รู้จัก 'ร่างกฎหมายคริปโท' 3 ฉบับ ที่อาจผ่านสภาคองเกรสไม่ง่ายอย่างที่คิด

การผ่าน 'ร่างกฎหมายคริปโทเคอร์เรนซี' 3 ฉบับ อาจไม่ง่ายอย่างที่คิด แม้ทรัมป์เข้ามาช่วยเคลียร์ใจ สส. หลังสภาล่างตีกันยับ แค่เสนอญัตติโหวตก็ใช้เวลาถึง 2 วันเต็ม ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ
อนาคตของ "ร่างกฎหมายคริปโทเคอร์เรนซี" 3 ฉบับ ได้ถูกตั้งคำถามในวันพุธ หลังจากกลุ่มสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกันสายอนุรักษนิยมยังเดินหน้าคัดค้านเป็นวันที่สอง ในการเสนอญัตติให้มีการอภิปรายร่างกฎหมายดังกล่าวในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ
ก่อนหน้านี้ สภาล่างได้เสนอญัตติให้มีการเปิดอภิปรายร่างกฎหมายคริปโทเคอร์เรนซี 3 ฉบับ ตั้งแต่วันอังคารที่ 15 ก.ค.68 แต่ก็ล้มเหลวไม่สามารถผ่านญัตติได้แม้ว่าพรรครีพับลิกันของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จะครองเสียงข้างมากในสภาก็ตาม เนื่องจากมี สส. รีพับลิกันสายอนุรักษนิยมจำนวนหนึ่งที่ยังไม่เห็นด้วยกับการเดินหน้าอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซีเต็มรูปแบบ จนกระทั่ง ปธน.ทรัมป์ต้องเข้ามาไกล่เกลี่ยระหว่าง สส. ในพรรค
อย่างไรก็ตาม ความพยายามผ่านญัตติวันต่อมาในวันพุธที่ 16 ก.ค.68 ก็ยังไม่ใช่เรื่องง่าย และต้องใช้เวลานานถึง 10 ชั่วโมง หรือยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของสภาล่างสหรัฐ กว่าที่จะสามารถผ่านญัตติให้ร่างกฎหมายคริปโทเคอร์เรนซีได้ไปต่อในการเปิดอภิปรายต่อไป โดยได้คะแนนอย่างฉิวเฉียดที่ 217 ต่อ 212 เสียง เมื่อ สส. รีพับลิกันกลุ่มดังกล่าวยอมเปลี่ยนใจโหวตสนับสนุน
การผ่านญัตติอย่างยากลำบากตลอดสองวันที่ผ่านมา ทำให้เกิด "คำถาม" ขึ้นว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกันจะสามารถเชื่อมโยงมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล มากพอที่จะผ่านร่างกฎหมายฉบับสุดท้ายเพื่อนำไปสู่การลงนามเป็นกฎหมายต่อไป ได้หรือไม่
สำหรับอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งได้มอบเงินสนับสนุนหลายสิบล้านดอลลาร์ให้กับเหล่า สส. ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งครั้งล่าสุดนั้น การผลักดันญัตติอภิปรายร่างกฎหมาย 3 ฉบับมาได้อย่างยากลำบาก ถือเป็น "ความผิดหวังอย่างรุนแรง" ซึ่งกระทบต่อความหวังที่จะให้กรอบการกำกับดูแลคริปโทเคอร์เรนซีผ่านร่างกฎหมายในสัปดาห์นี้ ซึ่งถูกเรียกกันว่าเป็น "สัปดาห์คริปโท"
การสะดุดครั้งใหม่ในวันพุธ ยังทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับ "ขอบเขตอิทธิพลของ ปธน. ทรัมป์" ที่มีต่อสมาชิกพรรครีพับลิกันอีกด้วย
เปิดร่างกฎหมาย 3 ฉบับ ขับเคลื่อนวงการคริปโท
1. GENIUS Act (Guiding and Establishing National Innovation for U.S. Stablecoins Act)
ร่างกฎหมายฉบับแรกที่เสนอคือ กฎหมาย GENIUS ซึ่งจะบังคับใช้กรอบการทำงานระดับรัฐบาลกลางฉบับแรกของประเทศ สำหรับ stablecoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าผูกติดกับเงินดอลลาร์ โดยจำกัดการออก stablecoin เฉพาะกับผู้ออกที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐ และกำหนดให้ผู้ออกเหรียญต้องสำรองเงินดอลลาร์หรือสินทรัพย์สภาพคล่องอื่นๆ ในลักษณะ "1 ต่อ 1" เพื่อรองรับ stablecoin ดังกล่าว กฎหมายฉบับนี้ได้รับการอนุมัติในวุฒิสภาสหรัฐไปแล้วเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.68
2. CLARITY Act (Digital Asset Market Clarity Act)
นับเป็นกฎหมายที่สำคัญที่สุดในสัปดาห์คริปโทเคอร์เรนซี โดยเป็นกฎหมายที่จะมอบอำนาจให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) หรือ ก.ล.ต.สหรัฐ และคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า (CFTC) เป็นผู้กำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมด ยกเว้น Stablecoin
กฎหมายนี้นิยาม "สินค้าโภคภัณฑ์ดิจิทัล" ว่าเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีมูลค่าผูกติดกับการใช้บล็อกเชน สินทรัพย์เหล่านี้จะอยู่ภายใต้ CFTC ส่วนสินทรัพย์ดิจิทัลที่ขายให้กับนักลงทุนในรูปแบบหลักทรัพย์ (พร้อมสัญญาการลงทุน) จะถูกกำกับดูแลโดย ก.ล.ต. เป็นส่วนใหญ่
3. Anti‑CBDC Surveillance State Act
กฎหมายต่อต้านการเฝ้าระวัง CBDC ของรัฐ เป็นร่างกฎหมายที่ป้องกันไม่ให้ธนาคารกลาง (เฟด) สร้างสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) และขัดขวางไม่ให้คณะกรรมการบริหารของเฟดใช้ CBDC ในการดำเนินนโยบายการเงิน
หากร่างกฎหมาย CLARITY และ Anti-CBDC ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร กฎหมายเหล่านี้จะถูกส่งไปยังวุฒิสภาเพื่อเปิดอภิปราย และพิจารณาต่อไป ก่อนที่จะส่งไปยังประธานาธิบดีทรัมป์ หากมีการผ่านร่างกฎหมายนี้ทั้งสองสภา
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







