คลินิกแก้หนี้ ปรับเกณฑ์ช่วยลูกหนี้ เป็นหนี้เสียก่อน 1 ก.ย.เข้าโครงการได้

คลินิกแก้หนี้ ปรับเกณฑ์ช่วยลูกหนี้ เป็นหนี้เสียก่อน 1 ก.ย.เข้าโครงการได้

คลินิกแก้หนี้ปรับ 2 เกณฑ์ช่วยเหลือลูกหนี้ ให้ครอบคลุมถึงลูกหนี้ที่มีสถานะเป็นหนี้เสีย ก่อน 1 กันยายน 2565 ให้เข้าโครงการได้เพิ่ม และปรับทางเลือกการปรับโครงสร้างหนี้สำหรับลูกหนี้รายใหม่

คลินิกแก้หนี้ ปรับเกณฑ์ช่วยลูกหนี้ เป็นหนี้เสียก่อน 1 ก.ย.เข้าโครงการได้     นางธัญญนิตย์ นิยมการ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า แม้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มทยอยฟื้นตัวชัดเจนขึ้นจากสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลาย แต่การฟื้นตัวดังกล่าวยังไม่ทั่วถึง 

      ประกอบกับค่าครองชีพ และอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทำให้ความสามารถในการชำระหนี้ของประชาชนยังแตกต่างกัน โดยบางกลุ่มยังผ่อนชำระได้น้อยจึงต้องใช้เวลานาน 

       ในขณะที่บางกลุ่มสามารถผ่อนชำระเป็นจำนวนเงินสูงขึ้นได้ เพื่อให้หมดภาระหนี้เร็วขึ้น จากเดิม ที่โครงการคลินิกแก้หนี้กำหนดการปรับโครงสร้างหนี้โดยให้ลูกหนี้ผ่อนชำระเงินต้นเป็นรายเดือน โดยจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี เป็นระยะเวลานานสูงสุด 10 ปี แต่เพื่อเป็นทางเลือกในการปรับโครงสร้างหนี้ที่เหมาะกับบริบทเศรษฐกิจมากขึ้น 

       คณะกรรมการกำกับดูแลโครงการคลินิกแก้หนี้ (กคน.) จึงได้ปรับปรุงเงื่อนไขการปรับโครงสร้างหนี้ในโครงการคลินิกแก้หนี้ 2 เรื่องได้แก่

      1. ปรับเกณฑ์คุณสมบัติการสมัครเข้าร่วมโครงการ ให้ครอบคลุมลูกหนี้ที่มีสถานะเป็นหนี้เสีย จากเดิม ก่อนวันที่ 1 เมษายน 2565 เป็นก่อนวันที่ 1 กันยายน 2565 เพื่อรองรับหนี้เสียรายใหม่ให้สามารถเข้าร่วมโครงการได้ 

       2. ปรับทางเลือกการปรับโครงสร้างหนี้จากเดิมที่มีเพียงทางเลือกเดียว เป็น 3 ทางเลือก ดังนี้

       ​2.1 ผ่อนชำระไม่เกิน 4 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี 
       ​2.2 ผ่อนชำระนานกว่า 4 ปี ไม่เกิน 7 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี 
        ​2.3 ผ่อนชำระนานกว่า 7 ปี ไม่เกิน 10 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี

      โดยให้มีผลสำหรับหนี้ใหม่ที่เริ่มผ่อนชำระในโครงการตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2565 เป็นต้นไป

      ทั้งนี้ ลูกหนี้ควรพิจารณาทางเลือกในการปรับโครงสร้างหนี้ให้เหมาะสมกับความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ของตนเอง 

      โดยลูกหนี้สามารถชำระ และปิดจบหนี้ได้เร็วกว่าเงื่อนไขที่ตกลงไว้ โดยไม่ต้องชำระค่าธรรมเนียมหรือค่าปรับใด แต่หากไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามเงื่อนไข ก็อาจต้องออกจากโครงการไป 

       สำหรับผลการดำเนินงานของโครงการคลินิกแก้หนี้ สะสมจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2565 มีลูกหนี้เข้าโครงการจำนวน 30,137 ราย รวม 90,539 บัญชี ภาระหนี้เงินต้นตามสัญญา 6,849 ล้านบาท 

      โดยเฉลี่ยลูกหนี้ 1 ราย มีเจ้าหนี้ในโครงการ 2 ราย เงินต้นคงเหลือตามสัญญา 232,844 บาท ในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เข้าโครงการในช่วงสถานการณ์โควิด-19 คือ ปี 2563 ถึงปัจจุบัน จำนวน 26,943 ราย 78,744 บัญชี

      ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ธปท. ยังได้ร่วมกับกระทรวงการคลัง แถลงข่าวการจัดงาน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้: มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” 

       ซึ่งครอบคลุมหนี้ประเภทต่างๆ จากเจ้าหนี้เอกชน และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมประมาณ 60 แห่ง มีกำหนดจะเริ่มเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนออนไลน์เป็นเวลาประมาณ 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน 2565 มุ่งช่วยลูกหนี้ที่ประสบปัญหาการชำระหนี้ รายได้ยังไม่ฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด-19 และยังไม่ได้รับความช่วยเหลือที่ผ่านมา จึงขอให้ประชาชนที่เข้าข่ายโปรดติดตามข่าว และเตรียมตัวลงทะเบียนต่อไป

      ประชาชนที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารโครงการ หรือติดต่อสมัครผ่านทางเว็บไซต์ (www.คลินิกแก้หนี้.com) LINE(@debtclinicbysam) และ Facebook (คลินิกแก้หนี้ by SAM) รวมทั้ง Call Center โทร.1443ได้ทุกวัน เวลา 09:00-19:00 น. 

 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์