ถูกหวย ชิงโชคถูกรางวัล อย่านิ่งนอนใจ ภาษีที่จ่ายไป อาจยังไม่จบ!

ถูกหวย ชิงโชคถูกรางวัล อย่านิ่งนอนใจ ภาษีที่จ่ายไป อาจยังไม่จบ!

ดูก่อนเศรษฐี! ผู้โชคดีถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล สลากการกุศลพิเศษ หรือชิงโชคได้รางวัลมา ซึ่งส่วนใหญ่จะ "หักภาษี ณ ที่จ่าย" เรียบร้อยแล้ว แต่อย่าเพิ่งนอนใจ ภาษีที่จ่ายไปยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะบางรางวัลจะต้องนำมารวมคำนวณภาษีเงินได้ประจำปีด้วย

หากจะบอกว่าคนไทยคือประเทศอันดับต้นๆ ที่หลงใหลในการเสี่ยงโชคก็คงไม่ผิดนัก เพราะไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย การเสี่ยงดวงลุ้นรางวัลแบบถูกกฎหมาย อย่างสลากกินแบ่งรัฐบาลก็มีให้ลุ้นกันทุกเดือน หรือบริษัทต่างๆ จัดกิจกรรมเกี่ยวกับการเสี่ยงดวง ชิงโชคเพื่อรับของรางวัลเป็นของสมนาคุณ คืนกำไรให้กับลูกค้าก็มีให้เห็นอยู่ตลอด

โดยกิจกรรมชิงโชคลุ้นรางวัลเหล่านี้ หากเป็นรางวัลใหญ่มีมูลค่าสูง ใครที่ได้รับมาอย่าเพิ่งนิ่งนอนใจใช้เงินจนเพลิน เพราะคุณจะต้องนำมารวมเป็นรายได้เพื่อเสียภาษีด้วย ซึ่งบางรางวัลอาจจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายเพียงอย่างเดียว แล้วนำเงินไปใช้สอยได้อย่างสบายใจ แต่บางรางวัลจะต้องนำมารวมคำนวณภาษีเงินได้ประจำปีด้วย

ยิ่งถ้าหากได้รับรางวัลเป็นสิ่งของมูลค่าสูง เวลาเสียภาษีต้องจ่ายเป็นเงินที่สูงตามไปด้วย แล้วแบบนี้ถ้าผู้ได้รับรางวัลไม่มีเงินเสียภาษีจะทำอย่างไร ต้องเสียภาษีเท่าไหร่ ไปหาคำตอบพร้อมกัน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

  • ถูกรางวัลจากการซื้อ "สลาก"

สลากมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ “สลากกินแบ่งรัฐบาล” และ “สลากการกุศลพิเศษ” และเมื่อถูกรางวัลไม่ว่าจะเป็นรางวัลที่เท่าไหร่ จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายในส่วนของค่าอากรแสตมป์เพียงอย่างเดียว โดยไม่ต้องนำมารวมคิดคำนวณภาษีเงินได้ประจำปี ซึ่งอธิบายดังนี้

1.สลากกินแบ่งรัฐบาล จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายทันทีเมื่อไปขึ้นเงินในอัตรา 0.5% ของเงินรางวัล หรือเท่ากับ 1 บาท จาก 200 บาทของทุกรางวัล

2.สลากการกุศลชุดพิเศษ จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายทันทีเมื่อไปขึ้นเงิน ในอัตรา 1% ของเงินรางวัล

วิธีการจ่ายเงินเมื่อถูกรางวัล ทางกองสลากจะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ หากถูกรางวัลเป็นจำนวนไม่เกิน 20,000 บาท จะได้รับเป็นเงินสด แต่ถ้าหากถูกรางวัลมากกว่า 20,000 บาท จะได้รับเป็นเช็ค ซึ่งจะเป็นเช็คเงินสดแบบระบุชื่อผู้รับ เจ้าของผู้ถูกรางวัลสามารถนำไปขึ้นเงินสดได้ที่ธนาคารได้เลย โดยก่อนได้รับเงินจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายก่อนตามประเภทสลากดังที่กล่าวไปแล้ว

  • ถูกรางวัลจากการ "ชิงโชค" ต่างๆ

สำหรับนักล่ารางวัล เช่น รางวัลชิงโชค ประกวด แข่งรายการต่างๆ รางวัลใหญ่ที่ได้รับไม่ว่าจะเป็นเงินสดหรือสิ่งของ ผู้ได้รับรางวัลจะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 5% ก่อนรับรางวัล และไม่จบเพียงเท่านั้นเพราะเป็นแค่การนำส่งภาษีล่วงหน้าเท่านั้น ผู้ได้รับรางวัลจะต้องนำมูลค่ารางวัลมารวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี คิดตามอัตราขั้นบันได ตั้งแต่ 5% - 35% ขึ้นอยู่กับรายได้ในปีนั้นด้วย แล้วนำภาษีที่ถูกหักออกจากภาษีที่คิดคำนวณได้นั่นเอง

โดยเงินได้จากการเล่นเกม ชิงโชค ถือเป็นเงินได้ประเภทที่ 8 ที่ไม่สามารถหักค่าใช้จ่ายแบบเหมา 60% ได้ และเงินได้จากการชิงโชคในลักษณะนี้มักจะไม่มีสิทธิหักค่าใช้จ่ายใดๆ จึงต้องนำมาคำนวณและเสียภาษีเต็มจำนวน

ดังนั้น หากเป็นรางวัลที่มีมูลค่าสูง เช่น จักรยานยนต์ รถยนต์ จะต้องเตรียมเงินไว้ให้พร้อมเพื่อเสียภาษีเกือบแสนอย่างแน่นอน

ตัวอย่างเช่น

“สมมุติเงินรางวัล (รถยนต์) มูลค่า 1 ล้านบาท คำนวณแล้วต้องเสียภาษี 120,000 บาท โดยผู้ได้รับรางวัลจะต้องจ่ายเงิน 50,000 บาท เป็นภาษีหัก ณ ที่จ่ายก่อนได้รับรถยนต์มา และเมื่อถึงเวลาเสียภาษีประจำปี ให้นำที่หัก ณ ที่จ่ายไปก่อนหน้านี้มาลบออกจาก 120,000 บาท ก็จะเหลือภาษีที่ต้องจ่ายเพิ่มอีก 70,000 บาท”

จะเห็นได้ว่าหากได้สิ่งของเป็นรางวัลและมีมูลค่าสูงมาก ผู้ได้รับรางวัลจำเป็นต้องหาเงินมาเพื่อจ่ายภาษีเป็นหลักแสน ทำให้ส่วนใหญ่จะเลือกขายรางวัลนั้นๆ ไปเพื่อนำเงินมาใช้จ่าย และเก็บบางส่วนไว้จ่ายภาษีประจำปี

  • ระวัง! ได้รับรางวัลแต่ไม่ยื่นภาษีประจำปี

อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าเมื่อได้รับรางวัลจากการชิงโชคหรือเล่นเกม จะต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีด้วย โดยผู้ได้รับรางวัลจะต้องนำมูลค่ารางวัลมารวมเป็นรายได้เพื่อคำนวณภาษี ทว่าหากไม่นำมายื่นภาษีจะถือว่ามีความผิดทางกฎหมาย และมีบทลงโทษดังนี้

1.หากไม่ยื่นภาษีภายในระยะเวลาที่กำหนด จะต้องเสียเงินเพิ่มอีกร้อยละ 1.5 ต่อเดือน ของเงินภาษีที่ต้องจ่าย

2.หากถูกออกหมายเรียก โทษฐานไม่ได้ยื่นแบบ หรือยื่นแบบแล้ว แต่ชำระภาษีขาดหรือไม่เพียงพอ จะต้องจ่ายเงินเพิ่มและยังจะต้องเสียค่าปรับอีก 1 เท่า หรือ 2 เท่าของภาษีที่ต้องจ่ายทั้งหมด แล้วแต่ความผิดเป็นกรณีไป

3.หากไม่ยอมยื่นแบบ ภ.ง.ด.90, 91 หรือ 94 ภายในระยะเวลาที่กำหนด ต้องถูกปรับไม่เกิน 2,000 บาท

4.หากจงใจแจ้งความเท็จ แสดงหลักฐานเท็จ หรือฉ้อโกง เพื่อหนีการเสียภาษี มีโทษจำคุก 3 เดือน ถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000- 200,000 บาท

5.หากตั้งใจไม่ยื่นแบบภาษี เพื่อหนีการเสียภาษี มีโทษปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ

สรุป

ดังนั้น หากได้รับเงินรางวัลจากการซื้อสลากก็หมดห่วงเรื่องของภาษีเงินได้ประจำปี จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายในส่วนของอากรแสตมป์เท่านั้น ผู้ได้รับรางวัลก็สามารถนำไปใช้จ่ายได้เลย

แต่ในกรณีที่เป็นรางวัลจากการชิงโชค หรือแข่งขันชนะได้รางวัลมูลค่าสูง จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 5% ซึ่งถ้าได้รับเป็นสิ่งของจะต้องเตรียมเงินไว้เพื่อจ่ายภาษี 5% ก่อนรับรางวัล และยังต้องเตรียมเงินไว้สำหรับจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีด้วย

-----------------------------------
Source : Inflow Accounting
อ่านบทความน่ารู้เกี่ยวกับภาษีเพิ่มเติม คลิกที่นี่