ยสท. พร้อมเยียวยาชาวไร่สนับสนุนปัจจัยการผลิต 50%

ยสท. พร้อมเยียวยาชาวไร่สนับสนุนปัจจัยการผลิต 50%

ยสท. เยียวยาชาวไร่ สนับสนุนปัจจัยการผลิต 50% ส่วนอีก 50% จะของบประมาณอุดหนุน พร้อมผุดไอเดียกองทุนช่วยเหลือเกษตรกรผู้เพาะปลูกยาสูบ

นายภูมิจิตต์  พงษ์พันธุ์งาม ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับคณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาราคาผลิตผลเกษตรกรรม สภาผู้แทนราษฎร ว่า ภายหลังการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตยาสูบแบบใหม่ ตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 และโครงสร้างภาษีสรรพสามิตยาสูบ 
ในปี 2564 ปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ผิดกฎหมาย บุหรี่หนีภาษี บุหรี่ปลอม กระแสความนิยมในผลิตภัณฑ์ทางเลือกใหม่อย่างบุหรี่ไฟฟ้า การแข่งขันทางการค้าในอุตสาหกรรมบุหรี่ต่างชาติ และจำนวนผู้สูบบุหรี่ที่น้อยลงตามนโยบายรัฐและกระแสโลก

ทำให้ ยสท. ได้รับผลกระทบจากยอดจำหน่ายที่ลดลง และยังส่งผลกระทบโดยตรงกับชาวไร่ยาสูบและผู้บ่มอิสระ จากการปรับลดโควตาการรับซื้อใบยา รวมไปถึง ปัจจัยการผลิตที่สูงขึ้น ทำให้ต้นทุนการเพาะปลูกยาสูบเพิ่มสูงขึ้นจากฤดูการผลิต 2564/2565

ซึ่งคณะกรรมการ ยสท. ได้อนุมัติการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรโดยสนับสนุนปัจจัยการผลิต  50% ในวงเงิน 56.16 ล้านบาท  ส่วนอีก 50%จะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ในวงเงิน 56.16 ล้านบาท ให้กับเกษตรกรผู้เพาะปลูกใบยาเวอร์ยิเนียและผู้บ่มอิสระ

ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงาน ยสท. ตั้งแต่ปี 2560 - ปัจจุบัน ปริมาณการจำหน่ายบุหรี่ลดลงอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ปริมาณการใช้ใบยาลดลง ทำให้ปริมาณคงคลังใบยาสูง จึงจำเป็นต้องลดปริมาณการรับซื้อใบยาจากชาวไร่

โดยการจัดหาใบยาแต่ละปีจะคำนึงถึงปริมาณคงคลังที่เหมาะสม  ปัจจุบัน ยสท. มีแนวทางแก้ไขเพื่อลดปริมาณคงคลังโดยติดต่อประสานการขายใบยาคงคลังที่มีอยู่ให้กับผู้ส่งออกและผู้สนใจจากต่างประเทศและส่งเสริมการขายยาเส้นมวนเอง ยาเส้นหั่นสดจากชาวไร่  และยาเส้นหั่นแห้ง โดยใช้ใบยาแห้งจากคงคลัง

ผู้ว่าการ ยสท. กล่าวว่า ภาคีเครือข่ายชาวไร่ยาสูบแห่งประเทศไทย ได้เดินทางมาหารือถึงข้อสรุปเกี่ยวกับการเยียวยาช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่ เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา โดยภาคีเครือข่ายชาวไร่ยาสูบฯ ได้ยื่นข้อเสนอให้ ยสท. ปรับลดโควตาใบยาเวอร์ยิเนียจาก 25%เป็น 5% แต่หาก ยสท. ไม่สามารถดำเนินการตามข้อเรียกร้องได้ ทางภาคีเครือข่ายชาวไร่ยาสูบฯ จะขอให้รัฐบาลจ่ายเงินชดเชยโควตาการผลิต 2565/2566 ที่ลดลงจากฤดูการผลิต 2564/2565 ในอัตราเดียวกันกับโครงการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้เพาะปลูกต้นยาสูบและผู้บ่มอิสระที่ได้รับผลกระทบจากการลดปริมาณการรับซื้อใบยาสูบของการยาสูบแห่งประเทศไทย เฉพาะฤดูการผลิต 2562/2563 กิโลกรัมละ 17.50 บาท  

นอกจากนี้ ผู้ว่าการ ยสท. ยังได้เสนอแนะให้จัดตั้งกองทุนช่วยเหลือเกษตรกรผู้เพาะปลูกยาสูบ โดยพิจารณาจากภาษีที่ ยสท. นำส่งรัฐ และให้นำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาช่วยจัดทำแพลตฟอร์มสำหรับบริหารงานด้านการวางแผนในการผลิต คงคลัง และการขายในอนาคตต่อไป