึงการเจรจา เช่นเดียวกับผู้นำสหรัฐฯที่สนับสนุนยูเครนก็ส่งสัญญาณเช่นเดียวกัน

 รวมไปถึง 3.) การที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ลง หลังจากปีที่ผ่านมาขึ้นดอกเบี้ยเร็วและแรง จนทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯได้รับผลกระทบ แต่คาดการณ์ว่า แม้จะเจอภาวะเศรษฐกิจถดถอยแต่จะไม่รุนแรง

DAOL SEC ประเมินว่า ทั้ง 3 ประเด็นดังกล่าว จะส่งผลเชิงบวกต่อตลาดมากขึ้นๆ และอาจจะชัดเจนในช่วงปลายไตรมาส 1 ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นตลาดจะประเมินทิศทางและความเสี่ยงอีกครั้งด้วยการสะท้อนออกมาในราคาสินทรัพย์

ดังนั้นการจัดสินทรัพย์ลงทุนในปีนี้ DAOL SEC มองว่า สินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น ปีนี้มีแนวโน้มดีกว่าปีที่ผ่านมา แต่จะเน้นลงทุนหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเติบโตของเศรษฐกิจ อย่างหุ้นกลุ่ม Value ที่มีผลประกอบการเติบโต มีกระแสเงินที่ดี เช่น กลุ่มธนาคาร , อสังหาฯ , ค้าปลีก รวมไปถึงกลุ่ม Commodity เช่น โลหะ (ยกเว้น น้ำมัน) ที่ได้ประโยชน์จากภาคอุตสาหกรรมบางประเภทที่กลับเติบโต แต่สินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนโดดเด่นในปีนี้คือ พันธบัตรรัฐบาล จากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา

สำหรับ พอร์ตการลงทุนที่แนะนำในช่วง 1-3 เดือนนี้ ให้ถือตราสารหนี้ประเภทพันธบัตรรับบาล ประมาณ 60% และลงทุนในหุ้นกลุ่ม Value ประมาณ 40% สำหรับการลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ระดับปานกลาง ส่วนนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้มากขึ้น แนะนำ ลงทุนหุ้น 70% พันธบัตรรัฐบาลประมาณ 30%

โดยตลาดหุ้น DAOL SEC ให้น้ำหนักลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ แต่รอซื้อเมื่อตลาดผ่านจุดต่ำสุดซึ่งคาดว่าจะอยู่ประมาณช่วง 1-3 เดือนแรกของปี ขณะที่การลงทุนในหุ้นจีนที่ได้ปัจจัยบวกจากการเปิดประเทศแนะนำกระจายลงทุนในตลาด A-Share และ H-Share ผ่านกองทุนรวมที่มีผู้จัดการกองทุนคอยปรับพอร์ตให้

อย่างไรก็ตาม ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในปีนี้ที่ผ่านมา กำลังสะท้อนผลต่อเศรษฐกิจและตลาดสินทรัพย์ในนี้โดยเฉพาะการถดถอยของเศรษฐกิจที่จะต้องรับมือ อีกทั้งยังมีตัวแปรที่อาจจะสร้างผันผวนต่อตลาด เช่น ความขัดแย้งในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ดูเข้มข้นมากขึ้น เช่น กรณีเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ , ประเด็นทางการเมืองของไต้หวันกับจีนฯ

เราจะเห็นทิศทางของตัวแปรโลกที่มีแนวโน้มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แม้ว่าจะมีความไม่แน่นอน แต่เริ่มเห็นโอกาสการลงทุนมากขึ้น ซึ่งเป็นอีกปีที่มีความท้าทายในการจับจังหวะโอกาสบนความเสี่ยงที่มีอยู่ไม่น้อยในปีนี้