กูรูเฉลยแล้ว! Ledger Nano ที่ยึดจาก ‘นานา’ ใช่ ‘ตู้เซฟคริปโทฯ ซุกเงินหนี’ ได้จริงหรือ?

กูรู เฉลย Ledger Nano ไม่ใช่อุปกรณ์สำหรับเก็บเงินเพื่อลักลอบหลบหนี แต่เป็นเพียง Hardware Wallet ที่ทำหน้าที่เหมือน “ตัวช่วยจดจำรหัส” ของบัญชีคริปโทเคอร์เรนซีเท่านั้น
KEY
POINTS
- ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า Ledger Nano ไม่ใช่อุปกรณ์สำหรับเก็บเงินเพื่อลักลอบหลบหนี แต่เป็นเพียง Hardware Wallet ที่ทำหน้าที่เหมือน “ตัวช่วยจดจำรหัส” ของบัญชีคริปโทเคอร์เรนซีเท่านั้น
- อุปกรณ์นี้ไม่ได้เก็บเงินหรือสินทรัพย์ดิจิทัลไว้ข้างใน แต่ทำหน้าที่เก็บรักษากุญแจส่วนตัว (Private Key) ให้ปลอดภัยแบบออฟไลน์ ส่วนสินทรัพย์และธุรกรรมยังคงอยู่บนบล็อกเชน
- การกล่าวว่า Ledger Nano ช่วยให้ผู้ใช้ซุกเงินหนีออกนอกประเทศได้เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพราะถึงแม้จะไม่มีอุปกรณ์นี้ ผู้ที่ต้องการนำคริปโทฯ ออกนอกประเทศก็สามารถทำได้อยู่แล้ว
หลังจากที่ ตำรวจ ปอศ. บุก "นานา ไรบีนา" ที่บ้านพัก ในคดีฉ้อโกง และการกู้ยืมที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และเพื่อนสนิทที่กำลังร้อนระอุไปทั่วโซเชียล เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2568 พบว่า มีพฤติกรรมชักชวนให้ร่วมลงทุน 4 ประเภท ทั้งปล่อยเงินกู้ สินเชื่อบุคคล อ้างผลตอบแทนสูง 4–7% ต่อเดือน แต่ไม่ปรากฏธุรกิจจริงและไม่ได้รับอนุญาต หลอกลงทุนเทรดหุ้นแต่ตรวจสอบแล้วไม่เกิดขึ้นจริง ธุรกิจสนามบาส และร้านอาหารในและต่างประเทศที่ชวนลงทุนแต่ไม่มีอยู่จริง จนมีผู้เสียหายรวม 17 ราย มูลค่าความเสียหายพุ่งกว่า 195 ล้านบาท
ทั้งนี้ หลังการจับกุม เจ้าหน้าที่สอบสวนกลาง (CIB) ได้ตรวจค้นและยึดทรัพย์สินจำนวนมากเพื่อนำไปตรวจสอบ พบของกลางส่วนใหญ่เป็นสินทรัพย์มูลค่าสูงและของสะสมราคาแพงทั้งหมดมีมูลค่าราว 10 ล้านบาท
นอกจากนี้หนึ่งในของกลางที่ตำรวจยึดได้จาก "นานา ไรบีนา” คือ Ledger Nano ซึ่งหลายคนแอบกังวลว่า อาจจะเป็นกระเป๋าเก็บเงินคริปโทเคอเรนซี ที่เปรียบเสมือนตู้เซฟเก็บเงินดิจิทัลที่สามารถเก็บเงินได้เป็นหลายร้อยล้านบาท และสามารถหลบหนีหรือเป็นที่โยงย้ายสินทรัพย์ได้โดยง่าย และตามไม่เจอ ยากต่อการสืบค้นหา
กันตณัฐ วุฒิธร หัวหน้าทีมนักวิเคราะห์สินทรัพย์ดิจิทัล บริษัท บิทคับ แล็บส์ จำกัด ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า Ledger Nano ที่ปรากฏในข่าว ไม่ใช่อุปกรณ์เก็บเงินเพื่อลักลอบหลบหนี แต่เป็นเพียง ฮาร์ดแวร์วอลเล็ต (Hardware Wallet) ซึ่งใช้งานเหมือน “ตัวช่วยจดจำรหัส” ของบัญชีคริปโทเคอเรนซีเท่านั้น
"ไม่ว่าผู้ใช้จะมีอุปกรณ์นี้หรือไม่ บัญชีคริปโตและทรานส์แอคชันยังคงเหมือนเดิมทุกประการ โดย Ledger Nano มีหน้าที่หลักเพียงช่วยเก็บรักษารหัสผ่านให้ปลอดภัย ไม่ใช่ที่เก็บเงินหรืออุปกรณ์สำหรับ ซ่อนเงิน ตามที่หลายคนเข้าใจผิด แต่ทว่าการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ดังกล่าวเป็นแบบ Onchain ซึ่งหมายถึงการโอนเหรียญบนบล็อกเชนโดยตรง ไม่ต้องผ่าน Exchange หรือบุคคลกลางใด ๆ"
ดังนั้น การกล่าวว่า Ledger Nano ช่วยให้ผู้ใช้เก็บเงินและหนีออกนอกประเทศได้ จึงเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพราะต่อให้ไม่มีอุปกรณ์นี้ ผู้ที่ต้องการนำคริปโทเคอเรนซีออกนอกประเทศก็สามารถทำได้อยู่ดี
สำหรับฮาร์ดแวร์วอลเล็ตเป็นเครื่องมือพื้นฐานของนักลงทุนคริปโตใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะผู้ที่เลือกเก็บสินทรัพย์ด้วยตนเอง (Self-Custody) มากถึง 99% นิยมใช้อุปกรณ์แบบนี้ เนื่องจากมีข้อดี คือ ลดความเสี่ยงจากการเก็บเงินไว้ใน Exchange รวมถึงผู้ใช้จำนวนมากไม่ต้องการพึ่งพา Exchange ที่อาจล่ม ถูกแฮ็ก หรือปิดกิจการกะทันหัน และเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรม
สำหรับ Ledger Nano คืออะไร?
Ledger Nano คือกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ (Hardware Wallet) ขนาดพกพา สำหรับเก็บและจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างปลอดภัยแบบ ออฟไลน์ ไม่ว่าจะเป็นคริปโทเคอร์เรนซีหรือ NFT โดยทำหน้าที่เสมือน “อุปกรณ์ลงนาม” (signer) เพื่อยืนยันตัวตนและธุรกรรมต่าง ๆ ในโลกดิจิทัล
จุดเด่นและวิธีการทำงาน
• เก็บ Private Key แบบออฟไลน์ (Cold Storage) ตัวอุปกรณ์จะเก็บกุญแจส่วนตัวไว้ในชิปที่ปลอดภัยและไม่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ลดความเสี่ยงจากการแฮ็กหรือมัลแวร์ได้สูงมาก
• จัดการสินทรัพย์ได้หลายประเภท ผู้ใช้สามารถซื้อ ขาย แลกเปลี่ยน โอน หรือทำ Staking สินทรัพย์ดิจิทัลกว่า 5,500+ รายการ ผ่านแอป Ledger Live ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์หลักของ Ledger
• ต้องกดยืนยันธุรกรรมบนอุปกรณ์จริงทุกครั้ง ทุกการโอนหรือปรับแต่งข้อมูล จะต้องกดอนุมัติบนหน้าจอของ Ledger ทำให้ไม่มีใครทำธุรกรรมแทนได้ แม้คอมพิวเตอร์หรือมือถือจะถูกแฮ็กก็ตาม
• รองรับการเชื่อมต่อหลายรูปแบบ สามารถเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ผ่าน USB และในรุ่น Ledger Nano X ยังรองรับ Bluetooth เพื่อใช้ร่วมกับสมาร์ตโฟนทั้ง iOS และ Android







