“สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ชี้ไทยเตรียมตั้งรับ “เศรษฐกิจถดถอย” ทั่วโลก 2-3 ปี

“สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ชี้ไทยเตรียมตั้งรับ “เศรษฐกิจถดถอย” ทั่วโลก 2-3 ปี

“สมคิด จาตุศรีพิทักษ์“ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ชี้โควิด - สงครามยังยืดเยื้อ นำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก2 - 3 ปี มองไทยกลับมาพึ่งพิงในประเทศ เร่งกระจายการท่องเที่ยวสู่ทุกจังหวัด - ปลดล็อกกฎหมายเพิ่มขีดความสามารถ - แก้ไขกลไกการเมืองในประเทศ

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ  กล่าวในพิธีเปิดหลักสูตร WEALTH OF WISDOM: WOW#1  จัดโดย "กรุงเทพธุรกิจ" และ ฐานเศรษฐกิจ ร่วมกับพันธมิตร ว่า สถานการณ์ในปัจจุบัน เรากำลังเผชิญ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ และการเมือง  ที่ไม่คิดว่าจะหนักขนาดนี้ และอนาคตก็จินตนาการยังไม่ออกจะเป็นอย่างไร 

เมื่อสถานการณ์ “การแพร่ระบาดโควิดกับความขัดแย้งยูเครนกับรัสเซีย” นำพาให้ทั่วโลกกำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย 

ขณะที่ ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อย่างสหรัฐ ยุโรปและจีน มีปัญหาทั้งหมด แน่นอนว่าจะส่งผลกระทบไปทั่วโลก และประเทศไทยเช่นกัน  สิ่งที่จะเกิดขึ้น และเราต้องเตรียมรับมือ  คือ 1.เศรษฐกิจโลกชะลอตัว 2.การส่งออกชะลอตัว 3. การท่องเที่ยวชะลอตัว 

ดังนั้นเมื่อประเทศไทย ไม่สามารถพึ่งพาการเติบโตจากนอกประเทศได้ เราก็กลับมาพึ่งพาการเติบโตจากในประเทศ เครื่องยนต์เศรษฐกิจที่มีอยู่ใช้ไม่ได้ มองว่า ต้องพึ่งพาสิ่งที่เหลืออยู่แก้ไขให้ดีขึ้น ใช้ให้เหมาะสมและถูก คือ 

1. การท่องเที่ยว ที่ยังต้องกระจายการเติบโตไปในทุกจังหวัด ทำให้รายได้กระจายตัวไปในถึงทุกชุมชน เพราะตอนนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับเข้ามา 40 ล้านคนก็จริง แต่สัดส่วน70% กระจุกตัวอยู่แค่ 3 จังหวัดคือสุราษฎร์ธานี ภูเก็ต และกระบี่

“สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ชี้ไทยเตรียมตั้งรับ “เศรษฐกิจถดถอย” ทั่วโลก 2-3 ปี

2.การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับคนไทย และธุรกิจไทย รองรับดิจิทัลอีโคโนมี ซึ่งภาครัฐต้องมีการปรับแก้กฎหมายให้ทันสิ่งใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

เช่น ผลักดันธุรกิจสตาร์ตอัป ดิจิทัลมันนี่ คนไทยทุกคนสามารถฝึกทักษะด้วยการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในราคาถูก หากเราทำช้าทุกอย่างก็จะยิ่งล้าหลัง เกิดความเหลื่อมล้ำไม่เท่าเทียมกัน และความสามารถของประเทศจะถดถอยยิ่งมากขึ้น 

“สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ชี้ไทยเตรียมตั้งรับ “เศรษฐกิจถดถอย” ทั่วโลก 2-3 ปี

3.กลไกการเมืองไทยต้องไม่ปล่อยไปสู่จุดที่เป็น โอลิการ์ก (Oligarch) หรือคณาธิปไตย ที่มีอภิมหาเศรษฐี (นายทุน) เข้ามาแทรกแซงการเมือง ทำให้เกิดโครงสร้างอำนาจ ที่กำหนดนโยบายการบริหารประเทศไปผิดทิศผิดทางได้ โดยมองว่า อาวุธของประชาธิปไตย อยู่ที่การออกมาโหวต ขณะที่รัฐบาลตอนนี้ต้องเร่งกลับมาสร้างความเชื่อมั่น ความเชื่อถือ สร้างพลังงานบริหารจัดการให้ได้

"เพราะตอนนี้ต่างชาติกำลังมองเราเหมือนเรือที่ลอยอยู่ในมหาสมุทร ที่กำลังจะเผชิญกับพายุลูกใหญ่ เราต้องเตรียมตัว แม้ที่ผ่านมาเราจะมีพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งสะสมมานาน แต่สิ่งเหล่านี้ก็จะถูกสั่นคลอนลงไป เพราะตอนนี้จริงๆ แล้ว เศรษฐกิจไม่มีแรง จีดีพีปีนี้โต 2.5% ไม่ได้เป็นที่น่าพอใจ  เราเหมือนคลานไปเรื่อยๆ เราคงไม่ปล่อยให้อนาคตเศรษฐกิจไทยเป็นเช่นนี้ ทุกคนต้องรู้บทบาทหน้าที่ตัวเอง และร่วมกันแก้ไขปัญหาสร้างอนาคตให้กับประเทศไทยด้วยความรู้และปัญญา” 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์