สหรัฐผ่าน ‘ร่างกฎหมายคริปโท’ 3 ฉบับ จุดเปลี่ยนวงการ หรือเปิดช่องโหว่ให้ทรัมป์ ?

สหรัฐผ่าน ‘ร่างกฎหมายคริปโท’ 3 ฉบับ จุดเปลี่ยนวงการ หรือเปิดช่องโหว่ให้ทรัมป์ ?

สหรัฐผ่าน ‘ร่างกฎหมายคริปโท’ 3 ฉบับ เกี่ยวกับสเตเบิลคอยน์-กำหนดเกณฑ์ตลาด-ห้ามเฟดออก CBDC สู่จุดเปลี่ยนวงการ ฝั่งเดโมแครตหวั่นเปิดช่องโหว่ให้ทรัมป์

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานความคืบหน้า ร่างกฏหมายคริปโทในสหรัฐว่า วานนี้(17 ก.ค.)สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐได้ “อนุมัติร่างกฎหมาย 3 ฉบับ” ซึ่งอาจเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ สำหรับอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลที่พยายามผลักดันให้มีการออกกฎหมายในระดับรัฐบาลกลางมานานหลายปี   

ที่ผ่านมาการผลักดันร่างกฎหมายคริปโททั้ง 3 ฉบับเป็นไปอย่างยากลำบาก แม้พรรครีพับลิกันจะครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร หลังจากที่สภาล่างได้เสนอญัตติให้เปิดอภิปรายตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. ยาวมาถึงวันที่ 16  ก.ค. จนสุดท้ายผ่านญัตติได้อย่างฉิวเฉียดด้วยคะแนน 217 ต่อ 212 เสียง หลังจากการไกล่เกลี่ยของทรัมป์กับ ส.ส. รีพับลิกันสายอนุรักษนิยม 

รู้จัก ‘ร่างกฎหมายคริปโท’ ทั้ง 3 ฉบับ

1 ใน 3 ร่างกฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร คือ “ร่างกฎหมาย GENIUS Act” ที่มุ่งสร้างกรอบกำกับดูแลสเตเบิลคอยน์ในสหรัฐที่ได้รับการสับสนุนทั้งสองพรรคในวุฒิสภา เห็นชอบด้วยคะแนนเสียง 308 ต่อ 122 ทำให้ตอนนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวถูกส่งตรงไปยังประธานาธิบดี “โดนัล ทรัมป์” เพื่อลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป

หากมีการลงนามให้ GENIUS Act  เป็นกฎหมายสเตเบิลคอยน์จะต้องกำหนดให้โทเคนต้องได้รับการหนุนหลังด้วยสินทรัพย์สภาพคล่อง เช่น ดอลลาร์ และตราสารหนี้ระยะสั้นและให้ผู้ออกเปิดเผยองค์ประกอบของเงินสำรองต่อสาธารณะเป็นรายเดือน

 

ในวันเดียวกัน สภาผู้แทนราษฎรยังผ่านร่างกฎหมายอีก 2 ฉบับคือ

  •  ร่างกฎหมาย CLARITY Act (Digital Asset Market Clarity Act) ซึ่งกำหนดกฎเกณฑ์สำหรับตลาดซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี โบรกเกอร์ และผู้ออกเหรียญ 
  • ร่างกฎหมาย Anti-CBDC Surveillance State Act ร่างกฎหมายที่จะห้ามธนาคารกลางสหรัฐออกหรือใช้สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (Central Bank Digital Currency – CBDC) ในสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายทั้งสองยังต้องผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา ซึ่งทำให้อนาคตของร่างกฎหมายดังกล่าวยังคงไม่แน่นอน

เดโมแครตต่อต้าน Clarity Act หวั่นเปิดช่องให้ทรัมป์

ร่างกฎหมาย Clarity Act ซึ่งได้รับอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนเสียง 294-134 กำลังถูกส่งต่อไปยังวุฒิสภา ร่างกฎหมายฉบับนี้มีเป้าหมายสำคัญในการ กำหนดสถานะที่ชัดเจนของสกุลเงินดิจิทัลว่าเมื่อใดจะถือเป็นหลักทรัพย์หรือสินค้าโภคภัณฑ์ 

นอกจากนี้ยังจะ ชี้แจงขอบเขตอำนาจของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เหนือภาคส่วนคริปโท ซึ่งเป็นประเด็นที่บริษัทคริปโทหลายแห่งได้โต้แย้งอย่างหนักในสมัยรัฐบาลไบเดน

บริษัทในแวดวงคริปโทโต้แย้งว่า โทเคนส่วนใหญ่ควรจัดอยู่ในหมวดหมู่ "สินค้าโภคภัณฑ์" มากกว่า "หลักทรัพย์" เพราะจะช่วยให้แพลตฟอร์มต่าง ๆ สามารถนำเสนอโทเคนเหล่านี้แก่ลูกค้าได้ง่ายขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายหลักทรัพย์ที่มีข้อกำหนดมากมาย

นักการเมืองเดโมแครตบางส่วนได้ออกมาคัดค้านร่างกฎหมาย Clarity Act อย่างรุนแรง โดยให้เหตุผลว่าหากกฎหมายนี้ผ่านและนำไปสู่การควบคุมที่ผ่อนปรนมากขึ้น อาจเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับผลประโยชน์ด้านการลงทุนในคริปโทของทรัมป์