ธปท.สั่งแบงก์ พัฒนาระบบยืนยันตัวตน แทนใช้บัตรเดบิต-เครดิต ผ่านตู้ฝากเงิน

ธปท.สั่งแบงก์ พัฒนาระบบยืนยันตัวตน แทนใช้บัตรเดบิต-เครดิต ผ่านตู้ฝากเงิน

ธปท. ชี้แจงกรณีการปรับขั้นตอนการฝากเงินผ่านเครื่อง CDM ให้ต้องมีการยืนยันตัวตนผ่านบัตรเดบิต บัตรเอทีเอ็ม และบัตรเครดิต เพื่อยกระดับควาทปลอดภัยและปกปราบทุจริต สั่งแบงก์พร้อมพัฒนาช่องทางอื่น เพื่อใช้ยืนยันตัวตนลดผลกระทบประชาชน

     นางบุษกร ธีระปัญญาชัย ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายระบบการชำระเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ชี้แจงกรณีข่าวที่ธนาคารจะปรับขั้นตอนการฝากเงินผ่านเครื่อง CDM ซึ่งต้องมีการยืนยันตัวตนผ่านบัตรเดบิต บัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเครดิต ทุกครั้ง โดยจะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 เป็นต้นไป นั้น

        ธปท.สั่งแบงก์ พัฒนาระบบยืนยันตัวตน แทนใช้บัตรเดบิต-เครดิต ผ่านตู้ฝากเงิน เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตามที่ ปปง. ได้มีข้อชี้แจงเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2565
 

      ทั้งนี้ การยืนยันตัวตนของผู้ทำรายการฝากเงินเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงินมากขึ้น โดยธนาคารให้มีการยืนยันตัวตนผ่านเครื่อง CDM ของแต่ละธนาคาร สำหรับประชาชนที่ไม่มีบัตรเดบิต บัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเครดิต ทำให้ไม่สามารถฝากเงินที่เครื่อง CDM ได้ จะยังคงสามารถฝากเงินโดยใช้บัตรประชาชนผ่านช่องทางอื่นนอกเหนือจากฝากที่สาขาธนาคารได้

     ได้แก่ ตู้เติมเงิน เคาเตอร์ของร้านสะดวกซื้อ ไปรษณีย์ และตัวแทนรับฝากเงินอื่นของธนาคาร

       ทั้งนี้ ธปท. จะเร่งให้ธนาคารพาณิชย์ดำเนินการพัฒนาระบบให้สามารถรองรับการยืนยันตัวตนรูปแบบอื่น ๆ

      เช่น การใช้บัตรประชาชน หรือการยืนยันตัวตนในลักษณะ cardless เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนทุกกลุ่มโดยเร็วต่อไป