Bitcoin หลุด 86,000 ดอลลาร์ ใกล้จุดต่ำสุด แต่ Strategy ช้อนซื้อนับพันล้าน

ราคาบิตคอยน์ (Bitcoin)  ร่วง 3.7% สู่ระดับ 85,171  ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ  2 สัปดาห์วานนี้ (15 ธ.ค.) และยังคงลดลงประมาณ 30% จากราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่กว่า 126,000 ดอลลาร์เมื่อต้นเดือนต.ค. ก่อนจะฟื้นตัวมาเล็กน้อยในเช้าวันนี้(16 ธ.ค.) 

การร่วงลงครั้งนี้ทำให้นักวิเคราะห์กังวลว่า Bitcoin กำลังเคลื่อนเข้าสู่ภาวะ “ตลาดหมี” และเข้าใกล้จุดต่ำสุดของปี 2568 ที่เคยทำไว้ที่ประมาณ 74,400 ดอลลาร์ในเดือนเม.ย. 

การร่วงลงครั้งนี้แตกต่างจากปกติ เนื่องจาก Bitcoin ไม่ได้ฟื้นตัวตามสินทรัพย์เสี่ยงอื่น ๆ ที่เริ่มดีดตัวขึ้น แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดอัตราดอกเบี้ยไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็ตาม

โบฮาน เจียง นักเทรดอนุพันธ์อาวุโสของ FalconX กล่าวว่า "เรายังคงซื้อขายอยู่ในช่วงราคาที่ผันผวนมาก... โดยที่ความสนใจยังคงต่ำและปริมาณการซื้อขายโดยรวมในตลาดคริปโทยังคงอยู่ในระดับต่ำ"

สกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ก็ปรับตัวลงเช่นกัน โดย Ether, Doge และ XRP ลดลงประมาณ 5%  ขณะที่หุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับคริปโทก็ร่วงลงอย่างหนักเช่นกัน Strategy ร่วงลงกว่า 6.7% และ Coinbase Global Inc. ลดลงประมาณ 7%

Michael Saylor สวนตลาดซื้ออีกเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์

ในขณะที่ตลาดคริปโทเผชิญกับแรงขายหนัก Strategy Inc. หรือชื่อเดิมคือ MicroStrategy บริษัทบริหารจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลของ Michael Saylor กลับเดินหน้าเพิ่มการถือครอง Bitcoin อย่างต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่  2 ติดต่อกัน

บริษัทได้ซื้อ Bitcoin มูลค่า 980.3 ล้านดอลลาร์ ในช่วงวันที่ 8 - 14 ธ.ค. ถือเป็นการซื้อ Bitcoin ในปริมาณมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. และเป็นการซื้อมากกว่า 10,000 เหรียญติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2

การเข้าซื้อส่วนใหญ่ใช้เงินที่ได้จากการขายหุ้นสามัญ Class A ในราคาตลาด ซึ่งนักวิจารณ์กังวลว่าอาจทำให้มูลค่าหุ้นของผู้ถือหุ้นเดิมลดลง และแม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับการถูกถอดออกจากดัชนีสำคัญ แต่ดัชนี NASDAQ 100 ได้ตัดสินใจคง Strategy ไว้ในการปรับโครงสร้างประจำปี ซึ่งช่วยขจัดภัยคุกคามจากแรงขายที่อาจเกิดขึ้น