Dime เจาะฐานนักลงทุนรายย่อย ปักธง3 ปีกวาด AUM 3พันล้าน

Dime เจาะฐานนักลงทุนรายย่อย ปักธง3 ปีกวาด AUM 3พันล้าน

ไดม์’ปฏิวัติการ‘ออม-ลงทุน’ เจาะนักลงทุนรายย่อย มี 50บาทก็ลงทุนหุ้นต่างประเทศได้ หวังเป็นสะพานช่วยคนไทย เข้าถึงการออมการลงทุน

Dime เจาะฐานนักลงทุนรายย่อย ปักธง3 ปีกวาด AUM 3พันล้าน          ปัจจุบันคนไทยมากกว่า 50ล้านคน มีบัญชีเงินฝาก จากประชากร 70ล้านคน เหมือนจะสูง แต่หากดูการเข้าถึงบริการทางการเงิน ที่ไม่ใช่เงินฝากการเข้าถึงยังน้อยมาก เช่น มีเพียง 3ล้านคน ที่มีบัญชีหุ้น และมีเพียง 1.5ล้านคนเท่านั้นที่มีบัญชีกองทุนรวม แต่งต่างกันสิ้นเชิงกับสหรัฐ หรือสิงคโปร์ ที่ประชากรมากกว่า50% มีบัญชีลงทุนหุ้น
        หากเจาะลึกกว่านั้น พบว่าคนไทยกว่า 75%เก็บออมความมั่งคั่งในรูปเงินสด มีเพียง3%เท่านั้นที่รักษาความมั่งคั่งในรูปของการลงทุน เพราะความรู้ความเข้าใจเรื่องการลงทุนที่ยังมีช่องว่าง และการให้บริการด้านการลงทุนมีต้นทุนสูง ทำให้การเข้าถึงการออม หรือการลงทุนยังคงมีอุปสรรคค่อนข้างมากสำหรับคนไทย 

Dime เจาะฐานนักลงทุนรายย่อย ปักธง3 ปีกวาด AUM 3พันล้าน        

กัมพล จันทวิบูลย์”ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคเคพี ไดม์ จำกัด (KKP Dime) บริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร กล่าว ด้วย Pain Point ของการเข้าถึงการออม และการลงทุนที่ยังมีช่องว่างอยู่มาก ทำให้การเข้าถึงสิ่งเหล่านี้ของไทยยังต่ำ หากเทียบกับต่างประเทศ 
        จึงเป็นที่มาของการเกิด ““Dime!” ไดม์ แอปพลิเคชัน ที่เกิดจากวิสัยทัศน์ที่ต้องการให้คนไทยเข้าถึงบริการทางการเงินการลงทุนมากขึ้น และหวังว่า Dime จะเป็นแอปพิเคชันที่ทำให้เกิดการปฏิวัติทุกข้อจำกัดของการออมและการลงทุน ไม่ว่าด้านความรู้ หรือรายได้ 

Dime เจาะฐานนักลงทุนรายย่อย ปักธง3 ปีกวาด AUM 3พันล้าน        โดยการใช้ “เทคโนโลยี”มาช่วยขับเคลื่อนในการให้บริการ และทำให้คนไทยเข้าถึงการออมและการลงทุนมากขึ้น เพราะทุกธุรกรรมที่เกิดขึ้นผ่าน “Dime”จะเป็นการทำบนดิจิทัลทั้งหมด แบบ End to End ผ่าน แอปพลิเคชั่น Dime เพื่อทำให้ต้นทุนในการใช้บริการต่ำที่สุดและเข้าถึงง่ายมากขึ้น
    การให้บริการผ่าน Dime เบื้องต้น จะนำร่องที่  3บริการหลัก คือ บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่ให้ดอกเบี้ยสูงถึง 3% สอง บัญชีหลักทรัพย์ต่างประเทศ ที่เปิดโอกาสให้การลงทุนในหุ้นต่างประเทศได้โดยใช้เงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 50บาท!

       โดย Dime จะนำร่องที่ จากตลาดหุ้นสหรัฐฯ เป็นตลาดแรก ก่อนจะขยายไปสู่ตลาดอื่นๆต่อไป เช่น  ฮ่องกง เวียดนาม และอินโดนีเซียต่อไป 
     ขณะที่นักลงทุนที่ลงทุนผ่าน “Dime” จะได้รับการยกเว้นค่าคอมมิชชันเดือนละ 1 ครั้ง สำหรับการซื้อขายครั้งแรกของทุกเดือน และรายการต่อไปจะเก็บตามจริงที่ 0.15% ของมูลค่าซื้อขาย

      และหากเปิดบัญชีวันนี้ นักลงทุนจะได้รับยกเว้นคอมมิชชันไปถึง 30 มิ.ย.2566 และสุดท้ายบัญชีกองทุนรวม ที่ซื้อขายกองทุนรวมได้จากทุกบลจ.รวมกว่า 1,700กอง
        เป้าหมาย “Dime” คือต้องการให้คนรายย่อย สามารถลงทุนหุ้นต่างประเทศได้ สามารถซื้อหุ้น Amazon Tesla ได้ด้วยเงินเริ่มต้นแค่ 50บาทก็สามารถลงทุนได้ ไม่ต่างกับลูกค้า  Wealth  
    และวันนี้  Dime  โฟกัสไปที่คนมีรายได้ที่หนึ่งหมื่นบาทขึ้นไป ก็สามารถเข้าถึงการลงทุนได้ แตกต่างจากการแข่งขันในตลาด ที่ส่วนใหญ่โฟกัสไปที่พอร์ตมั่งคั่งเป็นหลัก เหล่านี้สร้างความท้าทายกับ Dime พอสมควรในการเข้ามาเจาะตลาดกลุ่มนี้         
    “สิ่งที่ไดม์ทำคือ ทำให้เหรียญมีค่ามากขึ้น ทำให้รีเทลเข้าถึงการออมและการลงทุนมากขึ้น ทำไมเราถึงลงมาทำรีเทล เพราะเรามองว่า นอกจากทำอะไรที่ทำให้เกิดประโยชน์กับบริษัท พนักงาน ผู้ถือหุ้นแล้ว อีกแกนนึงก็อยากให้สังคมได้ประโยชน์ด้วย ดังนั้นสี่เสาก็ต้องบาลานซ์กัน เพราะการเข้าถึงการเงินสำคัญ ที่วันนี้มีช่องว่างค่อนข้างมาก ดังนั้นไดม์จะเข้ามาเป็นสะพานเพื่อปิดช่องว่างตรงนี้”กัมพลกล่าว
    เป้าหมายระยะสั้นของ Dime ตั้งเป้าในสิ้นปีนี้ บริษัทคาดว่าจะมีคนเปิดบัญชีจำนวน 1.5 แสนราย คิดเป็นสินทรัพย์ภายใต้บริหารจัดการ (AUM) อยู่ที่ 150 ล้านบาท หรือเฉลี่ยมีเงินฝากหรือเงินลงทุนราว 2พันบาทต่อบัญชี 
    และคาดภายในปี 2568 จำนวนผู้ใช้จะเพิ่มเป็น 1 ล้านคน มี AUM 2,000-3,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นจุด “คุ้มทุน”ของ Dime  
    ระยะยาว ในปี  2570 ตั้งเป้ามีฐานลูกค้าเป็น 3 ล้านราย และ AUM แตะระดับ  6,000 ล้านบาท    
    “เป้าหมายระยะสั้น เราอยากให้ลูกค้ามาลองใช้เราก่อน ว่าชอบหรือไม่ ตั้งแต่ตรงนี้ถึงสิ้นปี และอนาคตก็อยากมีลูกค้าหลักล้านคน บนสเกลที่ใหญ่ขึ้น เพื่อมั่นใจว่าเรามาถูกทาง หลังจากนั้นก็จะเห็นฟีเจอร์ใหม่ๆมากขึ้น เช่นประกัน ที่เราอยากดีไซด์ให้คนที่มีรายได้เพียง 350บาทต่อวันก็เข้าถึงได้”    
    สิ่งที่สำคัญ ในการให้บริการผ่าน Dime ที่เป็นประเด็นสำคัญคือ “ความสามารถ”ในการรองรับการทำธุรกรรม การลงทุนของนักลงทุน ที่วันนี้ Dime เชื่อว่ามีความ “น่าเชื่อถือ” และเสถียรภาพเพียงพอ ในการรองรับธุรกรรมจำนวนมากได้ 
    วันนี้  Dime มีการเปิดท่อเพื่อรองรับการทำธุรกรรมไว้มากกว่า 5 เท่าของเป้าหมายที่ตั้งไว้ เช่นหากสิ้นปีเราตั้งเป้าลูกค้า 1.5แสนคน ความสามารถรองรับลูกค้าที่เราเผื่อไว้จะมีถึง 5แสนคน และเมื่อไหร่ที่จำนวนธุรกรรมการขึ้นไปถึง 40%ของ capacity ทั้งหมด ระบบก็จะขยายอัตโนมัติเป็น 1ล้านคนทันที และระบบที่รันผ่าน Dime จะทำผ่านระบบ CLOUD ไม่ผ่านระบบแบงก์ ทำให้เกิดปัญหา “ล่ม”หรือสะดุดน้อยกว่า
       ท้ายที่สุดแล้ว Dime ก็อยากเป็น ธนาคารดิจิทัลที่ไม่มีสาขา Virtual Bank แต่ก็ต้องดูเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ที่จะออกมา ว่าเอื้อให้ Dime ไปสู่จุดนั้นมากน้อยแค่ไหน เพราะหากมีการกำหนดเงินกองทุนมากเกินไป เทียบเท่ากับการตั้งแบงก์วันนี้ ก็คงเป็นไปได้ยาก

Dime เจาะฐานนักลงทุนรายย่อย ปักธง3 ปีกวาด AUM 3พันล้าน      ดร.ฉัตริน ลักษณบุญส่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านผลิตภัณฑ์ กล่าวว่า “ปัญหาสำคัญสำหรับผู้ที่อยากลงทุน คือการเข้าถึงข้อมูล เพราะข้อมูลเบื้องลึกที่ใช้สำหรับตัดสินใจลงทุนมักมาพร้อมค่าใช้จ่าย

       แต่สำหรับแอปพลิเคชัน Dime! ตั้งแต่วินาทีแรกที่ดาวน์โหลด ลูกค้าทุกคนสามารถดูข้อมูลหุ้นต่างประเทศ ดูข้อมูลกองทุนรวมทุกชนิด รวมถึงอ่านบทความที่ให้ความรู้ทางการเงินได้ฟรีทันที 

       นอกจากนี้ Dime! ยังทำให้การเงินเป็นเรื่องง่ายที่สุดสำหรับทุกคน โดยลดขั้นตอนการเปิดบัญชีให้ลูกค้าสามารถเปิดทั้งบัญชีด้านการออม และบัญชีด้านการลงทุนพร้อมกันได้ในครั้งเดียว แม้กระทั่งการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ

      ซึ่งปกติสำหรับผู้ลงทุนรายย่อย มักบังคับจำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำที่สูง และมีภาระค่าธรรมเนียม ค่าใช้จ่าย และการทำเอกสารหลายขั้นตอน Dime! ยังช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าลงทุนในหุ้นต่างประเทศได้ด้วยเงินบาท และกำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 50 บาทเท่านั้น ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดในตลาดขณะนี้”

       สำหรับการจัดการและการให้บริการของแอปพลิเคชัน Dime! ซึ่งจะดำเนินการผ่านระบบดิจิทัลทั้งหมด รวมถึงการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยในระยะเริ่มต้น บริการหลักซึ่งลูกค้าจะได้ครบทุกบริการในทันทีที่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน มีดังนี้

      1. บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ Dime! Save บัญชีเงินฝากซึ่ง Dime! ร่วมมือกับธนาคารเกียรตินาคินภัทร ให้ดอกเบี้ยสูงสุดถึง 3% ไม่มีขั้นต่ำในการเปิดบัญชี

      โดยลูกค้าสามารถฝากเงินหรือโอนเงินได้โดยยืดหยุ่น และไม่มีเงื่อนไขมากเหมือนบัญชีฝากประจำ นอกจากนั้น ยังแอปพลิเคชันยังมีลูกเล่นให้ลูกค้าสามารถตกแต่งสลิปยืนยันการโอนเงินได้  ทำให้การใช้งานเป็นเรื่องสนุก และสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์

      2. บัญชีหลักทรัพย์ต่างประเทศ บัญชีนี้ทำให้การลงทุนในหุ้นต่างประเทศทำได้อย่างง่ายดาย โดยใช้เงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 50 บาทก็สามารถเป็นเจ้าของหุ้นชื่อดังในต่างประเทศได้

      นอกจากนี้ ยังอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรม เช่น ซื้อหุ้นต่างประเทศด้วยเงินบาทได้ หรือถ้าลูกค้าอยากแลกเงินบาทเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐเอง Dime! ก็จะแลกให้ทันที ไม่ต้องรอถึง 2 วันทำการ  ไม่มีค่าคอมมิชชันขั้นต่ำ และไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง เช่น ค่าธรรมเนียมโอนเงิน แลกเงิน หรือค่าธรรมเนียมยื่นแบบภาษี W-8BEN 

     3. บัญชีกองทุนรวม ซื้อขายกองทุนรวมได้ทุก บลจ. บัญชีกองทุนรวมของ Dime! สามารถลงทุนได้ทุกที่แบบไม่จำกัดค่าย 

     โดยปัจจุบัน Dime! รวบรวมกองทุนรวมในไทยมากกว่า 1,700 กองทุน จาก 21 บลจ. ภายในปี 2565 ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการกระจายการลงทุน แต่ไม่มีเวลาติดตามหุ้นรายตัวและผู้ที่ต้องการซื้อกองทุนรวมเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี

      นอกจากนี้ Dime! ยังมีการจัดหมวดหมู่รายชื่อกองทุนรวมที่น่าสนใจ ภายใต้ธีมต่าง ๆ ช่วยให้ผู้ลงทุนเห็นภาพรวมและตัดสินใจได้ง่ายขึ้น 

     อีกทั้งยังมีบริการ Dime! Fast ที่ช่วยให้ผู้ลงทุนจะได้รับเงินคืนภายใน 2 วันทำการ หลังส่งคำสั่งขายหน่วยลงทุน รวดเร็วกว่าแบบปกติที่อาจต้องรอนานถึง 7 วันทำการ 

    "เฉลิมวุฒิ ชมะนันทน์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านเทคโนโลยีกล่าวว่า “จุดแข็งหนึ่งของ Dime! คือ แม้ว่าเราจะเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันการเงิน แต่เรามีวัฒนธรรมองค์กรและกระบวนการทำงานแบบบริษัทเทคฯ สตาร์ตอัป

       "เราได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีจากทั้งในและนอกวงการการเงิน มาร่วมกันออกแบบโครงสร้างเทคโนโลยี โดยใช้สถาปัตยกรรมที่ทันสมัยและเป็นที่นิยมในปัจจุบัน และวางโครงสร้างทีมให้ทำงานได้อย่างคล่องตัว เราจึงสามารถออกแบบ สร้าง และเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ตอบโจทย์ผู้ลงทุนที่มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงอยู่อย่างต่อเนื่องและสามารถขยายโครงสร้างพื้นฐานของระบบ เพื่อรองรับปริมาณรายการธุรกรรมของผู้ใช้งานที่จะเติบโตต่อไปได้ตามที่เราตั้งเป้าไว้"